ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 31

อ้อมแขนของอู๋เป่ยเต็มไปด้วยความอบอุ่นโรแมนติก และใจเขาก็เต้นแรง เขาลูบไหล่จูชิงเหยียน: "ไม่เป็นไรนะ ฝ่ามือทรายเหล็กอะไรนั่น ผมมีวิธีพิเศษในการยับยั้งมัน!"

จูชิงเหยียนรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าที่อู๋เป่ยทำเเบบนี้ก็เพื่อจะช่วยตระกูลจู เขาคิดจะลงมือต่อสู้ช่วย เลยต้องหาเหตุผล แม้สิ่งที่ทำจะผิดก็ตาม

พอออกจากอ้อมแขนของอู๋เป่ย จูชิงเหยียนก็พูดว่า "ตอนนี้เราควรทําอย่างไรดี"

อู๋เป่ยถามจูฉวนอู่ "ที่คุณคุณลุงพูดก่อนหน้านี้ ว่าจะหาผู้มีมีฝีมือมาช่วยใช่ไหมครับ"

จูฉวนอู่ยิ้มด้วยความขมขื่น: "คนที่ผมติดต่อมาสองสามคน จู่ๆ ก็ติดต่อไม่ได้ ผมคิดว่าพวกเขาไม่น่าจะมา คงได้ยินข่าวอะไรมา และรู้สึกว่าอันตราย และวางมือยอมแพ้ไปแล้ว

อู๋เป่ย: "ไม่มาก็ไม่เป็นไรครับ เอาอย่างงี้ คุณลุงเรียกทุกคนในครอบครัวมาอยู่รวมตัวกัน ใจเย็นๆ

จูฉวนอู่พยักหน้า อู่เป่ยเป็นคนเดียวที่มีฝีมือพลังชี่ ในเวลานี้ทําได้เพียงฟังที่เขาบอก

ในที่สุด พอคุยกันจบ ผมก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านส่วนตัวในเขตชานเมืองด้านนอก การทำแบบนี้ หนึ่งจะได้ไม่เดือนร้อนต่อเพื่อนบ้านระแยกนั้น และวางมือจากศัตรู สองจะเป็นการช่วยถ่วงเวลน เพราะจนกว่าเฉียวป๋อจะหาพวกเขาเจอ ก็ต้องต้องใช้เวลาพอสมควร

ในตอนนี้อู๋เป่ยต้องการเวลาจริงๆ ในบทกวีที่ชื่อว่าอวกาศนั้นมีสีดำส่วนผืนดินนั้นมีสีเหลือง มีศิลปะการต่อสู้เพื่อยับยั้งฝ่ามือทรายเหล็กที่เรียกว่า "ดรรชนีวชิระเทวราช" ในการฝึก ดรรชนีวชิระเทวราช อย่างน้อยเขาต้องเปิดเส้นลมปราณที่แขนก่อน ซึ่งการเปิดเส้นชมปราณก็ต้องใช้เวลา

และแล้วจูฉวนก็หาที่พักในเขตชานเมืองด้านนอกได้แล้ว และมีห้องพัก 8 ห้อง เพื่อให้ทุกคนอาศัยอยู่ชั่วคราว

เนื่องจากอาการป่วยของจางลี่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เขาจึงโทรหาจางลี่และบอกเธอว่าเขาได้งานทําในตัวจังหวัด ไม่มีใครทำอาหาร ให้เธอมาอยู่ด้วยสักพัก ส่วนอู๋เหม่ย ให้เธออยู่บ้านปู่ก่อน

ในวันนั้นจางลี่ก็มาถึงตัวจังหวัด และอู๋เป่ยก็อาศัยอยู่ไม่ไกล ให้เธอเช่าที่พักระแวกนั้นเพื่อสะดวกในการรักษา

เขาใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อพยายามเปิดเส้นลมปราณ เขาคาดว่าอีกสักสองสามวันเขาก็จะสามารถเปิดเส้นลมปราณได้เพื่อฝึกดรรชนีวชิระเทวราช

ท้องฟ้ามืดลง ในเขตชานเมืองด้านนอกไม่มีแม้แสงสว่างในยามค่ำคืน ทั้งหมู่บ้านมืดไปหมด บางทีก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่า

ในเวลาค่ำคืนแบบนี้ทำให้เขามีสมาธิกับการฝึกซ้อม ความคืบหน้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เส้นเส้นลมปราณทั่วฝ่ามือซ้ายถูกเปิดออกเป็นที่เรียบร้อย ส่วนที่แขนก็ถูกเปิดอย่างง่ายดาย คาดว่าพรุ่งนี้ก็น่าจะเปิดทั้งหมด

ตอนเช้าเขาซื้ออาหารเช้าและไปเดินทางไปยังที่พักที่อยู่ไม่ไกล เพื่อรักษาแม่ของเขา หลังจากได้รับการฝังเข็มและยาต้มอย่างสม่ำเสมอ ไม่นานเซลล์มะเร็งในร่างกายของจางลี่ได้รับกมายับยั้ง แต่ถึงยังไงโรคนี้ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในภายในหนึ่งหรือสองวัน ดังนั้นจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป

พอรักษาเสร็จ เขาก็รีบไปที่พักที่ครอบครัวตระกูลจูอาศัยอยู่ แว็บเดียวเขาก็ไปถึง เที่ยงตรงวันต่อมา ในที่สุดเขาก็เปิดเส้นลมปราณที่มือขวาและแขนขวาได้ และแทบจะไม่สามารถฝึกนิ้วเพชรได้

ดรรชนีวชิระเทวราช เป็นนิ้วที่ทรงพลัง มีเส้นพลังพิเศษ และนิ้วทั้งห้านิ้วแต่ละนิ้วก็มีลูกเล่นแตกต่างกันออกไป เช่น นิ้วหัวแม่มือที่เรียกว่ามุทราเพชร จะมีพลังมาก นิ้วชี้เรียกว่านิ้วมังกร เพราะมันยืดหยุ่นและตีจุดฝังเข็มได้ดี นิ้วกลาง มีชื่อเรียกว่านิ้วผี มักจะสามารถทำคาดไม่ถึงเหมือนผี

รวมกันทั้งห้านิ้ว เรียกว่ามือกรงเล็บมังกรเพชร ซึ่งทรงพลังเหนือกว่ากรงเล็บนกอินทรีที่ทรงพลังมาก

ศิลปะการต่อสู้ของอู๋เป่ย ส่วนใหญ่เขาจะฝึกบริหารร่างกายเสียก่อน แล้วจึงฝึกวิชาอาคม ทักษะภายในของเขายอดเยี่ยมมาก เขาถึงฝึกวิชาดรรชนีวชิระเทวราชได้ค่อนข้างเร็ว เพียงไม่กี่ชั่วโมงเขาทำได้สำเร็จ

ที่เหลือ ก็แค่จะต้องฝึกการใช้นิ้วให้ชำนาญ และเชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดข้อบกพร่องน้อยที่สุด

ไม่นานก็ค่ำอีกแล้ว และตระกูลจูก็กลับไปที่ห้องของพวกเขาเพื่อพักผ่อน หลังจากที่อู๋เป่ยรักษาจูหยวนซานเสร็จ เขาก็นั่งสมาธิอยู่กลางห้องโถงต่อ

เขาใช้โอกาสนี้เปิดเส้นลมปราณที่ไหล่ขวาของเขา เพราะหลังจากเปิดเส้นลมปราณตรงนั้นได้แล้ว วิชาดรรชนีวชิระเทวราชก็จะยิ่งแรงกล้ากว่าเดิม

แก่นแท้จริงแล้ว สิ่งที่สําคัญที่สุดสําหรับอู๋เป่ยคือการฝึกชี่แท้* ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงฝึกการไหลเวียนชี่* ซึ่งจังหวเการไหลเวียน ก็คือการฝึกจังหวะลมหายใจชนิดหนึ่ง ด้วยวิธีการหายใจแบบพิเศษ สามารถทำให้ชี่แท้* มีการไหลเวียนที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษได้

ความถี่ต่างกันของชี่แท้* พลังก็จะต่างกันลาวฟ้ากับดิน เหตุผลที่ชี่แท้* ของอู๋เป่ยถูกเรียกว่าชี่แท้*เหลือง เป็นเพราะมีจังหวะไหลเวียนที่เป็นเอกลักษณ์

ในบทกวีที่ชื่อว่าอวกาศนั้นสีดำส่วนผืนดินคือสีเหลือง ชี่แท้*ผืนดินเหลืองมีหลายระดับ ระดับแรกแข็งแกร่งที่สุด และระดับห้าอ่อนแอที่สุด ตอนนี้อู๋เป๋ยเพิ่งจะอยู่ชี่แท้* ระดับสี่ ยังมีช่องโหว่ที่ต้องได้รับฝึกฝนอีกเยอะ

ชี่แท้* ระดับสี่ มีพลังทะลุทะลวงที่แข็งแกร่ง ซึ่งผลลัพธ์เทียบเท่ายอดวิชาตีวัวข้ามภูเขา ชี่แท้* ระดับสามมีพลังทําลายล้างที่แข็งแกร่งกว่า ซึ่งเรียกว่าพลังระเบิด

แรงระเบิดสามารถกระจายได้เพียงพื้นที่เล็กๆ แต่อนุภาคร้ายแรงมาก โดนตบไปหนึ่งที สามารถระเบิดหัวใจและทำให้กระดูกแตกได้เลย

เผลอแปบเดียวก็ตีสามแล้ว อู๋เป่ยรู้สึกว่าชี่แท้*ของเขา จู่ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้น ใจเต้น เริ่มรู้ตัวแล้วว่าชี่แท้*ระดับสามของตัวเองสำเร็จแล้ว!

"ใช่จริงๆ ชีแท้*ระดับสามกำลังหลอมรวมกับดรรชนีวชิระเทวราช พลังเพิ่มขึ้นอีกเท่า" เขาพูดในใจ

จู่ๆ หูของเขาก็ขยับ สายตาก็มองออกไปนอกประตู ทันใดนั้นก็มีเงามืดเหมือนค้างคาวอยู่ติดผนัง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นมีวิชาอาคมและเก่งในการสืบสวน นี่เป็นสัญญาณเตือน มีคนรู้เบาะแสที่อยู่ตระกูลจูแล้ว และส่งคนมาสํารวจลู่ทางก่อน

อู่เป่ยมาที่ประตูแบบเงียบๆ ข้ามกําแพงและกดนิ้วหัวแม่มือลง นั่นคือมุทราเพชร!

มุทราเพชรนี้มีพลังทะลุทะลวง และพลังระเบิด แม้จะถูกคั่นด้วยกําแพงขนาด 20 เซนติเมตรก็ไม่เป็นผลพลังก็ยังน่ากลัวเหมือนเดิม

"พัฟ!"

เหมือนเสียงประทัดระเบิดในน้ํา เงาดําที่เกาะติดผนังล่วงลงพื้น ปาก จมูก หู และตาก็มีเลือดออกและเสียชีวิตในทันที!

นิ้วของอู๋เป่ย ระเบิดหัวใจของเขา และฆ่าเขาได้ทันทีทันใด!

เขาปีนข้ามกําแพงเบาๆ โยนร่างลงไปในสระน้ําลึกที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นก็กลับไปนั่งพักที่ห้องโถง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ