ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 561

เว่ยหย่งชังอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก “หมอเทวดาอู๋ ตอนนั้นผมสนใจและกระตือรือร้นกับการฝึกฝนเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีคนคอยแนะนำ เลยไม่รู้ว่าผลที่ตามมามันจะร้ายแรงได้ถึงขนาดนี้!”

คำพูดของอู๋เป่ยในเวลานี้ ทำให้คนในที่แห่งนั้นต่างพากันตกใจ จนนั่งไม่ติด พวกเขาค่อยๆ ล้อมวงกันเข้ามาเพื่อดูว่าอู๋เป่ยจะรักษาได้ไหม และจะใช้วิธีการใดในการรักษา

อู๋เป่ย “เส้นลมปราณของคุณถูกเผาทำลายไปแล้วไม่น้อย และช่องวิญญาณก็เสียหายไปด้วยเหมือนกัน หากต้องการฟื้นตัวให้ดีขึ้นหล่ะก็ คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีเห็นจะได้ ลมปราณหยางของคุณจะไม่สามารถฝึกพลังยุทธ์ได้อีกต่อไป”

เว่ยหย่งชังรีบตอบกลับทันทีว่า “หมอเทวดาอู๋ครับ ขอแค่รักษาให้หาย เรื่องการฝึกพลังยุทธ์มันก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วครับ”

อู๋เป่ยหัวเราะและถามเขาว่า “คุณยังมีแบบฝึกพลังยุทธ์อื่นอีกไหม?”

เว่ยหย่งชังแสยะยิ้ม “มันก็พอมีอยู่บ้าง แต่มันดูง่ายเกินไป”

อู๋เป่ยสะดุดสายตากับคนเซียนผู้หนึ่ง ใบหน้าของคนเซียนผู้นั้นดูมีราศี แววตาทั้งคู่ของเขาค่อนข้างโดดเด่น สีผิวราวกับกวนอูอย่างไรอย่างนั้น แต่เขากลับมีรอยคล้ำรอบดวงตา และผมร่วงหายไปแล้วมากกว่าครึ่ง ส่วนเล็บของเขาก็มีสีเขียวคล้ำเข้ม

ทั้งคู่สบสายตากัน อู๋เป่ยเอ่ยขึ้นว่า “วิชาที่สหายฝึกฝนอยู่นั้นเป็นพลังหยินอย่างนั้นหรือ?”

ชายผู้นั้นไม่กล้าอ้อมค้อม เขารีบทำความคารวะและพูดว่า “หมอเทวดาอู๋ครับ วิชาที่เจียงหลิวอวิ๋นฝึกฝนอยู่นั้น คือ วิชาเฮยสุ่ยครับ”

อู๋เป่ย “สถานการณ์ของคุณกับเขาไม่ต่างกัน ล้วนแต่ฝึกวิชาที่ไม่เหมาะสมด้วยกันทั้งคู่ ร่างกายของคุณมีความพิเศษเป็นอย่างมาก ลักษณะของธาตุไฟที่แข็งแกร่ง และคุณเองก็ฝึกวิชาเฮยสุ่ยด้วยเหมือนกัน จนทำให้ธาตุไฟในตัวของคุณถูกควบคุมและสะสมเอาไว้ในอวัยวะภายในทั้งห้า จนไม่สามารถเผยออกมาได้ และด้วยเหตุนี้เองวิชาเฮยสุ่ยของคุณจึงพัฒนาไปอย่างช้าๆ ช่วงเวลากลางวัน อวัยวะทั้งห้าของคุณจะถูกเผาวอด และคุณเองจะรู้สึกเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก ส่วนในเวลากลางคืน ร่างกายของคุณจะรู้สึกหนาวเหน็บ ถึงขนาดที่เรียกว่าตายเสียยังดีกว่าอยู่ สิ่งที่ผมพูดถูกต้องหรือไหมครับ?”

เจียงหลิวอวิ๋นชะงักไปด้วยความตกใจ จากนั้นจึงรีบพูดขึ้นว่า “หมอเทวดาอู๋ สิ่งที่คุณพูดออกมานั้นถูกต้องทั้งหมดเลยครับ!”

อู๋เป่ยหัวเราะและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น นอกจากวิชาเฮยสุ่ยแล้ว คุณยังมีวิชาอื่นอีกด้วยไหม?”

เจียงหลิวอวิ๋นส่ายหน้า “ไม่มีวิชาอื่นอีกแล้วครับ”

อู๋เป่ย “ผมขอให้คำแนะนำกับคุณทั้งสอง พวกคุณทั้งสองสามารถแลกเปลี่ยนวิชาระหว่างกันได้ เจียงหลิวอวิ๋น หากคุณเปลี่ยนไปฝึกลมปราณหยางแทน มันจะทำให้การฝึกพลังยุทธ์ของคุณพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ส่วนคุณ เว่ยหย่งชัง หากคุณฝึกวิชาเฮยสุ่ยของเขาแล้ว คุณเองก็จะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าด้วยเช่นกัน”

ทั้งสองประสานสายตากัน และต่างพากันทำความคารวะอู๋เป่ย “เราทั้งสองเต็มใจ และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำของหมอเทวดาอู๋มากครับ!”

อู๋เป่ย “อาการป่วยของพวกคุณ ผมคงต้องค่อยๆ ทำการรักษากันไปก่อน ตอนนี้พวกเรายังขาดแคลนตัวยาบางตัวอยู่ ตอนนี้ผมเลยทำได้แค่ระงับอาการปวดของพวกคุณไว้เท่านั้น การรักษาในขั้นตอนต่อไป จำเป็นต้องออกตามหาตัวยาบางตัวให้ได้เสียก่อน”

เว่ยหย่งชังรีบพูดขึ้นว่า “หมอเทวดาอู๋ คุณต้องการตัวยาอะไรหรือ ผมสองคนจะออกไปตามหาเอง”

อู๋เป่ยพยักหน้า จากนั้นจึงใช้เข็มเซียนห้าอมตะ เพื่อระงับอาการป่วยของคนทั้งสอง ไม่ให้อาการแย่ลงไปมากกว่านี้

หลังจากลงเข็มไปได้สักพัก ทั้งคู่ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะ ทั้งคู่ต่างรีบกล่าวคำขอบคุณอู๋เป่ยกันยกใหญ่

ชายนักวิชาการแต่งตัวโบราณคนหนึ่ง อายุราวสามสิบต้นๆ ก้าวออกมาและพูดว่า “คุณอู๋ครับ ผมชื่อโจวเสียนจวี่ อยากจะรบกวนให้คุณช่วยตรวจร่างกายให้ผมทีครับ ”

อู๋เป่ยพยักหน้าและพูดว่า “นั่งลงก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

แม้ชายผู้นี้จะเป็นตี้เซียน แต่เขาก็ไม่เสียมารยาทและแสดงความเคารพต่อหน้าอู๋เป่ย เขาประสานมือแสดงการคำนับก่อนจึงค่อยนั่งลง

อู๋เป่ยสังเกตอยู่ครู่หนึ่งจึงพบว่า ชายนักวิชาการผู้นี้คือผู้มีอำนาจในตี้เซียนระดับสามนั่นเอง ซึ่งพลังอำนาจของชายผู้นี้น่ากลัวยิ่งนัก แต่เขาเองได้แต่น้ำท่วมปากพูดออกมาไม่ได้ จิตวิญญาณของเขาถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ซึ่งแต่ละส่วนล้วนเป็นเอกเทศของตน

แค่เขามองก็รู้แล้วว่าคนผู้นี้มีสามบุคลิก ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า โรคจิตเภทนั่นเอง แต่อาการของเขามันรุนแรงกว่าโรคจิตเภท และอันตรายมากกว่า!

อู๋เป่ยถอนหายใจเบาๆ และถามว่า “คุณคือใคร? เป็นคนส่วนบน ส่วนซ้าย หรือว่าส่วนขวากันหล่ะ?”

อันที่จริง จิตวิญญาณทั้งสามของชายผู้นี้ แบ่งแยกออกเป็นสามตำแหน่ง คือ ส่วนสมอง ส่วนหัวใจ และส่วนตับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ