ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 563

หัวใจของอู๋เป่ยเต้นรัว ดูเหมือนว่าจางเทียนเหิงเป็นคนที่ค่อนข้างรวดเร็ว เขาถามว่า “ถ้าผมไปจากที่นี่แล้ว ผมจะกลับมาเยี่ยมอีกได้มั้ย?”

ชายคนนั้นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ได้สิ!"

อู๋เป่ยพยักหน้าและพูดกับเผยชิ่งว่า"ทำตามที่ฉันบอก มันช่วยรักษาอาการให้คงที่ได้ชั่วคราว ไว้ฉันจะเตรียมยาแล้วรักษาให้คุณ"

เผยชิ่งโค้งคำนับด้วยความซาบซึ้ง "ขอบคุณท่านมาก!"

หลังจากพูดคุยกันอู๋เป่ยก็เดินตามคนที่มาหาเขาและออกจากคุกใต้ดิน

เมื่อเขากลับขึ้นมาข้างบน แสงแดดที่ส่องประกายทำให้เขาหรี่ตาลง ไม่นานนักเขาก็ถูกเชิญให้ขึ้นรถในทะเลทราย

คนที่นั่งอยู่ในรถเป็นชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าที่ไม่คุ้นตา อู๋เป่ยไม่รู้ว่าเขาอายุเท่าไหร่ บุคคลนี้มีระดับพลังยุทธ์ที่สูงมาก อีกทั้งยังเป็นปรมาจารย์ชั้นเทพระดับสามที่ยอดเยี่ยม

เมื่ออู๋เป่ยขึ้นรถ ชายคนนั้นก็โบกมือให้คนขับขับรถ เขาพูดกับอู๋เป่ยว่า “คุณอู๋ ผมชื่อจูจื้อซิน ผมมาที่นี่เพื่อทำตามคำสั่งของท่านแม่ทัพเฟิ่งแห่งจตุรเทพ พอรู้ว่าคุณอู๋ตกอยู่ในอันตราย ท่านแม่ทัพก็เลยเป็นห่วงมาก จึงส่งผมมาช่วย”

อู๋เป่ย "ขอบคุณท่านแม่ทัพที่เป็นห่วง"

จูจื้อซินกล่าวว่า "ท่านแม่ทัพบอกว่าเขาได้คุยกับคนจริงหม่าแล้ว ความบาดหมางระหว่างคุณกับเขาได้รับการแก้ไขแล้ว เขาจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนอีกต่อไป"

อู๋เป่ย "ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของท่านแม่ทัพ รบกวนนายไปแสดงความขอบคุณแทนฉันด้วย"

จูจื้อซินยิ้มและพูดว่า "เอาล่ะ คุณอู๋ เครื่องบินของเราอยู่ที่สนามบิน คุณจะกลับไปที่ไหน?"

อู๋เป่ยเตา "ไปที่เมืองฉือ"

ที่เมืองฉือยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้จัดการเพราะงั้นเขาจึงตัดสินใจกลับไปที่เมืองฉือก่อน

เมื่อรถมาถึงสนามบิน เขาก็ขึ้นเครื่องบินทหารและออกจากที่บ้าๆ แบบนี้

หลังจากขึ้นเครื่องบิน เขาก็นึกถึงเนื้อหาของอนุสาวรีย์ทั้งเก้านั่น แต่เมื่อหร่ก็ตามที่เขาจำได้ จิตใจของเขาก็มึนงง เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเลี้ยวไปทางอนุสาวรีย์เล็กๆ

เขารู้ว่าการทำอะไรเกินกำลังตัวเองมันไม่ดี เพราะงั้นเขาจึงศึกษาอนุสาวรีย์แรก ข้างบนมีการจดบันทึก อีกทั้งเขาก็มีดวงตาวิเศษ จึงสามารถเห็นอะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ไม่นานเขาก็ค้นพบเบาะแส รูปแบบที่บันทึกไว้บนแผ่นหินนี้นั้นเป็นประเภทที่ใช้เวทย์มนตร์ในสามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังในมิติลึกลับของจักรวาล ส่วนจะเป็นสัตว์อะไร ในบันทึกนี้ไม่มีการบันทึกไว้

“มันไม่ใช่สัตว์ชั่วร้ายใช่ไหม?” เขาพึมพำในใจ รู้สึกว่ามันดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่

ไม่ทันรู้ตัวเวลาก็ล่วงเลยไปถึงสี่ชั่วโมง เครื่องบินกำลังลงจอด

ใช้เวลาไม่นานอู๋เป่ยก็กลับไปที่บ้านของเขาที่ถนนสายลี่สุ่ย ตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว

เมื่อเขามาถึงประตูบ้านเขาก็เหลือบมองบ้านข้างๆ จังซีหลิงและพรรคพวกของเขายังไม่อยู่ที่นี่ เขาไม่สนใจเดินขึ้นห้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วติดต่อเปาไท

วันนั้นเขาได้นัดหมายกับเปาไท่เพื่อพบกันที่อาคารเคนโด ใครจะไปคิดว่าเขาฆ่าหมาตัว ทำให้หม่าเสวียนโกรธ สุดท้ายไปจบที่ไปอยู่แถวแถบตะวันตก เวลาผ่านไปก็เป็นเวลาสองวันแล้ว

เขาจุดบุหรี่แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของเปาไท่

ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เปาไท่พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก "ไอเด็กนี่ วันนั้นฉันรอแกตั้งนาน แต่แกกลับมามา ทำไม กลัวเหรอ?"

อู๋เป่ย "เปาไท่ คุณอยากเจอผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ก็ได้ ตามที่คุณต้องการ ผมจะไปที่อาคารเคนโดเดี๋ยวนี้แหละ"

เปาไท่ตะแค่นเสียงหัวเราะ "เหอะ ใช้ได้นี่ ฉันจะรออยู่ที่ที่อาคารเคนโด้!"

หลังจากวางสาย อู๋เป่ยก็ขับรถไปที่อาคารเคนโด้

มีอาคารเคนโด้เพียงแห่งเดียวในเมืองฉือที่คนญี่ปุ่นเป็นคนเปิด ชื่อเต็มคืออาคารมิโชเคนโด้ อาคารนี้มีชื่อเสียงมาก หลายคนไปที่นั่นเพื่อเรียนเคนโด้

เขามาถึงภายในเวลาครึ่งชั่วโมง

ในห้องโถงของอาคารเคนโด้ เปาไท่ยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นอู๋เป่ยเข้ามา เขาก็เยาะเย้ย "ไอคนแซ่อู๋ ถ้าแน่จริงก็มากับฉัน!"

อู๋เป่ยผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้และเขาไม่เกรงกลัวใคร อู๋เป่ยเดินตามไป ผ่านทางเดินและมาถึงพื้นที่ฝึกซ้อมเคนโด้

ตอนนี้ในสนามฝึกซ้อม คนญี่ปุ่นจำนวนมากนั่งคุกเข่าด้วยกันเป็นครึ่งวงกลม ฟังสิ่งที่ชายชราพูด

เมื่ออู๋เป่ยเข้ามา ชายชราก็หยุดพูดและมองอู๋เป่ยด้วยสายตาที่เฉียบคมดุจดาบ

เปาไท่เดินไปแล้วพูดว่า "พ่อบุญธรรม เขานี่แหละที่ชื่ออู๋เป่ย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ