ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 80

เมื่อพูดถึงยอดฝีมือชั้นราชันย์ อู๋เป่ยก็ถาม “พี่สามเคยเจอสุดยอดฝีมือชั้นราชันย์ไหมครับ?”

“ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันย์ไม่สนใจเรื่องภายนอก เป็นเหมือนตัวแทนของประเทศ ฉันเองก็ฟังเขามา แต่ฉันได้ยินมาว่าแม่ทัพแห่งจตุรเทพของประเทศเหยียนหลงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันย์ทั้งหมด!” สวี่จี้เฟยส่ายหัว

ทั้งสองคนคุยไปคุยมาก็มาถึงพระอุโบสถ อู๋เป่ยมองพระพุทธรูปแวบหนึ่งก็ใช้งานตาวิเศษ พบว่าพระพุทธรูปองค์นี้มีแสงสีทองไหลเวียนอยู่โดยรอบ!

แท้จริงแล้วแสงสีทองนี้คือแรงศรัทธาของผู้เลื่อมใสและศาสนิกชนจำนวนนับไม่ถ้วน มันเป็นธรรมและดีงาม มีความเมตตากรุณาและพลานุภาพ ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกเคารพศรัทธา

อู๋เป่ยมองซ้ายมองขวาจากนั้นก็หยิบเหรียญห้ามหาจักรพรรดิชุดนั้นออกมาวางบนโต๊ะบูชาเสียงเบาและท่องคาถาหนึ่งประโยค เมื่อเอ่ยคาถาออกไปแสงสีทองของพระพุทธรูปองค์นี้ก็กลายเป็นก้อนสีทองและถูกเหรียญดูดกลืนเข้าไป

“นายทำอะไรอยู่น่ะ?” สวี่จี้เฟยเกิดความสงสัยจึงถามออกมา

“ยืมอิทธิฤทธิ์พระพุทธเจ้ามาเบิกเนตรให้เหรียญห้าจักรพรรดิของผมน่ะครับ” อู๋เป่ยตอบ

“เบิกเนตร?” สวี่จี้เฟยหยิบเหรียญห้าจักรพรรดิขึ้นมาก็รู้สึกว่ามันมีพลังงานพิเศษบางอย่างที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

“ไม่คิดเลยว่านายจะรู้เรื่องวิชาอาคมด้วย!” เขาตกใจมาก รู้สึกว่าอู๋เป่ยยิ่งลึกลับขึ้นเรื่อยๆ

“แค่ความรู้เล็กน้อยเองครับ” อู๋เป่ยรีบเก็บเหรียญห้าจักพรรดิและเดินทางไปอุโบสถถัดไป

ครั้งนี้เขาหยิบเหรียญออกมาวางบนโต๊ะบูชาสองเหรียญและท่องคาถาเช่นเดิม หลังจากเบิกเนตรให้เหรียญสองเหรียญนี้แล้วพวกเขาก็ออกจากวัด

เมื่อเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วเสร็จก็กลับมายังโรงแรม ซึ่งขณะนี้ฟ้าได้มืดลงแล้ว

ถังจื่อยี่บอกว่าบนดาดฟ้าของโรงแรมมีบุฟเฟต์ปิ้งย่าง ข้างบนลมเย็นพัดผ่าน ให้ความรู้สึกสบาย จึงแนะนำให้กินปิ้งย่างกันคืนนี้ อู๋เป่ยตอบตกลงด้วยความยินดี

กังจื่อและถังจื่อยี่ไปย่างอาหาร อู๋เป่ยและสวี่จี้เฟยรับผิดชอบเบียร์และกินอาหาร พูดคุยเรื่องเฮฮาในวงการวรยุทธ์กันอย่างเต็มที่

ไม่นานจันทร์สว่างก็ลอยสูง

คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง อีกทั้งอากาศก็ดี เหมาะแก่การชมจันทร์ดื่มสุรา หลังกังจื่อและถังจื่อยี่ยุ่งกับการย่างอยู่พักหนึ่งก็มานั่งดื่มด้วยกัน

ดื่มไปได้ครึ่งหนึ่งก็มีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งขึ้นมาบนดาดฟ้า คนที่อยู่หน้าสุดคือไป๋จ่านหลิง ตามมาด้วยไป๋จ่านอิงและคนอื่นๆ

“ตึง!”

“คุณอู๋ ก่อนหน้านี้ผมผิดเอง ผมขอโทษ โปรดให้อภัยผมด้วยครับ!” ไป๋จ่านหลิงคุกเข่าลงตรงหน้าอู๋เป่ยและพูดเสียงหนักแน่น

อู๋เป่ยวางแก้วเบียร์ลง ใช้ผ้าเปียกเช็ดมือและกล่าวเสียงเรียบ “ไม่กล้ารับ คุณชายสองไป๋เป็นปรมาจารย์ชั้นพรสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นคนในตระกูลไป๋ จะมาก้มหัวให้หมอที่ไม่ได้เรื่องแบบผมได้อย่างไร? นี่เป็นการทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะไม่ใช่หรือครับ?”

สีหน้าไป๋จ่านหลิงเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด เขากัดฟัน “คุณอู๋ แค่คุณยอมรักษาพ่อผม จะว่าผมอย่างไรก็ได้ ถ้าหากยังไม่หายโกรธ คุณจะต่อยหรือฟันผมก็ได้!”

“ไม่กล้า” อู๋เป่ยกล่าว “โจมตีคนในตระกูลไป๋ก็เท่ากับผมรนหาที่ตายไม่ใช่หรือ?”

“คุณอู๋ พ่อผมอาจจะอยู่ได้ไม่เกินคืนนี้ โปรดใช้ฝีมืออันยอดเยี่ยมของคุณช่วยชีวิตเขาด้วย แล้วพวกผมตระกูลไป๋จะขอบคุณอย่างสุดซึ้ง!” ไป๋จ่านอิงกระแอมไอพร้อมคำนับ

“การช่วยชีวิตผู้คนเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว พวกคุณพาเขามาด้วยใช่ไหม?” อู๋เป่ยรู้ว่าควรพอเท่านี้จึงลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยถาม

“คุณทราบได้อย่างไรว่าพ่อผมก็มาด้วย?” ไป๋จ่านอิงตกใจเล็กน้อย

“ห่างกัน 3 เมตร ผมก็ยังได้กลิ่นพิษงูเหลือม รีบนำทางผมเถอะครับ!” อู๋เป่ยตอบ

“ครับ! ทางนี้ครับ!” ไป๋จ่านอิงรีบตอบด้วยความดีใจ

เวลานี้คนตระกูลไป๋เคารพอู๋เป่ยเป็นอย่างยิ่ง ไม่กล้าแสดงท่าทางดูถูกออกมาแม้แต่น้อย ได้แต่เดินนำทางด้วยความสุภาพจนมาถึงห้องชุดห้องหนึ่งของโรงแรม

ตระกูลไป๋เกรงว่าการไปมาระหว่างฮัวเฉิงและอี้เฉิงจะเสียเวลาเยอะ อาจทำให้ท่านผู้เฒ่าเสียชีวิตไปเสียก่อน จึงให้เครื่องบินมาส่งและเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้เสียเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ