ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 995

จางซือเว่ย "คุณหมออู๋ พวกเราต่างรู้สึกว่า ทักษะการแพทย์ของคุณเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฉันจึงมีความคิดที่หวังว่าหากคุณมีเวลา คุณสามารถอบรมแพทย์ในโรงพยาบาลของเราได้"

เขาชี้ไปที่แพทย์ที่มาเข้าร่วมแล้วพูดว่า "แพทย์เหล่านี้ก็เหมือนกับคุณ ล้วนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังและมีประสบการณ์ทางคลินิกมากมาย พวกเขาทั้งหมดอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีแล้ว และมีความสนใจในการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง หมออู่ ฉันหวังว่าคุณจะสามารถช่วยพวกเราให้ดีขึ้น"

อู๋เป่ยคิดอยู่ครู่แล้วพูดว่า "เรื่องนี้ของผมคิดก่อนนะครับ"

เขาจะอยู่ที่อวิ๋นตงเพียงไม่นาน เกรงว่าจะไม่มีเวลาพอที่จะสอนคน

จางซือเว่ยพูด "หมออู๋ คุณไปอยู่ในทุกแผนกซักช่วงเวลาหนึ่งแล้วชี้แนะพวกเขา แน่นอนว่าพวกเราจะไม่ให้คุรทำเปล่า คุณไปอยู่ในแผนกไหน ผลกำไรในแผนกนั้นเป็นของคุณ"

อู๋เป่นไม่พูดอะไรครู่หนึ่ง โรงพยาบาลนี้เป็นของตระกูลหลี่ นั้นหมายความว่าเขากำลังเอาเงินของตระกูลตัวเองไปใช่หรือไม่?

เขาพูด "เรื่องนั้นไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่รับประกันว่าจะสามารถสอนได้ดี และไม่รับประกันว่าจะสอนได้กี่คน และอีกอย่างจะสอนใครเป็นผมี่ตัดสินเอง ยิ่งไปกว่านั้น การมีแพทย์ประจำโรงพยาบาลของเราอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ พรุ่งนี้คุณประกาศว่าผมจะจัดชั้นเรียนฝึกอบรมในโรงพยาบแห่งนี้ และแพทย์จากโรงพยาบาลอื่นสามารถมาเขาอบรมได้เช่นกัน"

ดวงตาของจางซือเว่ยเป็นประกาย เขารู้สึกว่าคำแนะนำของอู๋เป่ยนั้นดีกว่าเขา เขาจึงรีบพูด "เอาสิ ทำแบบนั้นกันเถอะ!"

ในตอนเย็น อู๋เป่ยกลับมาที่สนามเด็กเล่น เด็กหลายคนยังคงต้องการการติดตามรักาาจากเขาอยู่

หลังจากรักษาเด็กเล็กแล้ว เขาก็ยังรู้สึกถึงพลังบุญต่อเนื่อง แน่นอนว่าเขาพบว่าคนไข้ที่มาหาเขา เพื่อรับการรักษาในวันนี้ต่างก็รู้สึกขอบคุณเขา ความชื่นชมนี้แปลงเปลี่ยนเป็นพลังแห่งบุญซึ่งถูกดูดซับโดยจิตวิญญาณยุทธ์ของเขาอย่างต่อเนื่อง

คืนนั้น เขาไม่ได้ฝึกซ้อมอีก แต่เขาเปิดคอมพิวเตอร์และพิมพ์บทความทางการแพทย์ชื่อพื้นฐานการแพทย์แผนใหม่ เขาเขียนอย่างรวดเร็วและมีความไพเราะ มีคำศัพท์มากกว่าหนึ่งล้านคำ

เพราะเขาพิมพ์เร็วมาก เขาจึงใช้คีย์บอร์ดไปมากกว่าหนึ่งโหลในคืนเดียว หนังสือเล่นนี้เป็นเพียงบทช่วยสอนเบื้องต้นเท่านั้น

หลังจากเขียนหนังสือเสร็จ เขาก็สั่งตีพิมพ์ต่อมาเขาก็วาดภาพประกอบเพื่อใช้เป็นสื่อการสอนร่วมกัน วันรุ่งขึ้นเขายังคงทำงานในโรงพยาบาล วันนี้เขาไปที่แผนกสูตินรี สูตินรีเป็นแผนกที่ค่อนข้าง "สกปรก" และเรียกติดตลกว่าเป็นแผนก "มีกลิ่น" และยังมีแพทย์หญิงมากที่สุดอีกด้วย

เมื่อเขามาถึงแผนกสูตินรี ผู้อำนวยการแผนกสูตินรีหลัวเสี่ยวหงมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง แผนกสูตินรีเป็นแผนกที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงพยาบาลจงอัน เนื่องจากผู้อำนวยการแผนกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนรีเวชวิทยาชั้นนำของประเทศ ในด้านความแข็งแกร่ง แผนกสูตินรีของโรงพยาบาลจงอันไม่ได้อ่อนด้วยไปกว่าโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งในอวิ๋นตงด้วยซ้ำ

หลัวเสี่ยวหงยิ้มแล้วพูดว่า "หมออู๋ ในที่สุดก็ไดพบคุณ"

อู๋เป่ยพูด "เกรงใจแล้ว พวกเรามาเรียนรู้ร่วมกันดีกว่า"

จากประสบการณ์เมื่อวาน วันนี้จึงอนุญาตให้เฉพาะคนไข้ที่มีหมายเลขของสูตินรีเท่านั้นที่เข้ามาได้ นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังโพสต์ประกาศที่ประตูใหญ่ว่าวันนีอู๋เป่ยอยู่ในแผนกสูตินรี

แพทย์ด้านสูตินรีที่มีความสามารถและระดับสูงที่สุดหลายคนเขามาสังเกตการณ์ เรียนรู้จากการวินิจฉัยการรักษาของอู๋เป่ย

ผู้ถ่ายทอดสดอันอันก็ปรากฏตัวอีกครั้ง โดยเธอได้เปลี่ยนเป็นชุดพยาบาลวิชาชีพสีชมพูเป็นพิเศษ เนื่องจากจำเป็นต้องปกป้องความเป็นเส่วนตัวของผู้ป่วย กล้องจึงถ่ายไปที่อู่เป่ยเสมอ

คนไข้คนแรกเป็นคุณป้าวัยห้าสิบปี ความต้องการของเธอนั้นเรียบง่ายมาก บอกว่าตอนที่คลอดลูกคนแรก เธออยู่ไฟไม่ถูกวิธีไปถูกลมเย็นเข้า ในตอนนี้ไม่สามารถถูกลมได้ อากาศรอนแค่ไหนก็ไม่กล้าเปิดแอร์หรือพัดลม ไม่เช่นนั้นจะปวดหลัง ปวดขาและอาการปวดเหล่านี้จะปวดหนักเป็นพิเศษ

อู๋เป่ยสังเกตและพูดคุยกับแพทย์หลายคนว่า "สถานการณ์ของผู้ป่วยรายนี้เป็นสถานการณ์ทั่วไปที่สมดุลระดับไมโครของเนื้อเยื่อถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวด ตราบใดที่ความสมดุลกลับคืนมา ความเจ็บปวดของเธอก็จะหายไป"

จากนั้นเขาก็ถามคุณป้า "ได้ทำการฝังเข็มและทำการนวดด้วยใช่ไหมครับ มีผลอะไรไหมครับ?"

คุณป้าพยักหน้า "ใช่ค่ะหมอ แต่ก็ช่วยได้ไม่นาน ความเจ็บปวดก็จะกลับมาอีกหลังจากนั้นไม่กี่เดือน เฮ้อ หลายปีมานี้ฉันไปเจอหมอมาหลายคนก็ไม่สามารถรักษามันได้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ