ตอนที่ 1012 สุนัขตัวใหม่
……………………………………………………………………..
หวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็กลัวว่าหวังฉิงเซิงจะพูดอะไรบางอย่างออกมาดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของโอ่วหยางหมิงซวน
เมื่อเห็นแบบนี้หวังฉิงเซิงก็ตื่นเต้นมากเพราะทุกอย่างถูกสร้างมาเพื่อเขาเพราะเขากำลังคิดว่าจะติดต่อคนจากตระกูลโอ่วหยางอย่างไรอยู่พอดีแต่ตระกูลโอ่วหยางกลับเดินมาหาเขาเอง ซึ่งเมื่อมองดูสีหน้าของหวังหว่านยู่แล้วหวังฉิงเซิงก็เดาว่าโอ่วหยางหมิงซวนคงจะถามเรื่องหยานซื่อฉุยและเมื่อคิดแบบนั้นเขาก็มีความสุขมาก
ซึ่งหวังฉิงเซิงก็ไม่กล้ารอช้าเลยและรีบก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “สวัสดีครับนายน้อยโอ่วหยางผมหวังฉิงเซิง”
โอ่วหยางหมิงซวนก็มองไปที่หวังฉิงเซิงจากหัวจรดเท้าและรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาและพูดเบาๆว่า “ไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรอกเราคนกันเอง” จากนั้นจึงหันไปมองหวังหว่านยู่และพูดว่า “ผมจะอยู่ที่เมืองซีหนิงอีกสักสองสามวันเพราะงั้นถ้าหากมีอะไรที่จะให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลย”
“ขอบคุณนายน้อยโอ่วหยางมาก” หวังหว่านยู่พูดต่อ “แล้วนายน้อยโอ่วหยางจองที่พักหรือยังครับ..ถ้ายังทำไมคุณไม่พักที่นี่ล่ะ?..ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย”
“ไม่จำเป็นเพราะตระกูลโอ่วหยางเองก็มีบ้านพักอยู่ในเมืองซีหนิงเหมือนกันและผมจะไปพักที่นั่น” โอ่วหยางหมิงซวนยืนขึ้นขณะที่เขาพูด “งั้นผมขอตัวก่อนนะคุณไม่ต้องออกไปส่งก็ได้”
ต่อให้โอ่วหยางหมิงซวนจะพูดแบบนั้นแต่หวังหว่านยู่จะกล้าทำตามที่เขาพูดได้อย่างไร? เขาจึงรีบลุกขึ้นและไปส่งโอ่วหยางหมิงซวนออกจากคฤหาสน์ด้วยความเคารพ เมื่อเขาไปถึงประตูทางเข้าหวังหว่านยู่ก็สั่งว่า “ฉิงเซิงขับรถไปส่งนายน้อยโอ่วหยางด้วย..ขับรถระวังทางด้วยล่ะ!”
แน่นอนว่าหวังฉิงเซิงไม่สามารถปฏิเสธได้เขาจึงเปิดประตูรถและพูดว่า “เชิญครับนายน้อยโอ่วหยาง”
โอ่วหยางหมิงซวนก็ไม่ได้ปฏิเสธและเดินขึ้นรถไปอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเขาไม่ได้ปฏิเสธเพราะการที่หวังฉิงเซิงมาขับรถให้เขานั้นมันค่อนข้างน่าสนใจและแน่นอนว่าหวังหว่านยู่ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้และเขายังสร้างโอกาสที่ดีเช่นนี้ให้กับหวังฉิงเซิงอีกด้วยดังนั้นถ้าหากเขารู้ทีหลังล่ะก็เขาจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของเขาอย่างแน่นอน
เมื่อมองดูรถออกไปอย่างช้าๆหวังหว่านยู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชาและเจตนาฆ่าก็ปะทุขึ้นในดวงตาของเขา เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเจตนาฆ่าที่มีต่อโอ่วหยางหมิงซวนเพราะการมาเยือนเมืองซีหนิงของโอ่วหยางหมิงซวนครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเคาะภูเขาและเขย่าถ้ำเสือเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าอย่าเล่นตลกกับตระกูลโอ่วหยาง ซึ่งตราบใดที่หวังหว่านยู่ก้าวผิดเพียงก้าวเดียวล่ะก็เขาจะย้อนกลับไม่ได้อีก
ในรถหวังฉิงเซิงต้องการจะพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดีจนบรรยากาศในรถดูเงียบมาก ส่วนโอ่วหยางหมิงซวนก็ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “คุณมีอะไรจะพูดหรือเปล่า?” เขาไม่ใช่คนโง่เพราะเขาเป็นคนที่ผู้นำตระกูลโอ่วหยางไว้ใจ ดังนั้นเขาจึงมีความสามารถไม่น้อยไม่อย่างนั้นเขาจะรับผิดชอบอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของตระกูลโอ่วหยางได้อย่างไร?
“ผมไม่รู้ว่าควรพูดดีหรือเปล่า” หวังฉิงเซิงพูด
“เราคนกันเองและทุกคนเป็นพี่น้องเพราะงั้นมันไม่มีอะไรที่ไม่สามารถพูดกับผมได้หรอก..ว่าแต่มันเกี่ยวกับหวังหว่านยู่หรือเปล่า?..คุณกลัวว่าถ้าคุณพูดออกมาแล้วกลัวว่าผมจะคิดว่าคุณทรยศเจ้านายของคุณใช่มั้ย?” โอ่วหยางหมิงซวนพูดด้วยรอยยิ้มและพูดต่อ “พูดออกมาได้เลยเพราะคุณเองก็น่าจะรู้ดีกว่าใครว่าหวังหว่านยู่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลโอ่วหยางของผมหรือถ้าจะให้พูดชัดๆก็คือตระกูลโอ่วหยางเป็นเจ้านายที่แท้จริงของคุณเพราะงั้นคุณควรชัดเจนว่าใครคือคนที่อยู่สูงที่สุด”
“ได้ครับ” หวังฉิงเซิงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าและพูดว่า “นายน้อยโอ่วหยางรู้จักหยานซื่อฉุยหรือเปล่าครับ?”
“แน่นอนผมรู้จักและรู้ด้วยว่าหวังหว่านยู่มีปัญหากับหยานซื่อฉุยเมื่อไม่นานมานี้..แล้วมีเรื่องอื่นอีกมั้ย?” โอ่วหยางหมิงซวนถาม
“วันนี้หวังหว่านยู่สั่งให้ผมพาคนของเราไปฆ่าหยานซื่อฉุย..ซึ่งผมได้พบกับชายชราคนหนึ่งอยู่กับเธอและดูเหมือนว่าเขาจะเป็นอาจารย์ของหยานซื่อฉุย” หวังฉิงเซิงพูด
“อะไรนะ?” โอ่วหยางหมิงซวนก็ถึงกับผงะและพึมพำ “ผู้อาวุโสตู้มาที่เมืองซีหนิงด้วยงั้นเหรอ?” จากนั้นเขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “หืม..นับวันหวังหว่านยู่ยิ่งหยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อยๆเลยสินะ..ผมเตือนเขาไปครั้งก่อนว่าอย่าไปรบกวนหยานซื่อฉุยแต่ตอนนี้เขากล้าที่จะสั่งลูกน้องไปฆ่าหยานซื่อฉุยอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้!..ว่าแต่พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน