“บอส…!” หลิวเทียนเฉินพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นทว่าก็ดูหมดเรี่ยวแรง
เย่เชียนยับยั้งความตื่นเต้นในใจของเขาไว้และมองไปที่หลี่เหว่ยยี่ จากนั้นหลี่เหว่ยยี่ก็รีบลงไปในน้ำทันที เขาใช้มีดตัดเชือกออก ส่วนเย่เชียนเองก็รีบเข้าไปพยุงหลิวเทียนเฉินเอาไว้แล้วถามเขาว่า “คุณเป็นไงบ้าง ? เดินไหวมั้ย ?”
“ไหว…!” หลิวเทียนเฉินตอบอย่างหนักแน่น แต่ในขณะที่เขาก้าวขาออกมานั้น เขาก็เข่าอ่อนทรุดลงไป ซึ่งถ้าเย่เชียนไม่ได้กำลังพยุงตัวเขาเอาไว้ เขาก็คงจะล้มลงไปที่พื้นแล้ว
“ฉันถูกมัดมานานเกินไป… เลือดมันคงไม่ค่อยได้หมุนเวียนน่ะ ขอเวลาฉันปรับตัวสักครู่นะ” หลิวเทียนเฉินพูดพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“เอ่อ… บอส… ฉันขอโทษ…!” หลิวเทียนเฉินพูดออกมาด้วยความรู้สึกละอายใจ
“ไม่ต้องพูดแล้ว… ไว้กลับไปค่อยคุยกัน” เย่เชียนพูดเรียบ ๆ
“บอส! ฉันอยากจะฆ่าพวกมันให้หมด!” หลิวเทียนเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและโกรธเกรี้ยว
“ไม่ต้องห่วง เพื่อนพี่น้องของคุณจะช่วยคุณแก้แค้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เราต้องออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกันต่อ”
หลิวเทียนเฉินพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงด้านข้างของรั้วทางด้านทิศตะวันตก เย่เชียนก็พูดว่า “เหว่ยยี่ นายพาพี่เทียนเฉินออกไปก่อนนะ… เดี๋ยวฉันจะไปสมทบกับชิงเฟิงและเฟิงหลาน… เสียงปืนจะเป็นสัญญาณของเราที่จะระเบิดคลังแสงของพวกมัน ส่วนนายมีหน้าที่คุ้มกันให้พวกเรา มีคำถามอะไรเพิ่มเติมมั้ย ?”
“ไม่ครับ!” หลี่เหว่ยยี่ตอบ
“บอส… ฉันไม่ไป! ฉันสามารถเข้าร่วมการต่อสู้นี้ได้ ความอัปยศที่ฉันต้องอดทนอดกลั้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ฉันจะชำระล้างมันด้วยการอาบเลือดของศัตรูเท่านั้น!” หลิวเทียนเฉินพูดอย่างแน่วแน่
เย่เชียนมองไปที่เทียนเฉินและเห็นการแสดงออกของเขาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูดว่า “หลี่เหว่ยยี่… นายเอาปืนให้เขาซิ!”
หลี่เหว่ยยี่ถอดปืนไรเฟิลจู่โจมที่เขาสะพายอยู่ด้านหลังออกแล้วส่งมันให้กับหลิวเทียนเฉินก่อนจะตบไหล่เขาเบา ๆ เขาไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เพราะการแสดงออกสามารถสื่อทุกอย่างได้มากกว่าคำพูดอยู่แล้ว
“หลี่เหว่ยยี่… นายกับพี่เทียนเฉินไปจัดการทหารยามบนหอสังเกตการณ์นะ ส่วนฉันจะไปสมทบกับชิงเฟิงและเฟิงหลานเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ให้พวกเราทุกคนไปรวมพลกันที่คลังแสง… เข้าใจมั้ย ?” เย่เชียนกำชับ
“รับทราบครับ!” หลี่เหว่ยยี่ตอบ
เย่เชียนพยักหน้า จากนั้นเขาก็เดินออกไปทางซ้าย ในที่สุดพวกเขาก็สามารถช่วยชีวิตหลิวเทียนเฉินเอาไว้ได้แล้ว ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
ในระหว่างทางที่เขาจะไปสมทบกับชิงเฟิงและเฟิงหลาน เขาได้จัดการกับทหารยามไปจำนวนหนึ่งและซ่อนร่างไร้วิญญาณของพวกเขาเอาไว้ ซึ่งกว่าที่ศัตรูจะค้นพบและรู้ตัวก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ ๆ
ทันทีที่เย่เชียนเข้าไปในคลังแสง จู่ ๆ ก็มีปืนสองกระบอกจ่อไปที่หัวของเขา
“นี่ผมเอง!” เย่เชียนพูด
ชิงเฟิงและเฟิงหลานรีบลดปืนของพวกเขาลงในทันทีและถามว่า “บอส! บอสเจอพี่เทียนเฉินมั้ย ?”
“ตอนนี้เขาอยู่กับหลี่เหว่ยยี่แล้วล่ะ พวกเรามาเตรียมตัวกันเถอะ มา… ตั้งระเบิดเวลาไว้ที่นี่… เดี๋ยวพอหลี่เหว่ยยี่กับพี่เทียนเฉินมาถึงแล้ว เราจะได้เคลื่อนพลกัน” เย่เชียนพูด
ชิงเฟิงและเฟิงหลานพยักหน้า จากนั้นพวกก็หันกลับไปติดตั้งระเบิดเวลารอบ ๆ คลังแสงทั้งหมด เนื่องจากพวกเขายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าตี่ลุน หัวหน้ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ ดังนั้นปฏิบัติการนี้จึงยังคงมีความเสี่ยงอันตรายอยู่
ในท้ายที่สุดแล้วการต้องเผชิญหน้าและปะทะกับกองทัพจำนวนหกร้อยคนในพื้นที่เปิดโล่งเช่นนี้ มันก็จะเป็นไปได้ยาก ถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะเอาชีวิตรอดกลับไป ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของสมาชิกแต่ละคนของเขี้ยวหมาป่าด้วย ตราบใดที่พวกเขาเลือกที่จะกำจัดศัตรูทีละคนทีละกลุ่มโดยไม่ให้ถูกจับได้ เช่นนั้นแล้วต่อให้เหลือทหารที่ต้องกำจัดอีกสักกี่ร้อยคนก็จะไม่เป็นปัญหามากนัก

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน