ตอนที่ 1088 ประเพณีพื้นบ้าน
………………..
นับตั้งแต่ชายลึกลับมาพบกับเย่เชียนนั้นเย่เชียนก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากเกี่ยวกับขอบเขตและความสามารถในด้านศิลปะการต่อสู้โบราณ ซึ่งความเข้าใจเพียงไม่กี่อย่างเหล่านี้สามารถกล่าวได้ว่ามันได้ประโยชน์มากมายและขอบเขตพลังของเย่เชียนก็ได้ขยายออกอย่างมาก การที่ศักยภาพของร่างกายมนุษย์สามารถนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่นั้นเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างมาก พลังแฝงที่อยู่ในตัวของเย่เชียนได้ผสมผสานเข้ากับผนึกแห่งแสงและผสมผสานระหว่างพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เสริมซึ่งกันและกันและถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่ก็ตามแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังในปัจจุบันของเขาเหนือกว่านักรบโบราณหลายๆคนแล้ว
พลังในร่างกายของเย่เชียนไม่ได้ควบคุมเขาอีกต่อไปและเขาก็สามารถควบคุมมันได้เพราะเมื่อเจอกับภัยคุกคามมันจะสร้างการต่อต้านและการป้องกันโดยธรรมชาติ ซึ่งเมื่อผู้หญิงตัวเล็กๆคว้าข้อมือของเขาเอาไว้จู่ๆพลังในร่างกายของเย่เชียนก็เริ่มสร้างการป้องกันแต่ผู้หญิงตัวเล็กๆดูเหมือนจะไม่สนใจและดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย เธอยังคงวิ่งไปข้างหน้าซึ่งทำให้เย่เชียนแปลกใจเล็กน้อยเพราะหยานตงผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสุดยอดปรมาจารย์อันดับหนึ่งในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณยังไม่สามารถต้านทานได้เลยและถ้าหากเย่เชียนไม่พยายามยับยั้งเอาไว้หยานตงอาจจะถึงขั้นบาดเจ็บเลยก็เป็นได้ ดังนั้นเย่เชียนจึงอดไม่ได้ที่จะมีความคิดแปลกๆอยู่ในใจ
ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้อายุเท่าไหร่? ดูเหมือนว่าเธอจะอายุเพียงสิบห้าหรือสิบหกปีเท่านั้นแต่เธอจะมีพลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร?
เย่เชียนถูกลากไปโดยผู้หญิงตัวเล็กๆและเย่เชียนดูเหมือนจะไม่มีการต่อต้านเลยแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นเพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ส่วนจินเหว่ยห่าวซึ่งอยู่ข้างหลังเขาก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และถอนหายใจแล้วคิดว่าเย่เชียนนั้นโชคดีจริงๆเพราะเขายังสามารถดึงดูดผู้หญิงเหล่านี้ได้ จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะจับแก้มตัวเองแล้วยิ้มแหยงๆ
เมื่อพูดถึงรูปลักษณ์แล้วจินเหว่ยห่าวนั้นดูดีกว่าเย่เชียนอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเย่เชียนเป็นผู้ชายที่ดูเคร่งขรึมและมีความเป็นผู้ชายที่สง่าผ่าเผยในขณะที่จินเหว่ยห่าวมีใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติที่ผู้หญิงหลายๆคนชอบในทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นกลับไม่ได้มองจินเหว่ยห่าวเลย ถึงแม้ว่าจินเหว่ยห่าวจะไม่ได้จริงจังอะไรมากนักแต่พฤติกรรมของผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ทำให้เขายิ้มอย่างขมขื่นและหลังจากส่ายหัวเล็กน้อยจินเหว่ยห่าวก็รีบเดินตามไป
ผู้หญิงตัวเล็กๆก็ไม่ได้พูดอะไรและเธอเอาแต่ดึงเย่เชียนแล้ววิ่งไปข้างหน้า เย่เชียนที่เดินตามหลังผู้หญิงตัวเล็กๆไปเขาก็เห็นว่าเสื้อผ้าของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำและมีรอยเปื้อนบนร่างกายของเธอและผิวขาวๆของเธอก็เผยให้เห็นจนเขาอดทนไม่ได้จริงๆและรีบส่ายหัวเพื่อสลัดความคิดที่รบกวนจิตใจเขาออกไป
ดูเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆจะตื่นเต้นมากและสักพักเธอก็พาเย่เชียนไปดูการชนไก่ จากนั้นเธอก็พาเย่เชียนไปดูสาวๆชาวพื้นเมืองเต้นรำนกยูงแล้วเธอก็พาเย่เชียนไปดูการแข่งเรือมังกร จากนั้นเธอก็หยุดเพื่อแนะนำประเพณีเหล่านี้ให้กับเย่เชียนซึ่งเธอไม่ปฏิบัติต่อเย่เชียนเหมือนคนแปลกหน้าเลยแต่เหมือนเพื่อนที่ดีที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี
ผู้หญิงตัวเล็กๆเป็นชาวพื้นเมืองที่จิตใจดีอย่างงั้นเหรอ? ในตอนนี้เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นการเต้นรำที่ร่าเริงของชาวพื้นเมืองที่มีความสุขแล้วเย่เชียนก็อินไปกับบรรยากาศเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ “พี่ชายมาเต้นรำด้วยกันเถอะ” ผู้หญิงตัวเล็กๆยิ้มด้วยรอยยิ้มอันแสนหวานและดึงเย่เชียนเข้าไปในวงเต้นรำและเต้นอย่างสง่างาม
เย่เชียนนั้นเต้นไม่เป็นแต่เมื่อเห็นท่าทางการเต้นของผู้คนแล้วเขาก็พยายามขยับตาม เมื่อเห็นแบบนั้นผู้หญิงตัวเล็กๆก็ยิ้มอย่างมีความสุขและเต้นต่อหน้าเย่เชียนและทันใดนั้นเย่เชียนก็ดูเหมือนจะเห็นนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ลงมาสู่โลกมนุษย์เพราะผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นช่างบริสุทธิ์เหลือเกินและไม่มีมนุษย์ใดแตะต้องเธอได้ เธอเป็นนางฟ้าที่มีกลิ่นอายของความเป็นมนุษย์ตัวน้อยและดูสดใสและสะดุดตาเป็นพิเศษ
เมื่อผ่านไปสักพักผู้หญิงตัวเล็กๆดูเหมือนจะเหนื่อยและหอบอย่างหนักหน่วงจากนั้นก็จับมือเย่เชียนแล้วเดินออกจากวงเต้นรำไปและเธอก็กะพริบตาให้เย่เชียนด้วยดวงตาที่โตเป็นประกายราวกับดวงดาวและพูดว่า “พี่ชายคืนนี้ว่างหรือเปล่า?”
เย่เชียนก็ถึงกับตกใจและเขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ‘บ้าจริงทำไมถึงรีบจัง’ หลังจากตกตะลึงอยู่พักหนึ่งเย่เชียนก็พูดว่า “เธอหมายความว่าไง?”
เมื่อเห็นสีหน้าของเย่เชียนแล้วผู้หญิงตัวเล็กๆก็เหมือนจะรู้ว่าเย่เชียนนั้นมีความคิดที่ไม่ดีและเธอก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงและมองเขาด้วยความโกรธแล้วพูดว่า “คืนนี้มีงานเลี้ยงกองไฟเพราะงั้นทั้งผู้ชายและผู้หญิงทั้งหมดจะมารวมตัวกันและฉันจะมอบดอกไม้ให้กับคนที่ฉันชอบคืนนี้เพราะงั้นฉันอยากให้พี่ชายไปด้วย”
“ปาร์ตี้กองไฟงั้นเหรอ?..ได้สิแต่ฉันต้องชวนเพื่อนไปด้วย” เย่เชียนหันมองกลับไปรอบๆและพบว่าจินเหว่ยห่าวกำลังเต้นรำอย่างมีความสุขในวงต้นรำในเวลานี้และคิ้วของเขาก็ดูเหมือนจะผ่อนคลายลงได้แล้วและมันเป็นรอยยิ้มจากใจจริงของเขาดังนั้นเย่เชียนจึงมีความสุขที่เห็นแบบนั้นเพราะจินเหว่ยห่าวเจ็บปวดมามากแล้วกับเรื่องราวในอดีต ดังนั้นเย่เชียนจึงหวังว่าจินเหว่ยห่าวจะปล่อยวางได้เพราะท้ายที่สุดแล้วชีวิตในอนาคตของเขาก็ยังอีกยาวไกล
“นั่นน่ะเหรอ?” ผู้หญิงตัวเล็กๆชี้ไปที่จินเหว่ยห่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลและพูดว่า “เขาดูหล่อมาก..ฮ่าๆ..ถ้าเขาไปที่งานเลี้ยงกองไฟในคืนนี้เขาจะต้องกลายเป็นเป้าหมายของสาวๆอย่างแน่นอน” จากนั้นเธอก็หันไปมองเย่เชียนอีกครั้งและดวงตาที่เป็นประกายดูเหมือนจะบอกเย่เชียนว่า ‘แต่ในสายตาของฉันมีแต่พี่ชายเท่านั้น’ เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างเร่งรีบและโยนความคิดที่ปั่นป่วนออกไปจากใจของเขา เย่เชียนนั้นไม่คิดว่าเสน่ห์ของเขาจะมาถึงจุดที่ไม่อาจต้านทานได้แบบนี้เลย
“ฉันชื่อหลัวสุ่ยแล้วพี่ชายล่ะ?” ผู้หญิงตัวเล็กๆถาม
“เย่เชียน” เย่เชียนพูด
“เย่เชียน?” หลัวสุ่ยพึมพำสองสามครั้งราวกับว่าเธอต้องการสลักชื่อของเย่เชียนเอาไว้ในใจและหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหลัวสุ่ยก็ยิ้มและพูดว่า “พี่เย่มาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่า..ที่นี่มีเทศกาลสาดน้ำแบบนี้ในทุกๆปีและเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของปีและอาหารอร่อยๆมากมายเดี๋ยวฉันจะพาพี่เย่ไปกิน” เมื่อพูดจบเธอก็ดึงเย่เชียนวิ่งไปอีกครั้ง



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน