ตอนที่ 1089 ปาร์ตี้รอบกองไฟ
………………..
เวลาสองทุ่มยามราตรีก็มาเยือนเมืองเล็กๆแห่งนี้แต่ความครึกครื้นก็ไม่จางหายไปเพราะในเวลานี้มีคนหนุ่มสาวชาวพื้นเมืองจำนวนนับไม่ถ้วนรายล้อมอยู่รอบๆกองไฟซึ่งสาวพื้นเมืองค่อนข้างขี้อายหน่อยๆ
คืนนี้บอกได้เลยว่ามันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมากเพราะมันเป็นวันที่หนุ่มๆสาวๆชาวพื้นเมืองตั้งตารอมาอย่างยาวนานเพราะในวันนี้พวกเขาทั้งหลายจะได้แสดงความรู้สึกถึงคนที่ชอบแบบไร้ขอบเขตและแสดงออกต่อหน้ากันได้อย่างอิสระ ชนกลุ่มน้อยนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีด้านมืดแบบผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่จอแจ
กองไฟก็กำลังลุกไหม้จนไฟส่องสว่างและใบหน้าที่ยิ้มแย้มของทุกๆในเวลานี้หนุ่มสาวทั้งหลายได้มานั่งรอบกองไฟและข้างๆกองไฟก็ยังมีกองไฟสำหรับย่างอาหารอันหอมกรุ่นและเมื่อย่างอาหารในมือแล้วทุกคนต่างก็หั่นชิ้นเนื้อที่ดีที่สุดแล้วเอาไปให้คนที่พวกเขาชอบ
กิจกรรมที่มีสีสันที่สุดคือการโยนถุงดอกไม้ซึ่งเป็นเกมพิเศษสำหรับคนหนุ่มสาวชาวพื้นเมืองที่ยังไม่ได้แต่งงาน “ถุงดอกไม้” ดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักเพราะคนหนุ่มสาวจะยืนเรียงกันที่สนามหญ้าสีเขียวชอุ่ม ซึ่งผู้หญิงจะโยนดอกไม้ให้ผู้ชายก่อนจากนั้นผู้ชายจึงค่อยมอบดอกไม้ให้กับผู้หญิงเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของตน ด้วยวิธีนี้ถุงดอกไม้จึงบินไปรอบๆกองไฟพร้อมกับการสื่อสารทางอารมณ์ จากนั้นไม่นานเหล่าคนหนุ่มสาวต่างก็พากันออกไปจากสนามหญ้าและทิ้งถุงไปอย่างเงียบๆเพื่อพากันไปในที่ที่เงียบๆเพื่อบอกรักกัน
เย่เชียนถูกหลัวสุ่ยดึงไปนั่งที่กองไฟและนั่งไขว่ห้างอยู่ที่นั่น หลัวสุ่ยนั้นไม่ได้สวมชุดชาวพื้นเมืองอีกต่อไปแต่เปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีขาวซึ่งทำให้เธอดูพิเศษอย่างสมบูรณ์แบบจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะผงะ
“พี่เย่มองอะไรน่ะ” หลัวสุ่ยกระพริบตาและถามอย่างขี้เล่นด้วยความเขินอายเล็กน้อยและรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
เย่เชียนก็ตกตะลึงเล็กน้อยและยิ้มเจื่อนๆทันทีจากนั้นก็หันไปและรีบพูดว่า “ไม่..ฉันไม่ได้มองอะไรเลย..แต่คิดว่าคืนนี้เธอสวยมากเหมือนนางฟ้าจากสรวงสวรรค์เลยนะ”
“จริงเหรอ” หลัวสุ่ยพูดอย่างมีความสุข
“ใช่” เย่เชียนพยักหน้าอย่างหนักและไม่พูดอะไรอีก จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างและมองไปรอบๆเพื่อหาร่างของจินเหว่ยห่าวและในที่สุดก็พบว่ามันอยู่ท่ามกลางกลุ่มสาวๆ จินเหว่ยห่าวในตอนนี้เปลี่ยนเป็นชุดพื้นเมืองจนเย่เชียนเกือบจะจำไม่ได้ ซึ่งเมื่อลองคิดๆดูแล้วว่าจินเหว่ยห่าวที่เป็นชาวเหนือถึงแม้ว่ารูปลักษณ์และความต่างทางชาติพันธุ์ของพวกเขาจะแตกต่างกันแต่ก็ยังมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้มันอาจทำให้จินเหว่ยห่าวนึกถึงบ้านเกิดของเขาก็เป็นได้
หลังจากตัวแทนเหล่าหนุ่มสาวขึ้นไปบนเวทีและกล่าวเปิดงานแล้วงานเลี้ยงรอบกองไฟก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้ชายต่างก็ออกมาข้างหน้าอย่างกระตือรือร้นและพยายามแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ด้วยการร้องเพลงและเต้นรำและเป็นเพลงของชาวพื้นบ้านทั้งหมด แน่นอนว่าเย่เชียนฟังไม่เข้าใจแต่เมื่อมองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาแล้วเย่เชียนก็รู้สึกมีความสุขมาก ส่วนหลัวสุ่ยที่อยู่ข้างๆก็ดูตื่นเต้นมากและปรบมือไม่หยุดพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเธอและใบหน้าไร้ที่ติเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์ของหญิงสาว ซึ่งริมฝีปากเล็กๆนั้นเต็มไปด้วยสิ่งล่อใจที่มองไม่เห็นจนเย่เชียนถึงกับอยากจะจูบเธอ ในเวลานี้สาวน้อยดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของเย่เชียนและเธอก็หันไปมองเขาจากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไปและทันใดนั้นเธอก็เงียบลงอย่างผิดปกติ
ทั้งสองมองหน้ากันราวกับโลกทั้งโลกและท้องฟ้าทั้งหมดเป็นของทั้งสองและดูเหมือนวันเวลาจะหยุดเดินเพราะมันช่างเงียบงัน
“เต้นรำกับฉันได้หรือเปล่า?” ชายหนุ่มในชุดพื้นเมืองเดินเข้ามาและเอื้อมมือไปเชิญหลัวสุ่ยอย่างสุภาพและทั้งสองคนก็ตื่นขึ้นจากภวังค์ จากนั้นพวกเขาก็หันไปมองดูมือที่ยื่นออกมาตรงหน้าพวกเขา จากนั้นหลัวสุ่ยก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ได้สิ” เมื่อพูดจบเธอก็ลุกขึ้นเข้าร่วมวงเต้นรำทันที
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มเล็กน้อยเพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ด้วยใบหน้าไร้ที่ติของเธอควบคู่ไปกับดวงตาที่เป็นประกายของเธอนั้นดูบริสุทธิ์อย่างมาก
“ได้สิ” เย่เชียนพยักหน้าเล็กน้อยและลุกขึ้นจับมือหญิงสาวเดินไปที่วงเต้นรำ ในเวลานี้ผู้คนต่างก็เต้นรำกันอย่างมีความสุขและเย่เชียนก็ปล่อยความกังวลต่างๆไปโดยสิ้นเชิงแล้วผสมผสานเข้ากับบรรยากาศเหล่านี้อย่างเต็มที่
ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นความบังเอิญหรือเปล่าเพราะหลัวสุ่ยกับเย่เชียนค่อยๆเข้ามาใกล้ๆกันราวกับว่าพวกเขาดึงดูดกันแล้วจากนั้นพวกเขาก็จับมือกันและเต้นรำไปกับฝูงชน
จากนั้นเมื่อจบการเต้นรำทุกคนก็กลับมานั่งที่เดิมและเหล่าผู้ชายก็ลุกขึ้นทีละคนเพื่อมอบดอกไม้ในมือให้กับผู้หญิงที่พวกเขาชอบและผู้หญิงก็ป้อนอาหารให้กับผู้ชาย จากนั้นไม่นานก็มีเหล่าสาวๆมาป้อนอาหารให้กับเย่เชียนจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่จินเหว่ยห่าวและยิ้มอย่างขมขื่น
หลัวสุ่ยก็หัวเราะคิกคักและยัดอาหารใส่ปากเย่เชียนและดูมีความสุขมาก “เธอไม่กลัวน้ำหนักเพิ่มเพราะกินมากๆเหรอ?” เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูด
“ฉันดูอ้วนหรือเปล่า?” หลัวสุ่ยกระพริบตาแล้วถาม
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน