ตอนที่ 1095 เจ้าสำนักแห่งสำนักถัง
………………..
ตั้งแต่ถังจิงหนานเข้ารับตำแหน่งเจ้าสำนักถังมาอาจกล่าวได้ว่าเขาพยายามอย่างหนักเพื่อการปกครองที่ดีซึ่งทำให้สำนักถังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและไม่ว่าจะเป็นในแวดวงการเมืองการทหารหรือธุรกิจก็ไม่สามารถประเมินได้ว่าพวกเขานั้นมีเครือข่ายมากถึงขนาดไหน สูตรและตำราพิษของตระกูลถังนั้นถูกส่งต่อให้บริษัทยาของประเทศจีนและเกือบ 80% ของยาทั้งหมดนั้นก็มาจากตระกูลถัง
นี่ไม่ใช่เพียงการดำเนินตามจุดประสงค์ของสำนักถังเท่านั้นแต่ยังสร้างผลกำไรอันมหาศาลมากมายให้กับสำนักถังอีกด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้การแพทย์แผนจีนก็กำลังถดถอยและการแพทย์ทางตะวันตกกลับนิยมกันมากขึ้น ยาที่สำนักถังพัฒนาขึ้นมานั้นมักจะมีราคาสูงและเป็นยาสมุนไพรหายากทั้งนั้น บริษัทยาภายใต้สำนักถังนั้นก็หันไปผลิตยาจากตะวันตกด้วยและนี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้สำนักถังหดหู่อย่างมากเพราะเสียกำไรและรายได้ไปมหาศาล ยาตะวันตกนั้นสามารถรักษาตามอาการในขณะที่ยาจีนโบราณนั้นเน้นไปที่ความเชื่อเสียมากกว่า ซึ่งสรรพคุณของตัวยานั้นออกผลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพดังนั้นผู้คนจึงมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับยาจีนโบราณว่าเป็นสิ่งที่เกินความเป็นจริง
ในแง่ของการฝึกฝนและศาสตร์การต่อสู้นั้นสำนักถังถือว่าแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งขอบเขตของศิลปะการต่อสู้ของพวกเขานั้นถือได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงเป็นอันดับต้นๆและจัดอยู่ในระดับแปดจากสิบและมีสถานะที่สูงมากในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณ อย่างไรก็ตามสาวกของสำนักถังดูเหมือนจะไม่ได้ใช้ชีวิตในการแสวงหาความแข็งแกร่ง ดังนั้นตอนนี้ผู้ที่มีความสามารถมากที่สุดก็อยู่แค่ในระดับหกเท่านั้นแต่โชคดีที่ยังมีลูกหลานบางคนที่โดดเด่นอยู่สองสามคน ซึ่งเหล่าผู้อาวุโสเชื่อว่าหลังจากรับการสนับสนุนไประยะหนึ่งแล้วพวกเขาจะมีความสำเร็จในอนาคตอย่างมากแน่นอน
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าความสำเร็จของสำนักถังในปัจจุบันจะไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ไม่ว่าจะเป็นสำนักไหนหรือตระกูลใดๆในโลกของศิลปะการต่อสู้โบราณที่กล้าเพิกเฉยต่อการดำรงอยู่ของพวกเขาและดูถูกอำนาจของพวกเขา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะศาสตร์แห่งพิษและอาวุธลับที่ทรงพลัง ซึ่งเมื่อ 50 ปีที่แล้วมีปรมาจารย์สำนักถังผู้หนึ่งได้สั่นคลอนโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ซึ่งแทบจะอยู่ยงคงกระพันและสร้างชื่อเสียงมากมายให้กับสำนักถัง ในตอนนี้ความสามารถของเขาโดดเด่นและยอดเยี่ยนจนไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ ถึงแม้ว่าบุคคลที่น่าทึ่งคนนี้จะเสียชีวิตไปแล้วแต่วีรกรรมและความน่ากลัวของสำนักถังก็ยังคงอยู่จนทุกวันนี้
เข็มเงินที่ถังจิงหนานขว้างออกไปนั้นได้หยุดเข็มเงินของชายหนุ่มเอาไว้แต่ชายหนุ่มคนนั้นก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามเพราะคนหนุ่มสาวจะยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไร ซึ่งเขายังคงพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องดังนั้นถังจิงหนานจึงตะโกนว่า “จะสร้างปัญหาอะไรนักหนา!”
ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัวและเขาตัวแข็งทื่ออยู่กับที่และไม่กล้าขยับใดๆ อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธ ซึ่งถังยู่เซิงไม่ได้มีความเกลียดชังกับเย่เชียนมาก่อนแต่เมื่อเห็นความรักของหลัวสุ่ยที่มีต่อเย่เชียนในเมืองเล็กๆแล้วเขาก็รู้สึกไม่มีความสุขเลยเพราะเขาไล่ตามหลัวสุ่ยมาเป็นเวลานานแต่หลัวสุ่ยก็ไม่เคยปฏิบัติต่อเขาแบบนั้นมาก่อน ซึ่งเขาเคยร้องขอให้ถังจิงหนานช่วยไปขอหลัวสุ่ยแต่งงานในเวลานั้นถังจิงหนานดูเหมือนจะไม่พอใจและปฏิเสธซึ่งทำให้ถังยู่เซิงโกรธมาก ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาเห็นเย่เชียนเข้ามาเขาก็ระบายความโกรธทั้งหมดใส่เย่เชียนโดยธรรมชาติแต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวังก็คือความสามารถของเย่เชียนจะสูงมากถึงขนาดนี้และทำให้เขากระเด็นออกไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะโกรธเกรี้ยว
“หืม..วิธีการต้อนรับของสำนักถังนี่ช่างพิเศษจริงๆ” เย่เชียนพูดอย่างเย็นชา แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถังยู่เซิงโจมตีเขาทันทีที่เขาเข้ามาและในความเห็นของเย่เชียนเรื่องนี้ส่วนใหญ่อาจจะได้รับคำยุยงจากคู่สามีภรรยาวัยกลางคนที่ต้องการตบหน้าเขาและทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าเจ้าสำนักถังก็เป็นได้
ถังจิงหนานขมวดคิ้วเล็กน้อยและมีร่องรอยของความไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ซึ่งคำพูดประชดประชันของเย่เชียนทำให้เขาทนไม่ได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามถังจิงหนานก็เคยได้ยินมาจากถังซูหยานเกี่ยวกับเรื่องราวของในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของเย่เชียนดังนั้นเขาจึงมีความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับอารมณ์และนิสัยของเย่เชียน ดังนั้นเขาจึงระงับความไม่พอใจในใจเอาไว้และหันไปมองที่ถังยู่เซิงและพูดว่า “รีบขอโทษลูกพี่ลูกน้องของเอ็งซะ”
ถึงแม้ว่าคำพูดจะไม่ได้รุนแรงมากแต่ความเกลียดชังที่เกิดขึ้นกับถังยู่เซิงนั้นก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลยเพราะเมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้วการที่ลูกหลานของตระกูลเย่ได้เตะลูกหลานของตระกูลถังออกไปด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวนั่นก็ถือว่าเป็นความอัปยศอย่างไม่ต้องสงสัยเลยแต่ที่หนักกว่านั้นก็คือผู้นำตระกูลถังกลับสั่งให้ลูกหลานของครอบครัวของเขากก้มหัวให้กับคนนอก แน่นอนว่าถังจิงหนานเองจะไม่เสียใจได้อย่างไรเพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนจะเป็นหลานชายของเขาแต่ท้ายที่สุดเมื่อเทียบกับตระกูลถังแล้วนั่นก็คือคนนอกใช่ไหม? เพราะนั่นคือคนจากตระกูลเย่
ถึงแม้ว่าถังยู่เซิงจะไม่เต็มใจอยู่ในใจแต่เขาก็ไม่กล้าขัดในสิ่งที่ถังจิงหนานพูด ดังนั้นถังยู่เซิงจึงหันไปมองเย่เชียนแล้วพูดอย่างหมดความอดทนว่า “เมื่อกี้นี้ฉันผิดเอว..ฉันขอโทษ” เมื่อพูดจบก็เบือนหน้าหนีและไม่มองเย่เชียนอีกเลย
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ตกตะลึงในทันทีและจินเหว่ยห่าวก็มองเย่เชียนด้วยความประหลาดใจเพราะเย่เชียนนั้นมาพบเจ้าสำนักถังในฐานะผู้เยาว์ในโลกศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่หลานชาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ส่วนถังจิงหนานก็รู้สึกเศร้าใจอย่างมากและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“จินเหว่ยห่าวแห่งตระกูลจินจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอทำความเคารพท่านเจ้าสำนักม่อจื๊อครับ” จินเหว่ยห่าวรีบพูดเพราะหวังว่าจะแก้ไขความตึงเครียดก่อนหน้านี้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน