ตอนที่ 1099 ความในใจของจินเหว่ยห่าว
………………..
พี่น้องคืออะไร?
ไม่ใช่ว่าเราจะร้องไห้ในเวลาที่อีกฝ่ายร้องไห้และไม่ใช่ว่าเราจะหัวเราะในเวลาที่อีกฝ่ายหัวเราะ แต่เมื่อเราร้องไห้อีกฝ่ายจะตบหน้าเราเพื่อให้คุณเห็นความเป็นจริงตรงหน้าเราอย่างชัดเจนและบอกให้เราเลิกขี้ขลาด เมื่อเราหัวเราะอีกฝ่ายจะเตือนสติเราไม่ให้เราหลงผิดและตาบอดต่อความสำเร็จที่อยู่ตรงหน้า แต่เมื่อเราต้องการความช่วยเหลือเขาจะปรากฏตัวต่อหน้าเราเพื่อช่วยและสนับสนุนเราโดยไม่ลังเล นี่คือพี่น้องที่แท้จริง
ระหว่างมื้อเย็นถึงจิงหนานก็สั่งให้คนไปเรียกเย่เชียนแต่เย่เชียนปฏิเสธโดยบอกว่าเขาไม่หิว ไม่ใช่เพราะเย่เชียนโกรธถังจิงหนานแต่อย่างใดแต่เป็นเพราะเย่เชียนไม่อยากอาหารจริงๆ เพราะเขานึกถึงความทรงจำมากมายและชั่วขณะหนึ่งจิตใจของเขาก็วุ่นวายและยุ่งเหยิงจนไม่หิวหรือไม่อยากจะทำอะไรใดๆในเวลานี้
ถังจิงหนานก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยโดยธรรมชาติเพราะเขาคิดว่าเย่เชียนยังคงไม่พอใจเขาอยู่แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากเพราะเมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วถังจิงหนานรู้สึกว่าเย่เชียนเหมือนถังซูหยานลูกสาวของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือเย่เจิ้งหรานเป็นคนที่สงบสุขุมในขณะที่เย่เชียนนั้นหุนหันพลันแล่นและหยิ่งผยองราวกับรูปปั้นแกะสลักในรูปแบบเดียวกันกับถังซูหยาน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ถังจิงหนานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจนสมาชิกทั้งครอบครัวที่นั่งโต๊ะเดียวกันอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งและมองเขาด้วยความประหลาดใจ อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้าถามอะไรเพราะเขารู้ถึงอารมณ์ของถังจิงหนานดีไม่อย่างนั้นพวกเขาต้องโดนตำหนิอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้นถังยู่เซิงก็ยังอ้าปากพูดว่า “ท่านปู่..”
ทันทีที่คำพูดออกจากปากของถังยู่เซิงนั้นถังจิงหนานก็มองเขาอย่างดุเดือดและพูดว่า “จะกินหรือจะพูด?..กินข้าวไปซะอย่าพูดมาก..ถ้ามีอะไรเราค่อยคุยกันทีหลัง!” ถังยู่เซิงก็ทำหน้ามุ่ยอย่างโกรธเกรี้ยวและเขาก็กำลังจะพูดต่อแต่ถังเฉียงและภรรยาของเขาก็รีบมองถังยู่เซิงอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นแบบนั้นถังยู่เซิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลืนคำพูดที่อยู่ในปากของเขาลงไป
ตระกูลถังมีสวนหลังบ้านซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดและมีศาลาในลำห้วยโดยในนั้นมีปลาทองและปลาคาร์ปว่ายไปมาและดูอุดมสมบูรณ์อย่างมาก อีกทั้งยังมีศาลาแปดเหลี่ยมโบราณกับอาคารทรงสี่เหลี่ยมที่มีกลิ่นหอมแบบโบราณมาก ในเวลานี้จินเหว่ยห่าวกำลังพิงรั้วของศาลาอยู่แล้วมองขึ้นไปที่แสงจันทร์ที่อ่อนโยนเหมือนมือของผู้หญิงที่กำลังลูบไล้แก้มของเขาเบาๆ
ถ้าจินเหว่ยห่าวไม่รีบร้อนเลยมันก็คงจะเป็นเรื่องโกหกเพราะความแค้นและเกลียดชังที่เขามีมานานหลายปีได้ขยายใหญ่ขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่ได้พยายามแย่งชิงอำนาจและเขาไม่ต้องการกองกำลังใดๆในตระกูลจินแต่เขาเป็นคนที่ทนทุกข์ทรมานกับสิ่งต่างๆมาตั้งแต่เด็ก เขาจำเป็นต้องมีพลังที่แข็งแกร่งเนื่องจากตระกูลจินปฏิเสธที่จะสนับสนุนเขาและเพิกเฉยต่อเขาดังนั้นทางเดียวที่ทำได้คือจินเหว่ยห่าวต้องแข็งแกร่งขึ้น
จินเหว่ยห่าวตกอยู่ในภวังค์และร่างสองร่างในความทรงจำของเขาก็ปรากฏขึ้นตัวต่อหน้าเขาและมองดูเขาด้วยความโกรธแล้วตำหนิเขาว่าทำไมเขาถึงไม่ล้างแค้นให้พวกเธอจนจินเหว่ยห่าวร้องไห้ออกมาอย่างรวดเร็วและน้ำตาก็หยดลงทีละหยดทีละหยด ทีละหยดลงไปในลำห้วย
“พี่ชายร้องไห้อยู่เหรอ?..พี่ชายเป็นอะไรหรือเปล่า?..มีอะไรที่น่าเศร้างั้นเหรอ?” จู่ๆก็มีเสียงใสๆดังออกมาด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อยจนจินเหว่ยห่าวถึงกับตกใจและตื่นจากความทรงจำในอดีตแล้วรีบเช็ดน้ำตาออกไป จากนั้นจินเหว่ยห่าวก็ยิ้มอย่างขมขื่นและกำลังจะพูดแต่เมื่อปากของเขาอ้าออกมาเขากลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าสวมเสื้อยืดแขนสั้นกระโปรงสั้นลูกไม้และรองเท้าแตะส้นสูงคู่หนึ่ง ที่กำลังมองดูเขาด้วยความสับสนจนจินเหว่ยห่าวทำอะไรไม่ถูก
สวรรค์สร้างมนุษย์ให้มาล้อเล่นกับจิตใจของเขาอีกแล้วงั้นหรือ? หรือเป็นพรและโชคชะตาที่ทำให้พวกเขาได้พบกัน? ในเวลาจินเหว่ยห่าวถึงกับตัวสั่นเทาและน้ำตาก็ไหลลงมาอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้
ฉากนี้ทำให้หญิงสาวตกใจและเธอก็จ้องไปที่ชายตรงหน้าด้วยความประหลาดใจเพราะดวงตาที่เศร้าโศกของเขาดูเหมือนจะมีเรื่องราวที่เลวร้ายนับไม่ถ้วน เมื่อมองดูน้ำตาที่จู่ๆก็ไหลออกมาแล้วสีหน้าของหญิงสาวก็ดูตกตะลึงเล็กน้อยและแสดงสีหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจแล้วถามด้วยความแปลกใจว่า “พี่ชายเป็นไรไปเหรอ..ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจก็บอกมาได้เลย..บางทีฉันอาจจะก็ช่วยไม่ได้แต่ฉันจะเป็นผู้ฟังที่ดีให้เอง..แต่มีอะไรก็ระบายมันออกมาเถอะ”
ทันใดนั้นจินเหว่ยห่าวก็ยืนตัวตรงและมองหญิงสาวอย่างลึกซึ้งแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษ” เมื่อพูดจบเขาก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วจนหญิงสาวผงะและยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผู้ชายคนนี้ทำตัวแปลกๆและร้องไห้เมื่อเขาเห็นเธอและหลังจากร้องไห้เขาก็จากไปโดยไม่พูดอะไร ซึ่งในเวลานี้อารมณ์ของจินเหว่ยห่างยุ่งเหยิงอย่างมาก
“มันคือโลกมายา..มันก็แค่ภาพลวงตา!” จินเหว่ยห่าวยังคงบอกตัวเองแต่เขาไม่สามารถหลอกตัวเองได้เลยเพราะสิ่งที่เขาเห็นด้วยตาของเขาในตอนนี้มันจะเป็นภาพลวงตาได้อย่างไร? นัยน์ตาคู่นั้นช่างเหมือนกับนัยน์ตาในอดีตและไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อยและแก้มของเธอนั้นดูมีเสน่ห์และอ่อนโยนอย่างมาก

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน