ตอนที่ 1114 พ่อลูกสมานฉันท์
………………..
ไม่มีใครรู้ว่าถังจิงหนานและถังยู่เซิงคุยอะไรกันอยู่ในห้องตลอดทั้งคืนแต่เมื่อถังยู่เซิงออกมาในตอนเช้าการแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็ดูสำนึกผิดอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่านานแค่ไหนเพราะถังเฉียงนั้นรอถังยู่เซิงหน้าห้องเป็นเวลานานเพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญดังนั้นถังเฉียงจึงไม่อนุญาตให้ใครมาทำลายแผนของเขาเด็ดขาด ดังนั้นเมื่อถังยู่เซิงกลับมาที่ห้องถังเฉียงก็รีบถามเขาเกี่ยวกับเรื่องที่ถังจิงหนานคุยกับเขาในห้อง แต่ทว่าถังยู่เซิงกลับตอบอย่างคลุมเครือและดูเหมือนจะไม่สนใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้ต่อ เมื่อเห็นแบบนั้นถังเฉียงก็ขมวดคิ้วและมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแต่คำตอบของถังยู่เซิงก็ยังคงทำให้เขาสบายใจได้ดังนั้นเขาจึงไม่มีข้อสงสัยอะไรมากนัก
เช้าตรู่ถังจิงหนานก็เรียกลูกชายคนที่สองของเขาอย่างถังฮงเข้ามาในห้องของเขาและทั้งสองก็พูดคุยกันเป็นเวลานานอยู่ข้างใน ถึงแม้ว่าถังเฉียงจะสงสัยแต่เขาไม่กล้าที่จะดักฟังเพราะการดักฟังการสนทนาของถังจิงหนานนั้นเขากลัวว่าจะถูกจับได้ก่อนที่จะได้แอบฟังอีก
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งต่างๆ ได้พัฒนามาถึงจุดนี้และถังเฉียงก็ไม่มีทางออกใดๆ และนอกจากนี้เขายังเชื่อในความสามารถของหมอผีมนต์ดำผู้ยิ่งใหญ่ซวนหมิงอย่างมากดังนั้นเขาจึงต้องทำตามแผนการต่อไป
แน่นอนว่าเย่เชียนไม่ได้คาดหวังสิ่งเหล่านี้เพราะเขาไม่ได้คาดคิดว่าถังเฉียงจะทำแบบนี้ ซึ่งเมื่อถังเฉียงและคนอื่นๆ กลับมาจากหมู่บ้านเมียวนั้นเย่เชียนก็บอกกับถังจิงหนานว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานั้นและมันก็ชัดเจนมาก แต่คำพูดของเย่เชียนก็ยังดูสมเหตุสมผลและไม่รุนแรงจนเกินไปเพราะท้ายที่สุดแล้วถังเฉียงก็เป็นลูกชายของถังจิงหนานและบางทีในอนาคตเจ้าสำนักคนต่อไปก็อาจจะเป็นถังเฉียง ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ต้องการให้พ่อกับลูกขัดแย้งกัน
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่เคยอยู่ในครอบครัวใหญ่ๆ มาก่อนแต่เขาก็ได้เห็นอะไรมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพราะในครอบครัวใหญ่ๆ เหล่านั้นความสัมพันธ์ในครอบครัวมักจะอ่อนแอและเปราะบางอย่างมาก แต่เขาไม่คิดคำพูดของเขาจะไร้ประโยชน์และเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าถังเฉียงจะเป็นคนแบบนี้? ในความเห็นของเย่เชียนนั้นบางทีถังเฉียงอาจจะดูไร้เหตุผลไปหน่อยแต่ก็ไม่ควรก่อเรื่องเลวร้ายครั้งใหญ่แบบนี้ขึ้น
ตอนนี้เย่เชียนอยู่ในอาการโคม่าและสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่หน้าที่รับผิดชอบของเขา ซึ่งผลกระทบของการใช้วิชาลับประตูแปดด่านควบคู่ไปกับการฤทธิ์ของพิษหนอนไหมสีทองจึงทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อเส้นลมปราณของเย่เชียน ดังนั้นถึงแม้ว่าพิษหนอนไหมสีทองจะถูกกำจัดโดยราชาหนอนไหมของหว่านไห่ไปแล้วก็ตามแต่เส้นลมปราณของเย่เชียนก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ในระยะเวลาสั้นๆ อันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะพิษหนอนไหมสีทองล่ะก็อาการบาดเจ็บของเย่เชียนคงไม่ร้ายแรงนัก ซึ่งครั้งก่อนที่เย่เชียนใช้วิชาลับประตูแปดด่านนั้นผลกระทบไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดนี้และยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ความแข็งแกร่งและความสามารถของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก ดังนั้นทั้งหมดนี้เป็นเพราะพิษของหนอนไหมสีทองที่ออกฤทธิ์ตอนที่เกิดผลกระทบของวิชาลับประตูแปดด่านพอดีจึงทำให้ร่างกายของเย่เชียนบอบบางมาก ซึ่งนั่นทำให้เย่เชียนทนความเจ็บปวดไม่ไหวจนพลังปราณหมุนเวียนอย่างบ้าคลั่งและส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อเส้นลมปราณของเย่เชียน
หลัวสุ่ยมองไปที่เย่เชียนในอาการโคม่าและสีหน้าของเธอก็ดูเศร้ามากเพราะในใจของเธอดูเหมือนว่าสถานะของเย่เชียนจะอยู่ในระดับเดียวกับพ่อแม่ของเธอดังนั้นเธอจะสูญเสียเย่เชียนไปได้ยังไง ด้านข้างหว่านไห่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และขมวดคิ้วราวกับว่าเขากำลังตัดสินใจอะไรที่สำคัญอยู่เพราะมันยากที่จะเลือกเพราะเขานั้นเป็นถึงผู้นำหมู่บ้านเมียวดังนั้นเขาจึงรู้กฎหลายข้อของหมู่บ้านเมียวและถึงแม้ว่าเขาจะเคยช่วยฉินหยูไปแล้วครั้งหนึ่งแต่คราวนี้การช่วงคนนอกอีกครั้งจึงทำให้เขาลำบากใจอย่างมาก
หว่านไห่เป็นคนโง่เขลางั้นเหรอ? ไม่ใช่แบบนั้นอย่างแน่นอนเพราะเขาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำและจอมขมังเวทย์แห่งหมู่บ้านเมียวแล้วเขาก็รู้ดีว่าจงโหลวซานต้องการตำแหน่งผู้นำของเขาและเขาเองก็รู้ว่าจงโหลวซานทำร้ายฉินหยูจนเขาต้องลงมือช่วยชีวิตของเธอเพราะฉินหยูช่วยสอนหนังสือและทำความดีมากมายให้กับหมู่บ้านเมียวดังนั้นเหล่าผู้อาวุโสจึงไม่กล่าวโทษเขาในเรื่องนี้ แต่ถ้าหากเขาช่วยเย่เชียนล่ะก็เหล่าผู้อาวุโสของหมู่บ้านเมียวจะต้องตำหนิเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และผลดังกล่าวก็ร้ายแรงอย่างมากและมันอาจจะส่งผลให้เขาต้องลงจากตำแหน่งผู้นำและจอมขมังเวทย์อย่างแน่นอน
“พ่อคะ..พ่อต้องช่วยพี่เย่ให้ได้นะ..หนูรู้ว่าพ่อทำได้” หลัวสุ่ยอ้อนวอนอีกครั้ง
เมื่อได้ยินแบบนั้นหว่านไห่ก็ถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า “พ่อรู้เกี่ยวกับเรื่องของศิลปะการต่อสู้โบราณของพวกเขาแค่เล็กน้อยเท่านั้นและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะรักษาเส้นลมปราณของเขายังไง..นั่นเป็นวิชาลับต้องห้ามในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณของพวกเขาเพราะผลที่ตามมานั้นร้ายแรงมาก..เพราะฉะนั้นวิธีเดียวในตอนนี้คือการใช้พิธีกรรมแลกเปลี่ยนเลือดกับเขาเพื่อทำให้เขามีพลังเวทมนตร์และนั่นอาจจะรักษาเส้นลมปราณของเขาได้”
“พ่อต้องช่วยเขานะเพราะถ้าพ่อไม่ช่วยเขาล่ะก็เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน” หลัวสุ่ยพูดแล้วสะอึกสะอื้น “พ่อคะหนูไม่เคยขออะไรพ่อมานานหลายปีแล้วเพราะงั้นครั้งนี้หนูขอให้พ่อช่วยเขาหน่อยนะ..ได้มั้ย?”
“หนูไม่เคยโทษพ่อในเรื่องนั้นเลย..หนูรู้ว่าพ่อรู้สึกยังไง..ถ้าแม่ไม่ต้องช่วยหนูแม่ก็คงไม่ตาย..หนูรู้ว่าพ่อคิดถึงแม่มากและหนูเองก็เป็นคนที่ทำให้แม่ต้องตาย..หลายปีที่ผ่านมาหนู่ไม่แสดงความทุกข์ทรมานในใจอีกต่อไปเพราะหนูกลัวว่าพ่อจะตำหนิหนูในเรื่องนี้และเกลียดหนู” หลัวสุ่ยกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน