ตอนที่ 1129 ความผูกพันและความแค้น
………………..
ซวนหมิงนั้นอันที่จริงแล้วชื่อจริงของเขาไม่ใช่ซวนหมิงเพราะเขาทิ้งชื่อของเขาไปนานหลายปีแล้วและลืมตัวตนเดิมไป เมื่อย้อนกลับไปในสมัยก่อนเขาเป็นชายหนุ่มชาวเมียวที่สง่าผ่าเผยที่สุดและทุกคนต่างก็คิดว่าเขาจะเป็นผู้นำและจอมขมังเวทย์คนใหม่ของหมู่บ้านเมียวแต่กลับกลายเป็นว่าหว่านไห่เข้ารับตำแหน่งนั้นแทนเขา
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะเป็นอะไรเขาก็ยังมีอดีตที่ลืมไม่ลงฝังอยู่ในใจและมีคนที่เขาลืมไม่ลงนั้นตอนนี้เธอนอนอยู่ตรงหน้าเขาและนอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งซึ่งเป็นหญิงสาวที่โฉมงามที่ใบหน้าไม่เคยเปลี่ยนไปเลยเธอคือฮั่นหยาน
เมื่อมองดูผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ แต่ดูเหมือนอยู่ไกลแล้วซวนหมิงก็ค่อยๆ ยื่นมือออกมาและอยากจะสัมผัสใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นแต่มือของเขาสั่นเล็กน้อย “ฮั่นหยาน… ” ซวนหมิงพูดออกมาและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความเหงาและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตา “เธอรู้หรือเปล่าว่าฉันคิดถึงเธอมาตลอดยี่สิบปี..ฉันขอโทษ..ฉันขอโทษจริงๆ ..ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอเลย..ฉันไม่ได้ตั้งใจ..ตอนนั้นฉันไม่ได้อยากจะทำร้ายเธอจริงๆ ..แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะฉันได้ฆ่าคนพวกนั้นหมดแล้วและฉันจะล้างแค้นให้เธอเอง..คนที่กล้าทำร้ายเธอฉันจะปล่อยมันไป”
อย่างไรก็ตามใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้ายังคงเหมือนเดิมและไม่มีทั้งรอยยิ้มหรือความขุ่นเคืองใดๆ แน่นิ่งราวกับน้ำ ซึ่งคนตายจะได้ยินสิ่งที่เขาพูดได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามซวนหมิงก็เชื่อว่าเธอจะต้องได้ยินสิ่งที่เขาพูดอย่างแน่นอน
“ฮั่ยหยานฉันจะล้างแค้นให้เธอในไม่ช้า..ฉันจะฆ่าหว่านไห่ด้วยมือของฉันเอง..เขาพรากเธอไปจากฉันถ้าไม่ใช่เพราะเขาล่ะก็เธอคงไม่เป็นแบบนี้..พวกเราทั้งสองจะไม่เป็นแบบนี้อย่างแน่นอน..ไม่อย่างนั้นตอนนี้พวกเราคงจะมีความสุขกันมากและมีลูกของพวกเราเอง” ซวนหมิงพูดอย่างสะอึกสะอื้น “ฮั่นหยานเธอโกรธฉันหรือเปล่าที่ฉันพาเด็กคนนั้นไป..ฉันขอโทษ..ฉันขอโทษ..ฉันทำไม่ได้จริงๆ ..เมื่อเห็นเด็กคนนั้นแล้วเด็กคนนั้นดูเหมือนเธอมาก..แต่เธอไม่ต้องกังวลไปนะ..เพราะฉันจะฆ่าหว่านไห่เอง..ส่วนหลัวสุ่ยเด็กผู้หญิงคนนั้นฉันก็จะฆ่าเธอเพราะเธอเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ชั่วร้ายของหว่านไห่..ฉันรู้ว่าเธอจะไม่ตำหนิฉันในเรื่องนี้ใช่ไหม?”
ซวนหมิงดูประหม่าเล็กน้อยและทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะอยู่ครู่หนึ่งและในใจของเขาก็สับสนมากและทันใดนั้นใบหน้าของซวนหมิงก็มืดมนลงจากนั้นเขาก็ค่อยๆ ยืดตัวขึ้นและเช็ดน้ำตาของเขาอย่างเงียบๆ
หว่านไห่ที่รีบเข้าไปในถ้ำและเมื่อเห็นซวนหมิงอยู่ข้างในตามที่คาดเอาไว้เขาก็มองดูร่างที่คุ้นเคยตรงหน้าเขาและหว่านไห่ก็รู้สึกเศร้าอย่างมาก หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหว่านไห่ก็พูดออกมา “หว่านเจียง”
“ฉันทิ้งชื่อนั้นไปแล้ว” ซวนหมิงพูดเบาๆ ใช่แล้วหว่านเจียงคือชื่อจริงของซวนหมิงและเขาก็เป็นพี่ชายแท้ๆ ของหว่านไห่และชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุดในหมู่บ้านเมียวและในตอนนั้นทุกคนก็คิดว่าหว่านเจียงจะได้รับช่วงต่อในฐานะผู้นำหมู่บ้านและจอมขมังค์เวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของหมู่บ้านเมียวแต่ท้ายที่สุดแล้วกลับเป็นหว่านไห่ที่ได้รับตำแหน่งไป
มันไม่ชัดเจนว่าใครถูกและใครผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้นแต่หว่านไห่ในสมัยนั้นค่อนข้างที่จะเด็ดขาดและมีความเป็นผู้นำ ส่วนหว่านเจียงถึงจะมีพรสวรรค์มากกว่าและแข็งแกร่งมากกว่าก็ตามแต่เขากลับขาดความเป็นผู้นำดังนั้นในท้ายที่สุดเหล่าผู้เฒ่าและผู้อาวุโสของหมู่บ้านเมียวก็ได้ตกลงอย่างเป็นเอกฉันท์ให้หว่านไห่รับตำแหน่งเป็นผู้นำหมู่บ้านเมียวคนต่อไปและในเวลานั้นหว่านไห่อาจไม่ได้สุจริตมากนักแต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะในหลายๆ กลุ่มหลายๆ สำนักก็ทำกันและอย่างน้อยๆ หว่านไห่ก็ไม่ได้โหดเหี้ยมที่จะเลือกกำจัดหว่านเจียง
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้เป็นความอัปยศอย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับหว่านเจียงผู้หยิ่งผยองและมั่นใจในตัวเองมาโดยตลอดเพราะถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเหล่าผู้อาวุโสจะเลือกเขาให้รับตำแหน่งผู้นำจอมขมังค์เวทย์คนต่อไปก็ตามแต่ความจริงที่ว่าเขาได้พ่ายแพ้ให้กับหว่านไห่นั้นทำให้เขารู้สึกไม่เต็มใจยอมรับ
ในเวลานั้นฮั่นหยานเองก็ยังลังเลระหว่างหว่านไห่กับหว่านเจียงและเธอก็ไม่รู้ว่าจะเลือกใครเพราะพวกเขาทั้งสองยอดเยี่ยมมาก ถ้าเธอต้องการพูดถึงความรักจริงๆ ล่ะก็ฮั่นหยานนั้นมีความรู้สึกดีๆ ต่อหว่านเจียงมากกว่า อันที่จริงเธอยังหวังที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างพี่น้องด้วยวิธีนี้ดังนั้นเธอจึงเลือกหว่านเจียงและเกลี้ยกล่อมให้สองพี่น้องเชื่อมความสัมพันธ์กันและพัฒนาหมู่บ้านเมียวไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตามการไม่สามารถรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของหมู่บ้านเมียวได้นั้นเป็นรอยแผลที่ลบไม่ออกสำหรับหว่านเจียงและเป็นความอัปยศที่เขาจะไม่มีวันลืม ดังนั้นไม่ว่าฮั่นหยานจะพยายามห้ามเขาอย่างไรมันก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อเขาคิดที่จะยึดตำแหน่งผู้นำในตอนนั้นแล้วใครจะกล้าสนับสนุนเขา? นั่นทำให้ผู้คนจากหมู่บ้านเมียวไล่ล่าเขาและทำให้เขาต้องหนีออกจากหมู่บ้านเมียวไปพร้อมกับฮั่นหยาน
ท้ายที่สุดก็มาถึงจุดที่หว่านเจียงไม่สามารถหลบหนีได้และถูกปิดล้อมโดยสาวกหมู่บ้านเมียว ดังนั้นไม่ว่าความสามารถของหว่านเจียงจะสูงแค่ไหนแต่เขาก็ไม่มีโอกาสชนะได้เลยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์มากมาย แต่ทว่าเขาก็กำจัดปรมาจารย์เหล่านั้นได้มากกว่าโหลนึงแต่หลังจากนั้นเขาก็หมดแรงและล้มลงกับพื้น ในเวลานี้เขากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายมากและเขาก็ปกป้องฮั่นหยานอย่างสุดความสามารถและมองดูหว่านไห่อย่างโกรธเกรี้ยว จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจแล้วพูดว่า “เข้ามาสิ..ถ้าแกต้องการฆ่าฉันแกก็เข้ามา!..ขอแค่แกปล่อยฮั่นหยานไปก็พอ”
หว่านไห่ก็หันไปมองฮั่นหยานและถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ และไม่รู้จะพูดอะไร
“หว่านไห่..ฉันจะไปกับนายตราบใดที่นายปล่อยหว่านเจียงไปนายจะให้ฉันทำอะไรก็ได้” ฮั่นหยานพูดในนาทีสุดท้ายและหว่านไห่จะต้องสั่งให้คนของเขาห้ามไล่ตามหว่านเจียงอีกต่อไป ส่วนหว่านเจียงนั้นรู้ว่าผู้หญิงที่เขารักที่สุดกำลังจะจากไปและไปอยู่กับคนอื่นแล้วแต่เขาก็รู้ดีว่าเป็นนี่เพราะฮั่นหยานรักเขาอย่างสุดซึ้งและทำไปเพื่อที่จะช่วยให้เขารอดชีวิตไปได้
หลังจากนั้นไม่นานหว่านไห่และฮั่นหยานก็แต่งงานกันแต่ในคืนแต่งงานหว่านไห่รู้ว่าฮั่นหยานตั้งท้องลูกของหว่านเจียงแล้วหว่านไห่ก็โกรธเกรี้ยวอยางมากแต่เขารักเธอมากจริงๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าหว่านไห่จะดูเย็นชากับลูกในท้องของเธอมากแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ค่อยๆ เริ่มยอมรับลูกในท้องของฮั่นหยาน



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน