ตอนที่ 1156 อธิบายสถานการณ์ในแต่ละด้าน
………………..
อาจกล่าวได้ว่าหยานเทียนเป่า,เจ้าอี้ข่ายและหม่าฮงจงถูกเย่เชียนช่วยเอาไว้ก็ได้เพราะบางทีพวกเขาอาจจะยังคงต่อสู้กันเพื่อผลกำไรเล็กๆน้อยๆเหมือนแต่ก่อนก็ได้แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไปเพราะสถานะของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนหวังหมิงซูเมื่อเทียบกับสามคนนี้แล้วเย่เชียนได้ช่วยเหลือเขาน้อยกว่าแต่ทว่าเย่เชียนก็สั่งให้เฉินโม่คอยแนะนำและสอนเขาเป็นเวลานานจนหวังหมิงซูสามารถมีสถานะในปัจจุบันได้
ตั้งแต่การตายของเหล่ยลี่หัวหน้าเขตขององค์กรเทียนเต๋านั้นหวังหมิงซูก็ได้ขึ้นมาแทนที่เขาและตอนนี้หวังหมิงซูก็ได้เป็นบุคคลสำคัญในองค์กรเทียนเต๋าแล้ว แน่นอนว่าหวังหมิงซูก็รู้ดีว่าเย่เชียนได้ช่วยเหลือเขามากมายจนเขามีทุกวันนี้ได้ ซึ่งเขาจะไม่มีทางมีสถานะที่เขามีในวันนี้เลยถ้าหากปราศจากการช่วยเหลือของเย่เชียน ดังนั้นหวังหมิงซูจึงยังคงรู้จักตัวตนเดิมของเขาเป็นอย่างดี
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ผ่อนคลายเถอะเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทุกคนเจอหน้าผม..พวกคุณทุกคนยังไม่รู้จักผมดีงั้นเหรอฮ่าๆ..เอาเถอะไม่จำเป็นต้องกดดันเพราะผมขนาดนั้นหรอก” ไม่นานนักเย่เชียนก็หันไปมองหยานเทียนเป่าและพูดว่า “บอกผมทีว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของคุณเป็นยังไงบ้าง?”
“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราใช้เงินที่คุณเย่มอบให้เพื่อพัฒนาธุรกิจของเราอย่างจริงจังและถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเราจะเทียบไม่ได้กับองค์กรเทียนเต๋า,องค์กรสามมุมเมืองและองค์กรซูเหลียนก็ตามแต่ทางตอนเหนือก็เรียกได้ว่ามันเป็นเขตของเราอย่างสมบูรณ์” หยานเทียนเป่าพูด “นอกจากนี้อำนาจของเราในปัจจุบันยังคงขยายตัวและธุรกิจจำนวนมากที่ทั้งสามขั้วอำนาจเข้าไปแทรกแซงก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเราแล้ว”
เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเพราะหยานเทียนเป่าและคนอื่นๆพัฒนาได้เกินความคาดหมายเล็กน้อย ซึ่งเย่เชียนไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะพัฒนาได้ดีขนาดนี้ จากนั้นเย่เชียนก็หันความสนใจไปที่หม่าฮงจงและหม่าฮงจงก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “ธุรกิจแท็กซี่ของเราได้พัฒนาไปอย่างราบรื่นเหมือนกันและขณะนี้ก็มีอู่แท็กซี่สิบแห่งและแปดในสิบก็เป็นบริษัทของเราจริงๆ..ดังนั้นตราบใดที่เราออกคำสั่งการจราจรในไต้หวันก็จะกลายเป็นอัมพาตทันทีและตอนนี้เราก็เริ่มขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและผมเชื่อว่าอีกไม่นานธุรกิจแท็กซี่และรถประจำทางรอบเมืองจะอยู่ภายใต้เราแต่เพียงผู้เดียว..เราทำตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ของคุณเย่เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของฝ่ายอื่นดังนั้นเราจึงจดทะเบียนกับชื่อบริษัทและนิติบุคคลที่แตกต่างกันออกไปและผมก็เชื่อว่าคงจะมีไม่กี่คนที่รู้ว่าบริษัทรถแท็กซี่ทั้งแปดแห่งนี้เป็นของพวกเรา”
หวางหมิงก็คกตะลึงเล็กน้อยเพราะเขาอยู่ในไต้หวันตลอดเวลาแต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยและเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะเคลื่อนไหวอย่างลับๆมากมายขนาดนี้ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาดำเนินการไปมากแค่ไหน แน่นอนว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้อาจเล็กเกินไปสำหรับทั้งสามขั้วอำนาจและไม่สามารถอยู่ในสายตาของทั้งสามขั้วอำนาจได้เลยแต่อิทธิพลของอุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่สามารถละเลยได้ เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจเพราะดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเลยสักนิดเพราะการพัฒนาของทั้งสามคนนั้นเกินความคาดหมายของเขาไปมากและยังทำได้ดีมากอีกด้วย
“ดีมาก..ตราบใดที่พวกคุณรักษามาตรฐานได้ดีพวกคุณก็สามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อความสนใจของรัฐบาลในอนาคตและทำให้พวกเขาต้องยอมเรา” เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “หวังหมิงซูบอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ของนายหน่อยเพราะตอนนี้ภารกิจของนายคือประเด็นสำคัญและเป็นวิธีที่จะทำลายองค์กรเทียนเต๋าและจะส่งผลโดยตรงต่อแผนขั้นต่อไปของเราเพราะงั้นรายงานมาอย่างละเอียดที”
“รับทราบครับบอส” หวังหมิงซูพยักหน้าแล้วพูดว่า “องค์กรเทียนเต๋าในปัจจุบันกำลังเกิดปัญหาภายในและภายนอกและเนื่องจากเซินเฉาหยางเสียชีวิตลงจึงทำให้ผู้บริหารและผู้นำระดับสูงแย่งกันชิงบัลลังก์อย่างเปิดเผยและลับๆ..อีกทั้งยังมีการสู้รบกันด้วยอาวุธหลายครั้งและถึงแม้ว่าองค์กรสามมุมเมืองและองค์กรซูเหลียนจะยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรในตอนนี้แต่ผมก็เชื่อว่าพวกเขากำลังรอโอกาสที่เหมาะสมอยู่..ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ขององค์กรเทียนเต๋ากำลังวุ่ยวายเพราะงั้นพวกมันจะต้องฉวยโอกาสอย่างแน่นอน..ส่วนสถานการณ์ภายในองค์กรตอนนี้คือผู้อาวุโสหลายๆคนต้องการให้เซินเจี๋ยลูกชายของเซินเฉาหยางรับตำแหน่งต่อแต่ดูเหมือนว่าเซินเจี๋ยจะไม่สนใจตำแหน่งนี้มากนัก..ซึ่งในยุคเทคโนโลยีและสังคมสมัยใหม่นี้คนที่จะมารับตำแหน่งผู้นำก็ควรเป็นผู้ที่มีความสามารถดังนั้นผมจึงคิดว่าเราควรจะใช้โอกาสนี้เพื่อดันให้ผมขึ้นเป็นผู้นำขององค์กรและหลังจากนั้นทั้งองค์กรจะอยู่ในมือของเรา”
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเมื่อพิจารณาจากการพบปะกับเซินเจี๋ยเมื่อคืนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่าเซินเจี๋ยเฝ้ามองตำแหน่งผู้นำเอาไว้แต่ตอนนี้หวังหมิงซูกลับบอกว่าเซินเจี๋ยไม่สนใจตำแหน่งผู้นำองค์กร ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการปกปิดของเซินเจี๋ยจะน่าสนใจอย่างมากและไม่ธรรมดาจริงๆ เคล็ดลับนี้สามารถดึงดูดกองกำลังทั้งหมดที่ต่อต้านเขาและรอจนกว่าสุนัขของพวกเขาจะกัดกันเองและเมื่อนั้นเขาก็จะปรากฏตัวออกมาแล้วทุกอย่างก็จะคลี่คลายได้ง่าย ดูเหมือนว่าจะเป็นโชคดีจริงๆที่เหลียงหยานพาเขาไปผับบาร์เมื่อคืนนี้เขาจึงได้พบเซินเจี๋ย ไม่อย่างนั้นเย่เชียนคงจะโดยเซินเจี๋ยหลอกก็เป็นได้ สมแล้วที่ป็นนักเรียนที่จบจากต่างประเทศเพราะแผนการแบบนี้น่ากลัวจริงๆ
เย่เชียนส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “เมื่อคืนนี้ฉันได้เจอกับเซินเจี๋ย”
หวังหมิงซูอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “บอสเจอเขาที่ไหนครับ?”
“ผับบาร์” เย่เชียนพูด “เซินเจี๋ยต้องการจ้างฉันในตอนนั้นและเมื่อพิจารณาจากการสนทนาของฉันกับเขาแล้วเซินเจี๋ยคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่นายเห็นจริงๆ..เหตุผลที่เขาปฏิเสธการเข้ารับตำแหน่งผู้นำองค์กรก็เพราะว่าเขาต้องการตบตาคนและจุดประสงค์ก็เพื่อหลีกเลี่ยงทุกคนที่ต่อต้านเขาแล้วปล่อยให้ศัตรูกัดกันเองจากนั้นเขาจะเคลื่อนไหวเมื่อถึงเวลา”
หวังหมิงซูไม่ได้คาดหวังอย่างเห็นได้ชัดและเขาก็พูดด้วยความตกใจว่า “จากที่บอสพูดมาเซินเจี๋ยคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆแล้วเราจะทำยังไงกันต่อครับ?”
“ตอนนี้เซินเจี๋ยไม่รู้จักตัวตนของฉันและเขาก็ชักชวนให้ฉันร่วมมือกันเขาด้วย..ซึ่งนี่เป็นโอกาสที่ดีและฉันจะไปอยู่กับเขาซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อแผนการของเรา..เพราะงั้นสิ่งที่นายต้องทำในตอนนี้คือรอดูสถานการณ์ไปก่อนและอย่ามีส่วนร่วมในการต่อสู้ใดๆทั้งสิ้นปล่อยให้พวกมันสู้กันเอง..แต่นายสามารถสนับสนุนเซินเจี๋ยเพื่อแลกกับความไว้วางใจของเขาได้” เย่เชียนพูด ” เซินเจี๋ยคนนี้ฉลาดแกมโกงมากเพราะงั้นเราต้องระวังและการเข้าหาเขาเท่านั้นที่ทำให้เรามีโอกาสมากขึ้น” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “แล้วนายรู้มั้ยว่าเซินเฉาหยางตายยังไง?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน