ตอนที่ 1157 เสน่ห์ของอาหาร
………………..
ในที่สุดเย่เชียนและคนอื่นๆก็จำแผนผังความสัมพันธ์ภายในองค์กรเทียนเต๋าทั้งหมดได้อย่างชัดเจนในใจและหลังจากวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วเขาก็ได้ระบุวิธีต่างๆที่จะจัดการจากนั้นเขาก็ฉีกกระดาษโน้ตและเผาทิ้งไปและแยกย้ายกัน เมื่อมองดูเวลาก็เกือบถึงเวลาที่เหลียงหยานต้องเลิกงานแล้วและเย่เชียนก็รู้สึกเบื่อก็เลยออกไปซื้ออาหารทะเลที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆแล้วกลับมาเข้าครัวต่อ
อย่างไรก็ตามเมื่อเย่เชียนเย่เชียนและไม่มีอะไรทำเขาเลยคิดที่จะทำอาหารชุดแคริบเบียนซึ่งถือได้ว่าตอบสนองความต้องการของเหลียงหยานไปในตัว ซึ่งในขณะที่เย่เชียนกำลังยุ่งอยู่ในครัวจู่ๆก็มีเสียงรถอยู่ข้างนอกและเห็นได้ชัดว่าเหลียงหยานกลับมาแล้ว เมื่อเหลียงหยานเข้ามาในบ้านเธอก็ตกใจกับกลิ่นที่ออกมาจากห้องครัวและเธอก็ประหลาดใจอย่างมาก
จากนั้นเย่เชียนก็โผล่หัวออกมาจากห้องครัวแล้วยิ้มเยาะและพูดว่า “ไปล้างมือและพักผ่อนซะเพราะอาหารเย็นจะพร้อมในไม่ช้านี้แล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหลียงหยานก็อึ้งไปครู่หนึ่งและใช้เวลานานกว่าจะตอบสนองได้และจากนั้นเธอก็เดินเข้ามาเปลี่ยนรองเท้าและเสื้อผ้าแล้วนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นและดูทีวีด้วยความเบื่อหน่าย ซึ่งจิตใจของเธอเต็มไปด้วยความวุ่นวายและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่รู้เลยว่าเย่เชียนจะทำอาหารเก่งแค่ไหนแต่เธอเคยได้ยินซ่งหลันพูดถึงทักษะการทำอาหารของเย่เชียนอยู่บ่อยๆและซ่งหลันยังบอกอีกด้วยว่าการที่เย่เชียนจะทำอาหารได้นั้นยากมากและไม่ว่าจะพูดหรือขอร้องยังไงเขาก็ไม่ทำถ้าหากเขาไม่ต้องการทำ
“เอาล่ะ..ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว!” เมื่อเหลียงหยานกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เย่เชียนก็ออกมาจากห้องครัวและโต๊ะก็เต็มไปด้วยจานอาหารซึ่งดูเหมือนจะทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นอย่างมาก เย่เชียนสวมผ้ากันเปื้อนเหมือนกับสามีที่รู้วิธีเอาใจใส่ภรรยาแบบครอบครัวอบอุ่น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเหลียงหยานรู้สึกอยากจะร้องไห้และรู้สึกสะเทือนใจอย่างอธิบายไม่ถูก
“เธอเป็นอะไร..เธอไม่หิวเหรอฉันอุตส่าห์ทำด้วยความยากลำบาก..เพราะงั้นต่อให้เธอไม่หิวเธอก็ต้องกินมัน!” เมื่อเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนไปของเหลียงหยานแล้วเย่เชียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและเขาก็พูดพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนออกและนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเหลียงหยานก็เดินไปที่โต๊ะอาหารและนั่งลงแล้วมองดูจานที่เต็มไปด้วยอาหารจนเธออดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอและมองไปที่เย่เชียนแล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งที่พี่เย่ทำเพื่อฉันงั้นเหรอ?”
“เอ่อ…” เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะเพราะเมื่อเห็นท่าทางของเหลียงหยานแล้วเย่เชียนก็ยิ้มอย่างเขินอายและพูดว่า “เอ่อหยานเอ๋อร์ฉันไม่ได้จะให้เธอกินมันทั้งหมด..ถ้าเธอคิดว่ามันเยอะไปก็เลือกกินบางอย่างก็ได้และคราวหน้าฉันจะทำมันให้น้อยกว่านี้..ฉันรู้ว่าผู้หญิงรักนวลสงวนตัวและกินอะไรอย่างระมัดระวังถ้าอยากจะสวย”
เหลียงหยานเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “ตั้งแต่ฉันโตมาและไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำอาหารให้ฉันกินเลยและนอกจากนี้ฉันก็ได้ยินจากพี่หลันว่าพี่เย่ไม่ค่อยอยากทำอาหารสักเท่าไหร่น่ะ”
“เอาเถอะไม่ต้องคิดมากเพราะฉันเองก็กำลังฝึกมืออยู่พอดีเพราะงั้นถ้าไม่ได้ทำนานก็กลัวฝีมือจะตก” เย่เชียนพูด “แต่อย่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันทำเพื่อเธอล่ะ..ฉันแค่เบื่อก็เลยหาอะไรทำค่าเวลาเท่านั้น”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหลียงหยานก็พูดว่า “พี่เย่ไม่เข้าใจอะไรเลยหรือไง..การพูดแบบนั้นมันทำให้พี่เย่รู้สึกดีอย่างงั้นเหรอ?”
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “เอาหน่าอย่าคิดมาก..อาหารกำลังร้อนเพราะงั้นรีบมากินเร็ว..มาลองชิมแล้วบอกหน่อยว่าฝีมือของฉันจะตกไปแล้วหรือเปล่า”
“ฉันไม่เคยกินมาก่อนเพราะงั้นฉันจะรู้ได้ยังไงว่าฝีมือของพี่เย่ตกหรือเปล่า?” เหลียงหยานพูด อย่างไรก็ตามเหลียงหยานก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปเพราะกลิ่นหอมๆทำให้เธออดใจไม่ไหวและท้องของเธอก็ร้องอย่างต่อเนื่องเพราะความกดดันจากการทำงานในระยะยาวประกอบกับเหลียงหยานเป็นผู้หญิงที่อดทนในที่ทำงานดังนั้นเธอจึงไม่อยากอาหารมากนัก แต่ตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าอาหารอันน่าเอร็ดอร่อยนี้เธอก็ทนไม่ไหว
จากนั้นเธอก็หยิบกุ้งขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในปากของเธอแล้วสีหน้าของเธอก็ตกตะลึงและแน่นิ่งไป ซึ่งการแสดงออกของเหลียงหยานทำให้เย่เชียนประหลาดใจอย่างมากจนเขาพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น?..มันไม่อร่อยหรือไง..ตอนฉันชิมฉันก็คิดว่ามันอร่อยดีนะ” ขณะที่เขาพูดเย่เชียนก็หยิบกุ้งขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา “ก็อร่อยดีนี่..ประสาทการรับรสของเธอผิดปกติหรือเปล่าเนี่ย?”
“ไม่ใช่!..มันอร่อยมาก..ฉันไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้มาก่อนเลย” เหลียงหยานพูดและในตอนนี้เธอเสียภาพลักษณ์ที่เป็นผู้หญิงไปหมดแล้วเพราะเธอยัดอาหารเข้าปากอย่างมูมมาม เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเหลียงหยานแล้วเย่เชียนก็ตกตะลึงเพราะเขาจำได้ว่าฉินหยูและคนอื่นๆก็เป็นเหมือนกับเหลียงหยานเมื่อพวกเธอได้กินอาหารของเขาครั้งแรก
คนสมัยนี้มักจะมีสุขภาพที่ไม่ดีเพราะความกดดันในการทำงานและเหลียงหยานก็อยู่ในภาวะสุขภาพย่ำแย่เช่นกัน ซึ่งในมุมมองของเย่เชียนแล้วการกินเป็นสิ่งที่สนุกสนานมากในชีวิตและไม่จำเป็นต้องอร่อยเสมอไปแค่ต้องครบครัน แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหนก็ควรลิ้มรสความเพลิดเพลินจากมัน
“ถ้าเธอว่างก็ไปพบแพทย์แผนจีนเพื่อปรับสภาพร่างกายของเธอซะ..ถ้าเธอยังทำแบบเหมือนเดิมต่อไปร่างกายของเธอจะทนไม่ไหว” เย่เชียนพูด “การกินเป็นความเพลิดเพลินไม่ใช่ข้อเสียทั้งนั้น”
“เอ่อ…” เหลียงหยานพูดอย่างคลุมเครือ “ถ้าอย่างนั้นพี่เย่ก็ทำให้ฉันกินบ่อยๆสิในอนาคต”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน