ตอนที่ 1167 ใจไม่กล้า
………………..
ตอนที่เซินเจี๋ยเรียนอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเขาก็แอบชอบซูเหว่ยมานานแล้วแต่ต่อมาซูเหว่ยกลับมาที่ไต้หวันก่อนเรียบจบและก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย แต่หลังจากที่เซินเจี๋ยกลับมาไต้หวันเขาก็บังเอิญพบกับซูเหว่ยโดยบังเอิญและเซินเจี๋ยก็ไม่คาดคิดว่าซูเหว่ยซึ่งเรียนไม่เก่งในตอนนี้จะเป็นคนที่รอบรู้ในด้านธุรกิจในตอนนี้ ซึ่งเธอเผยบรรยากาศที่เป็นผู้ใหญ่ของสาววัยทำงานซึ่งมีเสน่ห์อย่างมาก
เซินเจี๋ยค่อนข้างเจ้าชู้เพราะเขามีผู้หญิงหลายคนแต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาอยู่ด้วยได้นานๆเพราะในความเห็นของเขาผู้หญิงมักจะเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาของผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงส่วนใหญ่ในชีวิตของเขาจึงเป็นแค่เครื่องมือในการระบายอารมณ์เท่านั้น
ซูเหว่ยก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในบริษัทเพราะงั้นฉันก็เลยยุ่งมาก..ตอนที่เรียนอยู่ที่อเมริกานายไม่ค่อยคุยกับฉันเลย..ดูเหมือนว่านายจะเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ..กาลเวลามันเปลี่ยนผู้คนได้จริงๆสินะ..นี่นายคงไม่ได้ชอบฉันใช่มั้ย?”
“ฮ่าๆ..จะบอกยังไงดี..ฉันก็แค่ต้องการติดต่ออดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนน่ะ” เซินเจี๋ยพูดและยิ้ม
“เซินเจี๋ย..ฉันต้องบอกนายให้ชัดเจนอีกครั้งว่าอันที่จริงฉันมีแฟนแล้วเพราะงั้น…นายเข้าใจที่ฉันจะสื่อใช่มั้ย” ซูเหว่ยพูด “ถ้านายคิดกับฉันแค่เพื่อนร่วมชั้นเรียนฉันก็ดีใจที่ได้เจอกันและหวังว่านายจะเข้าใจ”
คิ้วของเซินเจี๋ยก็ขมวดเข้าหากันและร่องรอยของความไม่พอใจก็เข้ามาในดวงตาของเขาและหายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็แสร้งยิ้มแล้วพูดว่า “อย่าตัดสินใจเร็วนักสิให้โอกาสฉันบ้าง..โอกาสนี้มันก็เท่ากับการให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน..บางทีเธออาจจะเห็นว่าฉันดีกว่าเขาก็ได้..ฉันอยากเจอแฟนของเธอจริงๆ ”
ซูเหว่ยส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และไม่พูดอะไรอีก
ในที่สุดเย่เชียนก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปดังนั้นเย่เชียนก็กระแทกประตูและเดินเข้าไปทันที เมื่อเห็นแบบนั้นเซินเจี๋ยก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งและรีบตะโกนว่า “ผมบอกให้พี่รอข้างนอกไม่ใช่หรือ?..พี่จะเข้ามาทำอะไร?”
ซูเหว่ยเองก็ตกใจเช่นกันและร่างกายของเธอก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์แบบ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะได้พบกับเย่เชียนในเวลานี้ดังนั้นดวงตาของซูเหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะเป็นประกายเล็กน้อยและร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ “ไม่นะ..เย่เชียน..นายอย่าเข้าใจฉันผิด..เขากับฉันเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเรียนกันเท่านั้น” ซูเหว่ยพูดด้วยความประหม่า
เซินเจี๋ยก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นก็เหลือบมองเย่เชียนด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินไปที่ด้านข้างของซูเหว่ยแล้วกอดเธอและพูดว่า “นายน้อย..ซูเหว่ยเป็นแฟนฉันเพราะงั้นฉันหวังว่านายน้อยจะเห็นแก่ฉัน”
ในตอนนี้ใบหน้าของเซินเจี๋ยก็มืดมนลงเพราะผู้หญิงที่เขาตามจีบอยู่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นผู้หญิงของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ซึ่งในเวลานี้เซินเจี๋ยก็ละทิ้งคราบของคนใจกว้างและเป็นวายร้ายโดยสมบูรณ์แบบและเขาก็มุ่งเป้าไปที่เย่เชียนโดยคิดว่าเย่เชียนกำลังขโมยผู้หญิงไปจากเขา “เห็นแก่พี่เย่งั้นเหรอ?..พี่เย่เป็นใครทำไมผมถึงต้องไว้หน้าพี่?” เซินเจี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ไถ่โจวที่อยู่ด้านข้างก็รีบจับแขนของเซินเจี๋ยเพื่อพยายามเตือนสติเขา ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะรู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องดีก็ตามแต่ในเวลานี้เขาจะยอมปล่อยไปไม่ได้และถึงแม้ว่าแผนการของเขาจะถูกเปิดเผยถึงยังไงเขาก็จะไม่ก้มหน้าและปล่อยผ่านเด็ดขาด เย่เชียนสามารถยอมได้ทุกอย่างและเขาสามารถทนได้เพราะเห็นแก่แผนแต่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงของเขาต้องทนทุกข์เพราะแผนการนี้อย่างแน่นอน
“นายน้อยเซินฉันคิดมาเสมอว่านายน้อยเป็นคนที่มีทั้งความซื่อสัตย์และใจกว้างและเปิดรับสายน้ำทุกสาย..เพราะงั้นซูเหว่ยเป็นแฟนของฉันและฉันก็มีหน้าที่ปกป้องเธอ..ฉันหวังว่าเรื่องนี้เราจะคุยกันได้” เย่เชียนพูด
ซูเหว่ยสับสนเล็กน้อยกับสิ่งที่เธอเพิ่งจะได้ยินเพราะเธอรู้ถึงความสามารถของเย่เชียนดีแต่จู่ๆเย่เชียนจะกลายเป็นลูกน้องของเซินเจี๋ยได้อย่างไร เธออดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความประหลาดใจว่า “แต่นาย…” แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบเย่เชียนก็หยุดเธอโดยพูดว่า “ซูเหว่ยไม่ต้องพูดอะไรแล้ว..ไม่ต้องกังวลไปฉันไม่เป็นอะไร” ซูเหว่ยตกตะลึงแล้วพยักหน้าอย่างหนักหน่วง
ใบหน้าของเซินเจี๋ยก็บิดเบี้ยวมากกว่าเดิมเพราะเขาเป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้ในเรื่องแบบนี้และไถ่โจวก็ชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเมื่อเขาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเซินเจี๋ยก็ไล่ตามจีบหญิงสาวที่นั่นเช่นกัน ซึ่งในตอนนี้อีกฝ่ายกลับเลือกคนที่ด้อยกว่าตัวเองในทุกๆด้านดังนั้นเซินเจี๋ยจะทนได้อย่างไร ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งสองถูกฆ่าตายและการตายก็น่ากลัวมากและตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าเซินเจี๋ยจะประพฤติตนเป็นสุภาพบุรุษยังไงแต่สำหรับไถ่โจวเขาจะไม่มีวันคิดว่าเซินเจี๋ยเป็นสุภาพบุรุษได้อีกเพราะเขารู้ดีว่าจิตใจของเซินเจี๋ยนั้นมืดมนแค่ไหน เขารู้ดีว่าเซินเจี๋ยไม่ได้เห็นเขาเป็นพี่น้องเลยแต่เป็นเพราะเขายังมีประโยชน์บางอย่างสำหรับเซินเจี๋ยในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นเซินเจี๋ยก็คงจะไล่เขาไปนานแล้ว อย่างไรก็ตามไม่ว่าเซินเจี๋ยจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรแต่ไถ่โจวก็ยังคงปฏิบัติต่อเซินเจี๋ยเหมือนเดิม เขาเป็นคนที่สมองตายแล้วและเขาก็เชื่อเสมอว่าเขาได้รับการช่วยเหลือจากเซินเจี๋ยและเขาก็เป็นหนี้ชีวิตของเซินเจี๋ยแต่เพียงผู้เดียว
ไถ่โจวจับแขนของเซินเจี๋ยจนเซินเจี๋ยตอบสนองด้วยความตกใจจากนั้นความโกรธของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “เฮ้อ..ผมล้อเล่นเฉยๆ..อย่าคิดมากไปเลยพี่เย่เพราะผมกับซูเหว่ยเราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเรียนกันเท่านั้นและไม่มีความสัมพันธ์อื่นๆเลย”
ปฏิกิริยาและการแสดงออกของเซินเจี๋ยทั้งหมดเย่เชียนเห็นได้อย่างชัดเจนและเย่เชียนจะเชื่อเซินเจี๋ยง่ายๆได้อย่างไร?บางทีเซินเจี๋ยนี้อาจกำลังคิดหาวิธีฆ่าเขาอยู่ก็เป็นได้?อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ต้องการให้เรื่องนี้บานปลายและอย่างน้อยๆสิ่งที่เซินเจี๋ยพูดก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเขายังมีประโยชน์ต่อเซินเจี๋ยอยู่ในขณะนี้และจะไม่กำจัดเขาในเร็วๆนี้ อย่างน้อยๆก็รอจนกว่าเซินเจี๋ยจะขึ้นครองตำแหน่งผู้นำองค์กรเทียนเต๋าได้อย่างมั่นคง
“ขอบคุณนายน้อยที่เข้าใจ” เย่เชียนพูด


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน