ตอนที่ 1173 โน้มน้าวชางหมิง
………………..
เย่เชียนเคยพูดเอาไว้แล้วว่าในโลกใบนี้เขาสามารถหลอกลวงใครก็ได้แต่เขาไม่สามารถหลอกลวงไป๋ฮวยกับหลินเฟิงได้เพราะนี่คือการเข้าใจกันอย่างถ่องแท้ ดังนั้นโดยที่เย่เชียนไม่ต้องพูดถึงยังไงหลินเฟิงก็สามารถรู้ถึงความคิดในใจของเย่เชียนได้ ในความเป็นจริงในความมืดมักมีพลังเช่นนี้เสมอและสามารถดึงศัตรูของศัตรูให้มาเป็นพวกได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีการสื่อสาร กันแต่อีกฝ่ายก็สามารถรู้ความคิดของกันและกันได้และนี่อาจเป็นชะตากรรมที่เรียกว่ามิตรแท้ก็เป็นได้
“เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ..ถึงยังไงเขาก็ยังขาดความเด็ดขาดอยู่ดี” ชางหมิงพูด “ถ้าหวังหมิงซูกล้าที่จะยืนหยัดก่อนหน้านี้ตั้งแต่แรกล่ะก็ฉันชางหมิงคนนี้ก็จะเป็นคนแรกที่ยกมือเพื่อสนับสนุนเขาอย่างแน่นอน..ในเมื่อความจริงมันกลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้เพราะงั้นในสถานการณ์นี้หวังหมิงซูจะทำยังไงต่อไปล่ะ?”
“ถ้าจำไม่ผิดเซินเจี๋ยจะใช้พิธีงานศพของประธานเซินเพื่อใช้ประโยชน์จากการปรากฏตัวของสมาชิกทุกคนเพื่อประกาศยึดตำแหน่งผู้นำองค์กรเทียนเต๋าด้วยการใช้พวกทหารรับจ้างอินทรีขาวเพื่อกำจัดคนที่ไม่เห็นด้วยในตอนนั้น..เมื่อถึงเวลานั้นเซินเจี๋ยจะฆ่าพวกคุณที่ไม่เห็นด้วยอย่างไม่ลังเลแน่นอน!” เย่เชียนพูดต่อ “เพราะงั้นจะเป็นการดีที่หัวหน้าเขตชางไม่ไปปรากฏตัวในตอนนั้นและแสร้งทำเป็นว่าคุณถูกผมฆ่าแล้ว..ยิ่งไปกว่านั้นประโยชน์ของเรื่องนี้ก็คือเซินเจี๋ยจะไม่ระแวงคุณอีกต่อไปเพราะงั้นหลังจากพิธีงานศพหัวหน้าชางก็ค่อยเปิดเผยทุกอย่างและกำจัดเซินเจี๋ยซะ..จากนั้นหัวหน้าเขตชางกับหัวหน้าเขตหวังก็ทำให้องค์กรเทียนเต๋ากลับมามีเสถียรภาพ”
ชางหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “แต่เท่าที่ฉันรู้มาตาแก่เหวินปินจะต้องเข้าหาเซินเจี๋ยอย่างแน่นอนเมื่อเขารู้ว่าฉันตาย..อีกไม่นานเขาคงจะโทรหาเซินเจี๋ยโดยไม่ลังเลเพื่อจะยึดเขตของฉันไป..แบบนั้นคนของฉันคงจะรับมือไม่ได้อย่างแน่นอนและหัวหน้าเขตคนอื่นๆ คงจะเริ่มสั่นคลอน..ซึ่งมันจะสร้างโอกาสให้เสินเจี๋ยมากกว่าเดิมไม่ใช่เหรอ?”
เย่เชียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะเห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดหวังว่าเซินเจี๋ยจะสมรู้ร่วมคิดกับเหวินปินมาเป็นเวลานานแล้วและมันก็ค่อนข้างยากเพราะแผนการของเซินเจี๋ยซับซ้อนอย่างมาก หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดว่า “จริงๆ แล้วมันก็ไม่ยากเลยตราบใดที่หัวหน้าเขตที่คุณไว้ใจรู้ว่าคุณยังไม่ตายและพวกเขาจะไม่สูญเสียความสามัคคีและจะทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเซินเจี๋ยอย่างแน่นอน..ส่วนเรื่องเขตของคุณนั้นไม่ต้องกังวลไปครับเพราะผมได้รับแจ้งจากหัวหน้าเขตหวังแล้วว่าถ้าหากเหวินปินเคลื่อนไหวจริงๆ ล่ะก็เขาจะใช้ข้ออ้างในการต่อสู้แย่งดินแดนเพื่อช่วยหัวหน้าเขตชางกำจัดเหวินปินด้วยกำลังรบทั้งหมดที่มีเพราะงั้นผมคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“หัวหน้าเขตชางคุณน่าจะพอใจกับข้อตกลงนี้ใช่มั้ย? ..เพราะด้วยวิธีนี้จะไม่มีปัญหาอะไรและตราบใดที่ทุกอย่างเป็นไปตามคาดล่ะก็แผนการของเซินเจี๋ยจะไม่สำเร็จ” เย่เชียนพูด
คิ้วของชางหมิงก็ยังคงขมวดอยู่เล็กน้อยและเขาก็ไม่ได้พูดอะไรสักพักแต่หลังจากผ่านไปนานชางหมิงก็สูบบุหรี่จนหมดมวนและเขี่ยก้นบุหรี่ของเขาทิ้งแล้วพูดว่า “คุณเย่..เขี้ยวหมาป่าไม่ได้ช่วยพวกเราโดยไม่มีเหตุผลใช่มั้ย? ..ถ้างั้นก็บอกผมมาตามตรงเถอะว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของคุณคืออะไรกันแน่?”
เย่เชียนก็ยักไหล่เล็กน้อยและพูดว่า “คุณลองคิดดูนะแล้วที่หลินเฟิงช่วยคุณแบบนี้เขามีจุดประสงค์อะไร?”
ชางหมิงหยุดเล็กน้อยและเข้าใจเพราะเขาจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อว่าจ้างหลินเฟิงกับนักฆ่าองค์กรเซเว่นคิลเพราะเขารู้ด้วยว่าความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบันอาจไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเซินเจี๋ย ดังนั้นเขาจึงตั้งการจ้างมือดีเพื่อให้เขามั่นใจมากยิ่งขึ้นและเนื่องจากเขาสามารถจ้างหลินเฟิงและองค์กรเซเว่นคิลได้เพราะงั้นหวังหมิงซูก็ต้องจ้างองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้เช่นกัน แต่ทว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงฉากบังหน้าและข้ออ้างของเย่เชียนเท่านั้นเพราะเขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะบอกว่าหวังหมิงซูเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจริงๆ และจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือการยึดองค์กรเทียนเต๋าให้มาอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ถ้าเย่เชียนพูดแบบนี้เกรงว่าชางหมิงจะต้องเล็งเป้ามาที่เขาทันทีเลยใช่ไหม?ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพูดอย่างคลุมเครือเพราะด้วยวิธีนี้ชางหมิงจะเชื่อว่าเขากับหวังหมิงซูมีเป้าหมายเดียวกันและเขากับหวังหมิงซูก็ว่าจ้างผู้ช่วยจากภายนอกเหมือนที่เขาจ้างหลินเฟิงนั่นเอง ซึ่งเมื่อไหร่ที่หวังหมิงซูได้ขึ้นเป็นผู้นำขององค์กรเทียนเต๋าล่ะก็เย่เชียนเชื่อว่าหวังหมิงซูจะสามารถขจัดพลังของชางหมิงได้อย่างสมบูรณ์และเมื่อเวลาผ่านไปต่อให้ใครจะต่อต้านแต่มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
ชางหมิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ถ้างั้นก็ทำตามที่คุณบอกก็แล้วกัน..คุณช่วยกลับไปบอกหวังหมิงซูด้วยว่าผมจะสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่..แต่มีข้อแม้ว่าคุณเย่จะต้องนำหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าประธานเซินถูกเซินเจี๋ยฆ่ามาให้ผมเห็นด้วย..อีกอย่างเรื่องที่ประธานเซินจะมอบตำแหน่งให้กับหวังหมิงซูมันก็จะต้องมีหลักฐานไม่มากก็น้อยเพราะงั้นถ้าหากหวังหมิงซูไม่สามารถแสดงหลักฐานนี้ได้ผมก็จะต่อสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อองค์กรเทียนเต๋าของเรา”
หลังจากยิ้มเล็กน้อยเย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ได้ครับ..ผมจะบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กับหัวหน้าเขตหวังเพราะงั้นหัวหน้าเขตชางสามารถวางใจได้เลย..ในช่วงเวลานี้ผมหวังว่าหัวหน้าเขตชางจะทำตามที่เราได้คุยกันได้..จากนั้นทุกอย่างจะถูกจัดการที่พิธีงานศพของประธานเซินเฉาหยาง”
“ได้!” ชางหมิงพยักหน้าเงียบๆ และไม่พูดอะไรอีก
เย่เชียนไม่ถามคำถามใดๆ อีกและเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับหัวหน้าเขตชาง” สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้หมายความว่าเซินเจี๋ยต้องการฆ่าเขาจริงๆ เพราะงั้นเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับความปลอดภัยของซูเหว่ย เพราะด้วยความร้ายกาจของเซินเจี๋ยนั้นเขาจะต้องไม่ปล่อยซูเหว่ยไปอย่างแน่นอนดังนั้นเย่เชียนจึงกังวลมากจริงๆ
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็เดินออกจากประตูไปแต่หลินเฟิงก็เดินตามมาแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ..เราไม่ได้เจอกันนานแล้วเพราะงั้นไปดื่มกัน!”
เย่เชียนก็หันกลับมาแล้วพูดว่า “ผมเกรงว่ามันน่าจะยากเพราะก่อนหน้านี้ที่ผมแสร้งทำเป็นฆ่าชางหมิงและหลังจากที่ผมออกไปเซินเจี๋ยก็ส่งคนมาฆ่าผมทันทีเพราะงั้นผมกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับซูเหว่ยผมก็เลยต้องรีบไปดูดธอให้เร็วที่สุด”
หลินเฟิงงุนงงเล็กน้อยและพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ..ฉันเตรียมรถเอาไว้แล้วเดี๋ยวฉันจะไปส่งนายเอง”
เย่เชียนพยักหน้าและไม่ปฏิเสธจากนั้นทั้งสองก็ออกจากสถานอาบอบนวดและขุ้นรถตรงไปที่บ้านของซูเหว่ยทันที “ว่าแต่พี่หลินมีข่าวเกี่ยวกับหลินฟานบ้างมั้ย?” เย่เชียนถาม
ใบหน้าของหลินเฟิงดูเศร้าเล็กน้อยและเขาก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “อืม..เขากำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและฉันก็ไปหาเขามาแล้ว”
“เฮ้อ!..” หลินเฟิงถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า “อืม..แต่เขาไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ของฉันและถึงแม้ว่าเขาจะชื่อเหมือนกันก็ตาม..เฮ้อ..ฉันคิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องไม่ใช่แบบนั้นเพราะเขาน่าจะตายไปแล้วในทะเลเพลิงตอนนั้น”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน