ตอนที่ 1199 หลัวอวี่
………………..
ดูเหมือนผู้คนในวงการใต้ดินมักจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่กันในพิธีงานศพและไม่รู้ว่ามันได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ฮ่องกงเหล่านั้นหรือเปล่า อย่างไรก็ตามความจริงก็คือเรื่องภายในหลายๆ อย่างมักจะแก้ไขได้ง่ายที่สุดในพิธีงานศพซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการยึดอำนาจและขจัดผู้ที่ไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกปลายแถวหรือสมาชิกระดับสูงและแม้แต่ผู้นำองค์กรต่างก็ต้องเข้าร่วมพิธีงานศพทั้งนั้น ซึ่งนี่จะเป็นการรวมทุกคนภายในองค์กรและมักจะเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ เสมอ ส่วนการจัดงานศพให้คนตายจริงหรือไม่นั้นก็ไม่สำคัญอะไร
เซินเฉาหยางผู้นำอันทรงเกียรติที่ได้พัฒนาองค์กรเทียนเต๋าอย่างสุดความสามารถและเรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่น่ายกย่องมาก แต่น่าเสียดายเพราะเขาฉลาดและมีไหวพริบมาตลอดทั้งชีวิตแต่กลับต้องมาตายด้วยน้ำมือของลูกชายของเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นลูกชายของเขายังไม่ได้ตั้งใจจัดงานศพให้ตัวเขาด้วยซ้ำเพราะเซินเจี๋ยลูกชายของเขาต้องการใช้งานศพของเขาเพื่อปฏิรูปองค์กรใหม่และยึดอำนาจในวนั้น ถ้าเขารู้เรื่องนี้ล่ะก็เกรงว่าเขาอยากจะปีนออกจากโลงศพด้วยความโกรธอย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่ร่างกายของเขาถูกเผาเป็นเถ้าถ่านแล้วและเขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ถึงแม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม
เซินเฉาหยางไม่ใช่คนที่ถือระบบศักดินาแต่อย่างใดเพราะถึงแม้ว่าองค์กรเทียนเต๋าจะถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลเซินและบรรพบุรุษของเขาก็ตามแต่เซินเฉาหยางก็ไม่คิดว่าควรจะมอบองค์กรเทียนเต๋าให้กับลูกหลานของตระกูลเซินเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะในมุมมองของเขาที่องค์กรเทียนเต๋ามีทุกวันนี้ได้ก็เป็นผลมาจากความพยายามของทุกคนในองค์กรและควรส่งต่อให้กับคนที่มีความสามารถในการบริหารจัดการมากที่สุดเพราะด้วยวิธีนี้องค์กรเทียนเต๋าจะสามารถยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จากหัวหน้าเขตทั้งสิบสองขององค์กรเทียนเต๋ามีอยู่สามคนที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำองค์กรคนต่อไปและคนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือหวังหมิงซู,ชางหมิงและเหวินปิน แต่ทว่าทั้งชางหมิงและเหวินปินเป็นคนหัวโบราณเกินไปดังนั้นเซินเฉาหยางจึงรู้สึกว่าอนาคตขององค์กรเทียนเต๋าควรต้องมีผู้นำที่มีเจตจำนงแห่งไฟและจิตวิญญาณในการต่อสู้ ดังนั้นชางหมิงจึงไม่เหมาะสมส่วนเหวินปินนั้นถึงแม้ว่ากำลังรบของเขาจะมากแต่เซินเฉาหยางก็ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่เพราะเหวินปินมักจะทำเรื่องน่าละอายใจและละเมิดกฎขององค์กรและลับหลังองค์กรตลอดหลายปีที่ผ่านมา อันที่จริงเขารู้ทุกอย่างแต่เขาแค่ไม่อยากพูดดังนั้นคนที่เขาเลือกในท้ายที่สุดก็คือหวังหมิงซู
ถึงแม้ว่าหวังหมิงซูจะไม่ได้เป็นหัวหน้าเขตมาเป็นเวลานานก็ตามและเขาก็เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดแต่ทว่าเซินเฉาหยางก็เห็นว่าหวังหมิงซูทำอะไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและหวังหมิงซูก็ได้มอบผลประโยชน์ส่วนใหญ่ที่เขาได้รับให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกๆ ปีและนั่นเป็นสิ่งที่หัวหน้าเขตคนอื่นๆ ไม่สามารถซื้อใจผู้ใต้บังคับบัญชาได้ แน่นอนว่าอย่าดูถูกการกระทำเล็กน้อยแบบนี้เพราะถึงแม้ว่าเงินอาจถูกแจกจ่ายและทุกคนจะไม่ได้มากมายนักแต่สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชามีความเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างแรงกล้าและพร้อมที่จะภักดี เป็นเพราะเหตุนี้เองที่เซินเฉาหยางรู้สึกว่าถ้าหวังหมิงซูสืบทอดตำแหน่งผู้นำองค์กรเทียนเต๋าจากเขาล่ะก็องค์กรเทียนเต๋าในอนาคตจะต้องรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่เซินเฉาหยางไม่ได้คาดคิดมันจะลงเอยแบบนี้เพราะลูกชายของเขาเซินเจี๋ยที่อยู่ในประเทศสสหรัฐอเมริกาจะกลับมา เดิมทีเซินเฉาหยางคิดว่าเซินเจี๋ยไม่สนใจเรื่องขององค์กรเทียนเต๋าและไม่คิดว่าเซินเจี๋ยจะต้องการยึดครององค์กรเทียนเต๋าถึงขนาดนี้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าลูกชายของเขาจะฆ่าเขาเพื่อแย่งชิงอำนาจ นี่คือสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวังเพราะถึงแม้ว่าความสัมพันธ์แบบพ่อกับลูกจะไม่ค่อยดีนักแต่เซินเฉาหยางก็ไม่คิดว่าเซินเจี๋ยจะกล้าทำแบบนี้จริงๆ
พิธีงานศพของเซินเฉาหยานผู้นำและประธานใหญ่แห่งองค์กรเทียนเต๋าซึ่งเป็นหนึ่งในสามขั้วอำนาจของไต้หวัน ซึ่งแน่นอนว่างานศพครั้งนี้เป็นที่พูดคุยกันทั่วไต้หวัน ดังนั้นถึงแม้ว่าเซินเฉาหยางจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของไต้หวันหลายคนในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ก็ตามแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดกล้ามาที่งานศพของเขาเลย อันที่จริงพวกเขายังชัดเจนมากว่าพิธีงานศพครั้งนี้จะไม่ง่ายเหมือนที่คิดเพราะจนถึงตอนนี้องค์กรเทียนเต๋ายังไม่ได้มีการยืนยันผู้นำคนต่อไปแต่อย่างใดและสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันก่อนพวกเขาก็ยิ่งแน่ใจมากขึ้นว่างานศพครั้งนี้จะต้องเต็มไปด้วยการต่อสู้นองเลือดและมีคนจากองค์กรใต้ดินมากมายมาเข้าร่วม ด้วยเหตุนี้เหล่าเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจจึงไม่สะดวกที่จะเข้าร่วมงานศพครั้งนี้
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะไม่มาเข้าร่วมแต่พิธีงานศพของเซินเฉาหยางก็ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าจับตามองเพราะบุคคลสำคัญเกือบทั้งหมดในแวดวงใต้ดินจะมารวมตัวกัน ไม่เพียงเท่านั้นแต่ผู้นำขององค์กรอื่นๆ ที่เคยติดต่อร่วมมือทำธุรกิจกับองค์กรเทียนเต๋าก็มาร่วมและบางองค์กรก็ส่งตัวแทนระดับสูงมา ด้วยเหตุนี้พิธีงานศพครั้งนี้จึงทำให้ทางรัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่จำนวนมากไปยังถนนหลายสายรอบนอกงานศพของเซินเฉาหยางและปิดกั้นถนนสายหลักและห้ามไม่ให้ยานพาหนะเข้าและออกทั้งหมด
หัวหน้าเขตทั้งสิบสองยกเว้นเหวินปินที่เสียชีวิตไปแล้วต่างก็มาร่วมงานเช่นกัน ส่วนชางหมิงเขาก็อยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างเป็นธรรมชาติและแฝงตัวเข้ามาอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าหวังหมิงซูเองก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้วแต่หวังหมิงซูไม่ทราบว่าแคสเปอร์เจคส์กับทหารรับจ้างอินทรีขาวถูกกำจัดไปหมดแล้วในเวลานี้ ดังนั้นหวังหมิงซูจึงขอให้เฉินโม่ส่งคนเข้ามาแฝงในแก๊งค์ของเขาเพื่อเข้าไปในพิธีงานศพท่ามกลางฝูงชน ซึ่งตราบใดที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงพวกเขาก็จะเริ่มดำเนินการทันที
พิธีแรกผู้คนในองค์กรก็ไปไว้อาลัยเซินเฉาหยางทีละคนจากนั้นบางคนจากองค์กรอื่นๆ ก็เข้ามาไว้อาลัยตามลำดับ แน่นอนว่าที่นี่มีจำนวนคนมากเกินไปดังนั้นโดยทั่วไปแล้วพวกเขาจึงส่งตัวแทนของแต่ละองค์กรและแต่ละแก๊งค์มาไว้อาลัยเท่านั้น แต่ขั้นตอนนี้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเช่นกัน
โจวเจิ้งผิงกับหลงซือก็ส่งคนมาร่วมพิธีงานศพของเซินเฉาหยางเช่นกันแต่พวกเขาไม่ได้มาเพื่อแสดงความเสียใจใดๆ ซึ่งส่วนใหญ่เขาส่งคนมาพร้อมกับทัศนคติแบบเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้นเพราะพวกเขาต้องการให้เซินเฉาหยางตายก่อนกำหนดอยู่แล้ว ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจะไม่รู้สึกเสียใจกับการตายของเซินเฉาหยางแต่อย่างใด พวกเขายังรู้ดีว่าต้องมีการต่อสู้ที่นองเลือดในพิธีงานศพครั้งนี้ด้วยและพวกเขาก็กำลังรอชมการแสดงที่ดีแทนที่จะไปร่วมงานศพ
เย่เชียนก็อยู่ท่ามกลางฝูงชนเช่นกันเนื่องจากที่นี่มีตำนวนคนมากดังนั้นเซินเจี๋ยจึงไม่สังเกตเห็นว่าเย่เชียนอยู่ที่นี่ด้วยและเขาก็ไม่คิดว่าเย่เชียนยังไม่ตายและไม่คิดว่าเย่เชียนจะเป็นผู้บงการเบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่างอีกด้วย ด้วยคำพูดของโฆษกงานศพนั้นผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนหนึ่งก็เดินเข้าไปในห้องโถงงานศพและสีหน้าของเย่เชียนก็ตกตะลึงไปชั่วขณะและขมวดคิ้วเพราะผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่ชื่อหลัวอวี่ที่เขาพบที่สนามบินเมื่อสองวันก่อนและยังเป็นหนึ่งในนักฆ่า ‘สายลม สายหมอก สายฝน สายฟ้า’ ที่จินเหว่ยห่าวเรียกอีกด้วย หลังจากมึนงงเล็กน้อยเย่เชียนก็โล่งใจเพราะตระกูลจินมีสถานะที่สูงมากในประเทศจีนและไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะมีธุรกิจบางอย่างกับเซินเฉาหยางและเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะส่งคนไปมาไว้อาลัยเซินเฉาหยางในครั้งนี้



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน