ตอนที่ 1202 การแสดงของเซินเจี๋ย (3)
………………..
หลัวอวี่ที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะยังคงคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัวของเธอจนกระทั่งเย่เชียนพูดออกมาเธอก็ตกใจเล็กน้อยและตื่นขึ้นจากนั้นก็มองไปที่เย่เชียนและเมื่อเห็นเย่เชียนก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แล้วเธอก็ฉีกยิ้มเพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอเดาจะถูกจริงๆ และทุกอย่างเป็นแผนของเย่เชียน แต่ถึงแม้ว่าเธอจะคาดเดาเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็ตามแต่เธอก็ยังแปลกใจเพราะมันไม่ง่ายเลยที่เย่เชียนจะเผชิญหน้ากับองค์กรเทียนเต๋าทั้งองค์กรได้แต่เย่เชียนก็ทำได้อย่างราบรื่นจนเธออดคิดในใจไม่ได้ว่า ‘นายน้อยเลือกติดตามถูกคนจริงๆ สินะ’
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของเย่เชียนแล้วผู้คนขององค์กรเทียนเต๋าจำนวนมากก็ตกตะลึงไปชั่วขณะโดยเฉพาะหัวหน้าเขตทั้งหมดเพราะพวกเขาได้พบกับเย่เชียนในการประชุมครั้งนั้นและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่พูดอะไรแต่เป็นเพราะเขาเดินตามเซินเจี๋ยไปทุกที่จึงทำให้ทุกคนสังเกตเขา กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเย่เชียนเป็นลูกน้องของเซินเจี๋ยแต่ตอนนี้เย่เชียนกลับพูดคำแบบนี้ซึ่งทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก
คนที่ประหลาดใจที่สุดคือเซินเจี๋ยเพราะเย่เชียนถูกเขาฆ่าตายไปแล้วแต่ตอนนี้เย่เชียนมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาซึ่งทำให้เขารู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ย่ำแย่อย่างมากแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ชางหมิงก็ปรากฏตัวขึ้นมาซึ่งทำให้เซินเจี๋ยไม่สามารถตอบสนองได้ ตอนนี้เมื่อเขาคิดอย่างรอบคอบแล้วดูเหมือนว่าเย่เชียนไม่ได้ฆ่าชางหมิงจริงๆ แต่หลอกเขาและอาจเป็นไปได้ว่าเย่เชียนเป็นคนที่ชางหมิงส่งมาตั้งแต่แรก เมื่อคิดแบบนั้นเซินเจี๋ยก็ขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนแกจะเป็นคนฆ่าไถ่โจวสินะ?”
ถ้าเซินเจี๋ยคิดเรื่องนี้ไม่ได้แสดงว่าเขาเป็นคนโง่จริงๆ เพราะฝีมือของไถ่โจวนั้นค่อนข้างยอดเยี่ยมเพราะงั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ซูเหว่ยจะรับมือเขาได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีคนอยู่เบื้องหลังของซูเหว่ยที่คอยช่วยเหลือเธอและเนื่องจากเย่เชียนยังไม่ตายและในฐานะแฟนของซูเหว่ยแล้วเซินเจี๋ยก็ไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้นอกจากเย่เชียน
“ตั้งแต่แกคิดที่จะตามฉันมาดูเหมือนว่าแกจะวางแผนเอาไว้แล้วใช่มั้ย? ..ฉันตาบอดเองสินะที่โง่ปฏิบัติกับแกเหมือนเป็นพี่น้อง” เซินเจี๋ยพูด
“หืม..แกไม่ต้องเสแสร้งพูดหรอก..ดูสายตาของแกสิฉันรู้ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่” เย่เชียนพูด “แกส่งฉันไปฆ่าหัวหน้าเขตชางและแกก็ส่งคนมาฆ่าปิดปากฉันอีกที..โชคดีที่ฉันไม่ได้ทำตามที่แกสั่งไม่อย่างนั้นฉันก็กลายเป็นตัวเบี้ยของแก..ส่วนเรื่องไถ่โจวนั่นเป็นฝีมือของฉันเอง..ในตอนแรกฉันก็ไม่คิดที่จะฆ่าเขาหรอกแต่เขากลับทำสิ่งที่ไม่ควรทำ..เขาไม่ควรแตะต้องผู้หญิงของฉันเพราะงั้นฉันก็เลยต้องฆ่าเขาแต่เอาเถอะเพราะฉันจะส่งแกไปหาเขาเร็วๆนี้แหละ”
“แกพูดอะไรของแก..แกมีหลักฐานหรือเปล่า? ..ต่อให้แกจะพูดอะไรมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก!” เซินเจี๋ยพูด “ฉันไม่เคยคิดที่จะฆ่าหัวหน้าเขตชาง..แต่ที่ฉันส่งคนไปฆ่าแกนั่นก็ถูกแล้วเพราะแกแย่งผู้หญิงของฉันไป”
เมื่อได้ยินแบบนั้นชางหมิงก็เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและมองไปที่เย่เชียน ถึงแม้ว่าชางหมิงจะไม่ใช่คนที่มีไหวพริบมากนักแต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ เขารู้แล้วว่าตั้งแต่ที่เย่เชียนมาหาเขานั้นเย่เชียนก็มีแผนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าผู้น่าเกรงขามจะไม่มีจุดประสงค์แอบแฝงเพราะนั่นมันเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นสิ่งที่เซินเจี๋ยพูดจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะถ้าหากเย่เชียนกำลังสมคบคิดกับใครในองค์กรเทียนเต๋าอยู่ล่ะก็เย่เชียนคงจะไม่บอกว่าเซินเจี๋ยส่งเย่เชียนมาลอบฆ่าเขาอย่างแน่นอนและจากนั้นก็กระตุ้นความขัดแย้งของเขากับเซินเจี๋ย อย่างไรก็ตามไม่ว่าเซินเจี๋ยจะส่งเย่เชียนมาลอบสังหารเขาจริงๆ หรือไม่ก็ตามแต่มันก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อต้านเซินเจี๋ย ซึ่งชางหมิงเพียงแค่ต้องการหาว่าเป้าหมายสูงสุดของเย่เชียนนั้นคืออะไร
หลินเฟิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ชางหมิงก็ไม่พูดอะไรเพียงแค่ฉีกยิ้มเมื่อเห็นเย่เชียนออกมาและทำท่างราวกับว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเพราะการทำธุรกิจทุกอย่างต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพของตัวเอง ดังนั้นหลินเฟิงที่ถูกชางหมิงว่าจ้างให้มาคอยปกป้องและช่วยกำจัดเซินเจี๋ยตามที่ตกลงกันเอาไว้หลินเฟิงก็ต้องทำตามภารกิจ ซึ่งถ้าหากเย่เชียนทำอะไรกับชางหมิงล่ะก็หลินเฟิงก็ต้องขัดขวางและหยุดเย่เชียนเอาไว้เพราะนี่คือชื่อเสียงของนักฆ่าและถ้าหากนักฆ่าสูญเสียชื่อเสียงไปล่ะก็พวกเขาจะไม่สามารถอยู่ในโลกของนักฆ่าได้อีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นหลินเฟิงยังเป็นถึงผู้นำขององค์กรเซเว่นคิลที่มีชื่อเสียงระดับโลกดังนั้นเขาจึงต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณของอาชีพนักฆ่าของเขาอย่างเคร่งครัด
เมื่อเห็นรอยยิ้มของหลินเฟิงแล้วเย่เชียนก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่และอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ซึ่งเย่เชียนเองก็ไม่ได้วางแผนที่จะกำจัดชางหมิงในตอนนี้เพราะมันไม่จำเป็น ถึงยังไงเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดก็คือเซินเจี๋ยและถ้าหากเซินเจี๋ยถูกกำจัดล่ะก็หวังหมิงซูก็จะได้ขึ้นเป็นผู้นำองค์กรอย่างถูกต้องและทุกอย่างก็จะดำเนินไปได้ด้วยดี
“ผู้ชายควรมีความกล้าแต่แกไม่กล้ายอมรับสิ่งที่ตัวเองทำแบบนี้เซินเจี๋ยยังมีความเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?” เย่เชียนแสยะยิ้มและพูด “โชคดีที่ฉันมีหลักฐานไม่อย่างนั้นแกก็จะแก้ตัวว่าฉันโกหกใช่มั้ยล่ะ?” ขณะที่พูดแบบนั้นเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่ชางหมิงและเห็นได้ชัดว่าเย่เชียนเยาะเย้ยเขา เมื่อเห็นแบบนั้นชางหมิงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหันหน้าออกไปเพิกเฉยต่อเย่เชียน



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน