ตอนที่ 1208 เร่งความเร็ว
………………..
หลัวอวี่เลือกที่จะมาที่นี่ในเวลานี้โดยหวังว่าเธอจะฝากเย่เชียนส่งข้อความเตือนไปยังจินเหว่ยห่าวได้แต่ทว่าจินเหว่ยห่าวกลับรู้เรื่องดังกล่าวอยู่แล้วจึงทำให้เย่เชียนสงสัยว่าจินเหว่ยห่าวทำได้อย่างไรหรือมีสายลับอยู่ในตระกูลจินกันแน่ แต่ทว่าด้วยสถานะของจินเหว่ยห่าวในตระกูลจินแล้วเขาไม่ควรจะมีใครที่สนับสนุนเขาอยู่ในตระกูลจินไม่ใช่เหรอ?
จินเหว่ยห่าวยิ้มแหยงๆ “มันก็น่าตลกดีเพราะคนที่บอกข่าวของตระกูลจินให้กับฉันก็คือลูกชายของผู้หญิงที่ฉันเกลียดมาโดยตลอด..เขาเป็นน้องชายที่ติดตามฉันตั้งแต่เด็กๆ เหมือนไอ้โง่คนนั้นแหละ”
เย่เชียนตกตะลึงไปครู่หนึ่งและรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาเพราะถึงแม้ว่าทุกคนในตระกูลจินจะดูถูกจินเหว่ยห่าวก็ตามแต่การมีน้องชายที่ซื่อสัตย์เพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้วในชีวิตนี้ ถึงแม้ว่าน้องชายคนนี้อาจจะไม่สามารถต่อสู้เพื่อจินเหว่ยห่าวได้แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่เขาห่วงใยจินเหว่ยห่าวอย่างใจจริง เมื่อจินเหว่ยห่าวพูดถึงเด็กคนนั้นให้ฟังแล้วในตอนนี้เด็กคนนั้นก็ดูเป็นเด็กที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง “แล้วพี่จินจะทำยังไงต่อ?” เย่เชียนพูด
“ฉันคิดว่าคนในตระกูลจินไม่รู้ว่าฉันอยู่ในสำนักถังและต่อให้พวกเขารู้พวกเขาคงไม่กล้าทำอะไรอยู่ดีเพราะท้ายที่สุดมันไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้ารุกรานสำนักถัง..แต่จากข่าวนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของตระกูลจินจะย่ำแย่พอสมควรเพราะตอนนี้ตระกูลจินกับตระกูลหยุนก็กำลังมีปัญหากันอยู่..ตอนนี้ผมไม่คิดว่าพวกเขาต้องการศัตรูเพิ่มและยิ่งไปกว่านั้นผมคิดว่าพวกเขาน่าจะชัดเจนมากว่าความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลถังกับตระกูลเย่เป็นยังไงเพราะงั้นการประกาศสงครามกับสำนักถังก็เหมือนกับการประกาศสงครามกับตระกูลเย่ด้วย..ด้วยเหตุนี้ผมคิดว่าตระกูลจินคงไม่โง่พอที่จะทำแบบนั้น” จินเหว่ยห่าวพูด “แต่ไม่เป็นไรต่อให้พวกนั้นมาเราก็จะกำจัดพวกมัน!”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะจินเหว่ยห่าวก็พูดต่อ “แล้วพี่สาวหลัวล่ะ? ..เธอไปไหนแล้ว?”
“เธอไปแล้ว!” เย่เชียนพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ผมคิดว่าเธอรักและห่วงใยพี่จินจากก้นบึ้งของหัวใจและเรื่องนี้ก็ทำให้เธอลำบากใจมาก..ซึ่งการที่เธอท่อมาที่นี่เพื่อฝากผมบอกข่าวนี้ให้กับพี่จินนั่นก็แสดงให้เห็นว่าเธอยังคงห่วงใยพี่จินอยู่..เพราะงั้นพี่จินก็ควรจะเตรียมตัวได้แล้วเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เรื่องของไต้หวันจบลงเราจะได้เริ่มลงมือทันทีและเราจะรีบกลับไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน..ผมล่ะอยากเจอพวกตระกูลจินกับตระกูลหยุนจริงๆ”
“ฉันเกือบจะพร้อมแล้ว..ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ถังก็ยังสัญญากับฉันด้วยว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยฉัน!” จินเหว่ยห่าวพูด “สาวกของสำนักถังเองก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวเหมือนกัน”
เย่เชียนพยักหน้าอย่างพอใจ “แต่ยังมีอีกปัญหาหนึ่งที่ปู่ของผมยังจัดการไม่ได้..เรื่องของลุงทั้งสองของผมเพราะงั้นถ้าพี่จินสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้ล่ะก็มันจะเป็นสิ่งที่ดีเพราะถ้าพี่ขัดแย้งกับพวกเขาเพราะเรื่องผู้นำตระกูลล่ะก็มันจะย่ำแย่..แต่ถ้าพี่ไม่สามารถทำได้ก็ไปคุยกับปู่ของผมอย่างระมัดระวังและรีบเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลถังจากนั้นก็เข้ารับตำแหน่งผู้นำตระกูลโดยเร็วที่สุดซะ..เพราะถ้าเป็นแบบนั้นพี่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องขัดแย้งกับพวกเขาแต่ถ้าทำได้ก็คุยกับพวกเขาดีๆ เพราะท้ายที่สุดทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกันและผมไม่ต้องการให้พวกเขาก่อกบฏและทรยศหักหลังอีกต่อไป”
จินเหว่ยห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “อย่าทำให้ฉันต้องลำบากเลยนายก็รู้ว่าฉันไม่เก่งในการเกลี้ยกล่อมคนอื่นและนอกจากนี้ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะเป็นผู้นำตระกูลถังด้วย..ฉันกับยู่ซินไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย..ตอนแรกบางทีฉันอาจมองเธอเป็นเหมือนกับอดีตคนรักสองคนของฉันแต่ตอนนี้ฉันรักเธอมากและตระกูลถังก็ไม่ใช่จุดประสงค์ของฉันเลยเพราะจุดประสงค์ของฉันคือตระกูลจินเท่านั้น”
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ผมรู้แต่ถึงแม้ว่าพี่จะไม่ต้องการแต่ช่วยผมเกลี้ยกล่อมและโน้มน้าวพวกเขาทีผมรู้ว่าพี่ทำได้เพราะพี่มีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน..ผมเชื่อว่าพี่มีอะไรที่คนอื่นไม่มีและลุงๆ ทั้งสองของผมก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร..เพียงแต่พวกเขายังมีปมในใจอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที”
“อืมก็ได้ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” จินเหว่ยห่าวพยักหน้าเล็กน้อยและพูด
“เอาล่ะถ้างั้นผมก็ไม่มีอะไรแล้ว..จากนี้ไปพี่จินต้องเตรียมตัวให้พร้อมและผมจะจัดการกับเรื่องที่ไต้หวันโดยเร็วที่สุด” หลังจากเย่เชียนพูดจบเขาก็วางสายไป
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนแล้วสถานการณ์ที่นั่นก็ใกล้จะร้อนระอุเต็มทนและจำเป็นต้องรีบเร่งจัดการโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีมากอีกด้วยเพราะไม่เพียงแต่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเท่านั้นแต่ในเวลานี้ตระกูลหยุนกับตระกูลจินก็กำลังขัดแย้งกันอยู่ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก ซึ่งสถานการณ์ในไต้หวันขั้นต้นก็สำเร็จแล้วและไม่มีปัญหาใดๆ ในส่วนขององค์กรเทียนเต๋า ซึ่งเหลือเพียงองค์กรซูเหลียนกับองค์กรสามมุมเมืองเท่านั้นและถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุดในการดำเนินการแต่เย่เชียนก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวแล้ว ซึ่งมันอาจจะยากกว่ามากแต่เขาก็ต้องลองเสียงเพราะถ้าหากมันประสบความสำเร็จผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะดีกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ด้วยซ้ำ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้ามันจะเป็นเรื่องของสภาและรัฐบาลและนี่ก็เป็นเป้าหมายแรกของเย่เชียนดังนั้นเขาจึงไม่อยากรอช้าอีกต่อไป
หลังจากกดหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของนากาซาวะเคโกะแล้วเย่เชียนก็พูดว่า “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ..ฉันมีอะไรจะคุยกับเธอหน่อย..เจอกันที่เดิมที่บ้านพักของเหลียงหยาน” หลังจากนั้นเย่เชียนก็วางสายและขับรถไปที่บ้านของเหลียงหยานทันที
เมื่อเย่เชียนกลับมาที่บ้านแล้วเหลียงหยานกับซูเหว่ยก็กำลังทานอาหารเย็นกันอยู่และเมื่อพวกเธอเห็นเย่เชียนกลับมาซูเหว่ยก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มและถามว่า “นายกินข้าวยัง? ..มากินข้าวด้วยกันมั้ย?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน