ตอนที่ 1223 สามขั้วอำนาจแห่งไต้หวัน
………………..
ในตอนเย็นเหลียงหยานกับซูเหว่ยและก็กลับมาที่บ้านและเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของซูเหว่ยดีขึ้นมากและเธอก็บอกว่าการขอยืมเงินกู้ถูกธนาคารอนุมัติแล้ว อย่างไรก็ตามเธอยังสงสัยเล็กน้อยและไม่เข้าใจว่าทำไมอู๋หลี่ถึงเปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหลียงหยานก็ยิ้มเล็กน้อยโดยรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเย่เชียนดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไร
เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยและพูดติดตลกว่าบางทีอู๋หลี่อาจจะเพิ่งคิดได้และถึงแม้ว่าซูเหว่ยจะสับสนเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันอีกต่อไปเพราะเงินกู้ถูกอนุมัติอย่างราบรื่นแล้วและขั้นตอนต่อไปก็ดำเนินการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้ตอนนี้การพัฒนาของบริษัททะเลสี่ทิศค่อนข้างราบรื่นและตราบใดที่ยังมีเงินทุนอยู่บริษัทก็จะก้าวหน้าขึ้นได้อย่างแน่นอน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วเย่เชียนก็โทรหาโจวเจิ้งผิงกับซือหลงทีละคนและขอให้พวกเขามาที่ห้องส่วนตัวVIPในโรงแรมวันพรุ่งนี้และทั้งสองก็ไม่มีข้อสงสัยใดๆ และตอบตกลงอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเย่เชียนก็โทรหาหวังหมิงซูอีกครั้งและบอกให้เขามาร่วมประชุมด้วยในวันพรุ่งนี้
ถึงแม้ว่าหวังหมิงซูจะยังไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์องค์กรเทียนเต๋าอย่างเป็นทางการเพราะยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากมายที่ต้องทำเพื่อเข้ารับตำแหน่งผู้นำและประธานองค์กรเทียนเต๋าแต่ตอนนี้ก็ถือได้ว่าหวังหมิงซูรักษาการเป็นผู้นำองค์กรแล้วและสมาชิกองค์กรทุกคนก็ทำตามคำสั่งของเขา แน่นอนว่าหวังหมิงซูไม่ได้ถามว่าทำไมและตอบตกลงทันทีเพราะเขารู้ตัวตนของเขาเป็นอย่างดีและถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำองค์กรเทียนเต๋าแล้วแต่เขาก็ยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเย่เชียนเสมอ
จากนั้นเย่เชียนก็โทรหานากาซาวะเคโกะและบอกให้เธอมาเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการแนะนำตัวและพบปะกันอย่างเป็นทางการของโจวเจิ้งผิง,หลงซือและหวังหมิงซูอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากการเจรจาสำเร็จล่ะก็นากาซาวะเคโกะจะต้องเป็นตัวแทนของเขาในไต้หวันทั้งหมดและสิ่งเหล่านี้นากาซาวะเคโกะจะจัดการแทนเขา ดังนั้นเย่เชียนจึงจำเป็นต้องแนะนำพวกเขาให้รู้จักพวกเธอเพื่อที่พวกเขาจะได้เตรียมพร้อมและร่วมมือกันในอนาคต
โดยธรรมชาติแล้วนากาซาวะเคโกะก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เกี่ยวกับการจัดการของเย่เชียนและนอกจากนี้เธอยังรู้ว่าซ่งหลันประธานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปนั้นก็ได้รับการตั้งชื่อโดยเย่เชียนและนากาซาวะเคโกะก็รู้สึกมีความสุขขึ้นในใจของเธอซึ่งหมายความว่าเธอเองก็มีสถานะที่สูงในใจของเย่เชียนเหมือนกันและตอนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่สูงเท่าซ่งหลันแต่อย่างน้อยๆ ก็พิสูจน์ได้ว่าเย่เชียนเริ่มให้ความสำคัญกับเธอแล้วและนี่ก็เป็นสิ่งที่มีความสุขมากสำหรับนากาซาวะเคโกะ ดังนั้นนากาซาวะเคโกะก็ยินดีที่จะตายเพื่อรับใช้เย่เชียนแล้วนับประสากับการทำภารกิจดังกล่าว ซึ่งเธอชอบชื่อนี้มากเย่หวันและวันนี้เธอก็เขียนชื่อนี้ไม่หยุดและบางครั้งเธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างมีความสุขขณะเขียน
หลังจากรับสายแล้วเย่เชียนก็เดินลงไปที่ชั้นล่างและเหลียงหยานก็นั่งลงบนโซฟากับซูเหว่ยขณะดูทีวีและกระซิบกัน ซึ่งในบางครั้งเธอก็หัวเราะกันและหลังจากที่เห็นเย่เชียนเดินลงมาทั้งสองก็รีบหยุดการกระทำของพวกเธอจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “นี่..พวกเธอไม่ได้กำลังนินทาฉันใช่มั้ย? ..พวกเธอคุยอะไรกันอยู่ก่อนที่ฉันจะลงมา?”
“แล้วนายคิดว่าพวกเรากำลังคุยอะไรกันอยู่ล่ะ?” ซูเหว่ยหันไปมองเย่เชียนแล้วยิ้มอย่างสนุกสนานและพูดว่า “ดูเหมือนว่านายจะมีความลับที่พวกเราไม่รู้อีกเยอะแยะเลยนะและยังเป็นเรื่องที่เลวร้ายอีกด้วยเพราะงั้นนายยังจะกลัวคนอื่นนินทาอยู่อีกเหรอ?”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ฉันไม่กลัวหรอกว่าพวกเธอจะพูดอะไรแต่พวกเธอก็ควรจะให้ฉันรู้ด้วยว่าพวกเธอกำลังคุยอะไรกัน..ฉันอยากรู้ว่าพวกเธอคิดอะไรกันอยู่..พวกเธอคิดว่าฉันเป็นคนยังไง..หล่อ..เท่..อ่อนโยน..หรือมากพรสวรรค์กันล่ะ?”
“นี่นายไม่คิดว่าตัวเองไม่มีข้อเสียเลยรึไง?” ซูเหว่ยพูด
“จริงเหรอ? ..ในเมื่อเธอพูดอย่างนั้นฉันก็จะแสดงให้เห็นเอง” เย่เชียนรีบวิ่งไปข้างหน้าเมื่อเสียงนั้นจบลง
เมื่อเห็นบรรยากาศการต่อสู้ของทั้งสองแล้วเหลียงหยานก็รู้สึกแปลกๆ ในใจราวกับว่าเธอกลายเป็นคนนอกและรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและเธอก็แอบคิดว่าเมื่อไหร่ที่เธอจะสนิทและใกล้ชิดกับเย่เชียนได้บ้าง?
ซูเหว่ยสังเกตเห็นท่าทางของเหลียงหยานอย่างชัดเจนดังนั้นเธอจึงเหลือบมองเย่เชียนและหันไปมองเหลียงหยาน จากนั้นเย่เชียนก็หันกลับมามองด้วยความประหลาดใจและยิ้มอย่างขมขื่นและหยุดการเคลื่อนไหวของเขาแล้วพูดว่า “นี่หยานเอ๋อร์ทำไมเธอถึงทำหน้าเศร้าแบบนี้ล่ะ? ..โลกนี้มันกว้างใหญ่เพราะงั้นยังมีหนุ่มหล่ออีกตั้งมากมายรอเธออยู่นะ!”
“นี่นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร..นายไม่เข้าใจความคิดของพี่หยานหรอก” ซูเหว่ยกลอกตาไปมาและพูด
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ จากนั้นเหลียงหยานก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “อย่ามองฉันด้วยสีหน้าแบบนั้นสิ..ผู้หญิงเก่งๆ ไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายมาคอยดูแลหรอก..ฉันสามารถมีชีวิตที่ดีได้โดยไม่มีผู้ชาย”
“ใช่..ถ้าใครกล้าดูถูกน้องสาวฉันล่ะก็ฉันจะเป็นคนแรกที่จะจัดการมัน!” เย่เชียนยิ้มและพูด
“เอาเถอะมันดึกมากแล้วฉันจะกลับก่อนเพราะพรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานแต่เช้า” ซูเหว่ยพูดและลุกขึ้น
“มันดึกแล้วเพราะงั้นอย่ากลับเลยเธอพักอยู่ที่นี่ดีกว่า..อีกอย่างฉันมีอะไรจะคุยกับเธออีกตั้งมากมาย” เย่เชียนยิ้มและพูด
ซูเหว่ยตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วหน้าของเธอก็แดงเพราะเธอจะไม่เข้าใจสิ่งที่เย่เชียนพูดได้อย่างไรและเธอก็แอบดีใจอย่างลับๆ เพราะหลังจากห่างกับเย่เชียนมานานเธอก็เพิ่งจะได้ใช้เวลาอยู่กับเย่เชียน ซึ่งซูเหว่ยเป็นผู้หญิงและเธอก็เป็นมนุษย์คนนึงด้วยดังนั้นเธอก็มีความต้องการเหมือนทุกคน ซึ่งซูเหว่ยก็มักจะนึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่มาเก๊าและเธอก็มีความต้องการอย่างควบคุมไม่ได้

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน