ตอนที่ 1235 เข้าครอบครองธุรกิจและอุตสาหกรรมในเซินเจิ้น
………………..
การแสดงของฟู่ฉวนทำให้เย่เชียนพยักหน้าอย่างลับๆ เพราะเธอเหมือนเกิดมาเพื่อเป็นมาเฟียจริงๆ และแก่นแท้ของความกล้าหาญแบบนี้ก็ถูกเปิดเผยออกมาได้อย่างเต็มที่และดูเหมือนว่าการที่เขาเป็นห่วงเธอนั้นมันช่างอย่างไร้สาระจริงๆ ในตอนนี้เย่เชียนถึงกังแอบคิดว่าแวดวงใต้ดินในอนาคตของประเทศจีนจะต้องมีหญิงแกร่งอีกคนถือกำเนิดขึ้นอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนตัวอ้วนจะรู้ว่าเป็นฟู่ฉวนกำลังข่มขู่เขาอยู่แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์และครอบครัวของเขาก็อยู่ในกำมือของฟู่ฉวนและตราบใดที่เขากล้าปฏิเสธล่ะก็ครอบครัวของเขาจะเป็นศพอยู่ข้างถนนอย่างแน่นอน เขาอยู่บนถนนสายนี้มานานแล้วและเหน็ดเหนื่อยมามากกว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีได้แต่ถ้าหากเขาไม่เหลืออะไรมันก็ไม่คุ้ม เพราะหลายปีที่ผ่านมาเขาได้เห็นผู้คนที่โหดเหี้ยมมามากมายแต่เขาก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมอย่างฟู่ฉวนเลยดังนั้นเขาจึงต้องจำใจยอมรับ
ชายวัยกลางคนตัวอ้วนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “หัวหน้า..ต่อจากนี้ไปเธอคือหัวหน้าของฉันและฉันจะทำทุกอย่างที่เธอสั่งให้ฉันทำ!”
ฟู่ฉวนยิ้มอย่างพึงพอใจและหันไปมองคนอื่นๆ แล้วพูดว่า “แล้วพวกคุณล่ะคิดว่าไง? ..คิดให้ดีๆ เพราะฉันเป็นคนที่มีความอดทนต่ำซะด้วย”
เมื่อได้ยินแบบนั้นคนอื่นๆ ก็มองหน้ากันและถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ แล้วตะโกนว่า “ครับหัวหน้า!”
ฟู่ฉวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดบางอย่างในโทรศัพท์จากนั้นก็วางสายไปและกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “ฉันดีใจที่ทุกคนตัดสินใจแบบนี้..ฉันรู้ว่าทุกคนทำเพื่อเงินและอำนาจเพราะงั้นถ้าใครปฏิบัติกับฉันอย่างภักดีล่ะก็ฉันจะตอบแทนคืนเป็นสิบเท่าแต่ถ้าใครกล้าลับหลังฉันล่ะก็เดี๋ยวได้รู้กัน..เพราะงั้นหลังจากนี้ทุกคนต้องทำสิ่งที่ควรทำอย่างถูกต้องและฉันสัญญาว่าพวกคุณทุกคนจะมีชีวิตที่ดีและนอกจากนี้อย่างที่ฉันพูดเมื่อกี้ว่าแต่ก่อนพวกคุณจ่ายให้โจวหยวนเท่าไหร่พวกคุณก็ต้องจ่ายให้ฉันในอนาคตเท่านั้น..ในตอนนี้ถึงแม้ว่าโจวหยวนจะพยายามอย่างมากในเซินเจิ้นแต่มันก็ไม่สามารถทำให้สถานการณ์มั่นคงอย่างสมบูรณ์ได้เพราะงั้นสิ่งที่ฉันต้องการคือเมืองเซินเจิ้นทั้งหมดและคุณก็น่าจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร..เอาล่ะทำสิ่งที่พวกคุณต้องทำต่อไปและฉันมอบอนาคตที่รุ่งโรจน์ให้กับองค์กรและทุกคนและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่รู้จบเอง!”
แน่นอนว่าทุกคนในห้องประชุมไม่มีอะไรจะพูดแล้วในตอนนี้และพวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย ซึ่งพวกเขาต้องยอมรับเลยว่าฟู่ฉวนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขามีความเป็นผู้นำและทั้งโหดเหี้ยมและสงบสุขุมในเวลาเดียวกัน หลังจากหยุดไปชั่วขณะฟู่ฉวนก็พูดต่อ “ส่วนผู้ชายคนนี้คือคุณเย่..พวกคุณส่วนใหญ่คงเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อนแล้วเพราะงั้นฉันจะไม่พูดอะไรให้มากความ..ฉันต้องบอกทุกคนให้ชัดเจนอีกครั้งว่าทุกอย่างที่เป็นของพวกเราคือของคุณเย่ทั้งหมด..พูดอีกอย่างก็คือถ้าพวกคุณกล้าทรยศฉันนั่นก็เท่ากับการทรยศผู้นำสูงสุดของเรา..แต่ถ้าใครคิดว่ามีความสามารถมากพอก็ลองดูได้!”
เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และยิ้มอย่างขมขื่นเพราะฟู่ฉวนรู้วิธีการควบคุมคนจริงๆ และดูเหมือนว่าเธอต้องการย้ำถึงตัวตนของเธออีกครั้งโดยใช้ชื่อของเขาเพื่อยับยั้งและกดดันคนเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่ผิดเพราะสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริงและจะดีมากถ้าคนเหล่านี้รู้ถึงตัวตนของเขาเพื่อไม่ให้ใครกล้าเป็นเหมือนโจวหยวนอีกในอนาคต เพราะก่อนหน้านี้ผู้ใต้บังคับบัญชาส่วนมากไม่รู้จักเขาซึ่งทำให้โจวหยวนมีโอกาสที่จะทรยศนั่นเอง
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งและหันไปมองรอบๆ เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้ถึงตัวตนของเย่เชียนเพราะท้ายที่สุดฟู่ฉวนก็ไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่เย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ผมเย่เชียน..ถึงแม้ว่าพวกคุณจะไม่รู้จักผมแต่ผมก็รู้จักพวกคุณดี..ผมจะบอกความจริงกับทุกคนว่าเดิมทีโจวหยวนเป็นลูกน้องของผมแต่เขาเลือกที่จะทรยศผมเพราะงั้นผมจึงไม่ต้องการให้ใครเดินตามเส้นทางที่เขาเลือก”
ในเมื่อฟู่ฉวนพูดแบบนั้นเย่เชียนก็ต้องออกมาพูดอะไรบางอย่างซึ่งเป็นการเกริ่นนำที่ดีและนั่นจะทำให้ฟู่ฉวนมีคุณสมบัติและสถานะมากขึ้นในการจัดการคนกลุ่มนี้ เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินการแนะนำตัวของเย่เชียนพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าและยอมรับทันทีเพราะชื่อของเย่เชียนนั้นได้รับการขนานนามมานานแล้วในแวดวงใต้ดินเพราะงั้นทำไมพวกเขาถึงจะไม่รู้ล่ะ? เพราะเมื่อเย่เชียนมาเยือนประเทศจีนเขาก็ได้รวมแก๊งค์ชิงและหงเหมินกรุ๊ปที่เป็นองค์กรมาเฟียที่ยิ่งใหญ่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศจีนให้รวมกันเป็นหนึ่งได้ ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งของเย่เชียนแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถเทียบได้เลยและพวกเขาก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าไม่น่าแปลกเลยที่ฟู่ฉวนมีความมั่นใจถึงขนาดนี้เพราะปรากฏว่ามีผู้มีอำนาจและอิทธิพลระดับประเทศอยู่เบื้องหลังของเธอ แน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องราวภายในของโจวหยวนแต่ตอนนี้เย่เชียนได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วและพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกเพราะการสู้กับเย่เชียนนั่นก็เท่ากับการแสวงหาความตายและพวกเขาก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นเลยจริงๆ หากเป็นแบบนั้นสู้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อและกับสิ่งที่มีและช่วยเย่เชียนพัฒนาสิ่งต่างๆ ไปอย่างราบรื่นดีกว่า
“เอาล่ะ..การประชุมวันนี้จบลงแล้วและขอให้ทุกคนกลับไปบอกลูกน้องของตัวเองด้วยว่าสถานการณ์เป็นยังไงและต้องทำยังไงต่อไป” ฟู่ฉวนพูด
เมื่อคำพูดจบลงคนเหล่านั้นก็ลุกขึ้นทีละคนและบอกลาฟู่ฉวนกับเย่เชียนแล้วถอยออกไปอย่างระมัดระวัง ซึ่งพวกเขาแอบดีใจในใจที่พวกเขาไม่ได้ระเบิดความโกรธและหยิ่งผยองเหมือนกับชายหนุ่มสวมเสื้อกั๊กไม่อย่างนั้นคนที่นอนอยู่บนพื้นตอนนี้ก็คงจะเป็นพวกเขา เมื่อคิดๆ ดูแล้วพวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเพราะปรากฏว่าเย่เชียนผู้ยิ่งใหญ่นั่งอยู่ใกล้ๆ พวกเขาโดยไม่รู้ตัวและพวกเขาเกือบจะคุกคามเย่เชียนไปแล้วซึ่งนี่ไม่ใช่การมองหาความตายหรอกเหรอ?
เมื่อเห็นว่าทุกคนออกไปแล้วฟู่ฉวนก็ยืนขึ้นและเดินไปหาเย่เชียนแล้วนั่งลงและพูดว่า “พี่เย่ฉันทำถูกหรือเปล่า?”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน