ตอนที่ 1237 การนัดหมาย
………………..
ในตอนเช้าเย่เชียนก็ไปที่สนามบินโดยตรง!
เย่เชียนไปถึงในตอนเก้าโมงเช้าแต่ทว่าไฟลท์บินกลับล่าช้ากว่ากำหนดไปจนถึงเวลาบ่ายสามโมงและมันทำให้เย่เชียนหดหู่อย่างมาก
เมืองเสิ่นหยางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญมากกับประเทศ ซึ่งหนึ่งในแปดเขตทหารที่สำคัญของประเทศจีนก็ตั้งอยู่ในเมืองเสิ่นหยาง สำหรับหูวหนานเจียนแล้วเขาหวังว่าที่นี่จะสงบและไม่มีปัญหาใดๆ เหมือนในสมัยโบราณในเวลานั้นบรรพบุรุษของราชวงศ์ฉิงได้ทำสงครามแย่งชิงแผ่นดินกันแต่ในท้ายที่สุดนายพลหยวนชงฮัวก็ได้พ่ายแพ้โดยปืนใหญ่และในที่สุดก็ต้องล่าถอยไปที่เมืองเสิ่นหยางและหลังจากนั้นสงครามก็จบลง
ซึ่งเมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่เวทีทางการเมืองอย่างเป็นทางการลูกหลานของเขาในรุ่นต่อๆ ก็มาตั้งรกรากที่นี่และเปลี่ยนแซ่สกุลของพวกเขาให้กลายเป็นจินที่มีความแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่และหลังจากการพัฒนามานานหลายทศวรรษตระกูลจินก็วางรากฐานที่ดีในประเทศจีนโดยคำนึงถึงแวดวงการเมืองธุรกิจหรือแวดวงทหารจนทำให้พวกเขามีอิทธิพลอย่างล้นหลาม
แน่นอนว่าตระกูลหยุดเองก็เป็นตระกูลที่สืบทอดมาจากราชวงศ์เช่นกันและไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลจินเลย ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาทั้งสองได้ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานแต่พวกเขาก็มีความสำเร็จและความล้มเหลวของตัวเองนับไม่ถ้วนและไม่มีใครเหนือกว่าใคร แต่ปัญหาในครั้งนี้ใหญ่เกินไปเพราะพวกเขาทั้งสองตระกูลหันหน้าชนกันโดยใช้กองกำลังเดือบจะทั้งหมดของตระกูลเพื่อสร้างพายุในเสิ่นหยางจนรัฐบาลไม่กล้าที่จะเข้าไปแทรกแซงเพราะอิทธิพลของพวกเขาทั้งสองตระกูลนั้นมากเกินไปและซับซ้อนอย่างมากและมีแนวโน้มที่จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงอีกด้วย ดังนั้นด้วยเหตุนี้หูวหนานเจียนจึงจำเป็นต้องยืมมือของเย่เชียน
เมื่อเย่เชียนออกจากสนามบินเขาก็ตรงไปยังอาคารรัฐสภาทันทีและระหว่างทางเย่เชียนได้สืบหาข้อมูลเพิ่มเติมจากคนขับแท็ก ซี่อย่างชาญฉลาดจนได้ข่าวบางอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากปากของคนขับแท็กซี่ แน่นอนว่าเราไม่สามารถประมาทคนขับรถแท็กซี่เหล่านี้ได้เพราะผู้โดยสารที่ใช้บริการพวกเขาในทุกๆ วันล้วนเป็นคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อยและบางคนก็ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเสิ่นหยางมานานดังนั้นพวกเขาจะมีข้อมูลสำคัญๆ ไม่มากก็น้อย
ประมาณสองชั่วโมงต่อมารถหยุดอยู่หน้าอาคารรัฐสภาในเสิ่นหยางและเย่เชียนก็เงยหน้าขึ้นมองและมองออกไปยังอาคารและมันก็ใหม่มากซึ่งเพิ่งจะสร้างเสร็จเพียงไม่กี่ปี เมื่อพูดถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งล่าสุดที่เย่เชียนมาที่นี่อาคารรัฐสภาไม่ได้ตั้งอยู่ที่นี่ ซึ่งเมื่อเย่เชียนมาถึงเขาก็จ่ายเงินหลังจากลงจากรถเขาก็เดินตรงเข้าไปทันที
จากนั้นเย่เชียนก็ยื่นเอกสารของหูวหนานเจียนให้เจ้าหน้าที่รัฐที่รออยู่ด้านหน้าและเมื่อเย่เชียนเดินเข้าไปในอาคารรัฐสภาแล้วเจ้าหน้าที่รัฐที่รอต้อนรับอยู่ก็ตกตะลึงอย่างรวดเร็วเพราะตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีของเสิ่นหยางนั้นจะเป็นหัวหน้าของพวกเขาในอนาคต “ท่านรองนายกเทศมนตรีคะฉันเทียนเทียนเป็นเลขานุการของคุณ..ฉันได้เตรียมห้องทำงานประจำตำแหน่งเอาไว้ให้คุณแล้วแต่ตอนนี้มันยับไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ค่ะ..จะให้ฉันแนะนำตัวอาคารโดยรอบให้ก่อนไหมคะ?” เธอพูดเบาๆ และดูเป็นมืออาชีพอย่างมากและชุดสูทของเธอนั้นก็ทำให้เธอดูสง่างามอย่างสมบูรณ์แบบ
“ไม่!..พาผมไปที่ออฟฟิศก่อน” เย่เชียนพูด
เทียนเทียนถึงกับผงะเล็กน้อยและรู้สึกแปลกๆ เพราะเย่เชียนเป็นเจ้าหน้าที่คนแรกที่สบายๆ และยิ่งไปกว่านั้นรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเย่เชียนก็ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ เธอเคยเห็นเจ้าหน้าที่จำนวนมากแต่เย่เชียนดูไม่เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐของทางการเลยแม้แต่น้อยและเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แล้วเย่เชียนเหมือนพวกนักเลงอันธพาลมากกว่า อย่างไรก็ตามยิ่งเธอมองไม่เห็นมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้นแต่นี่คือเจ้านายในอนาคตของเธอและเธอก็ยังคงต้องร่วมมือและรับมือกับเขาอย่างระมัดระวังเพราะมันเกี่ยวข้องกับชีวิตในอนาคตของเธอ
“ได้ค่ะท่านรองนายกเทศมนตรี..โปรดมากับฉันเดี๋ยวฉันจะนำท่านไปที่สำนักงาน..ซึ่งเมื่อวานนี้ฉันได้ส่งคนไปทำความสะอาดแล้วแต่ยังต้องเพิ่มสิ่งของและเครื่องใช้อยู่อีกเล็กน้อยเดี๋ยวฉันจะสั่งให้เจ้าหน้าที่มาเพิ่มให้ภายหลังนะคะ” เทียนเทียนพูด
เย่เชียนไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมเพราะเขาเพิ่งมาถึงที่นี่ดังนั้นเขายังคงฟังให้มากและพูดให้น้อยลงเพราะเขาต้องรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของคนที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรกว่าใครคือคนของตระกูลจินและใครคือคนของตระกูลหยุน ไม่อย่างนั้นเย่เชียนจะไม่สามารถเริ่มการกระทำใดๆ ได้และจะเสียเปรียบศัตรูอย่างมาก
สำนักงานมีขนาดใหญ่มากและห้องของรองนายกเทศมนตรีก็สะอาดมาก เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “แล้วนายกเทศมนตรีอยู่ที่ไหนเหรอผมต้องไปพบเขา”
“นายกเทศมนตรีไปประชุมค่ะเขาน่าจะกลับมาถึงในเช้าวันพรุ่งนี้” เทียนเทียนพูด “ท่านรองนายกเทศมนตรีเย่คะให้ฉันจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้หรือเปล่าคะ?”
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “มีหูฉลามหรือเปล่า? ..ถ้าไม่มีก็พาผมไปข้างนอกและเล่ารายละเอียดของเจ้าหน้าที่รัฐแต่ละคนให้ผมฟังหน่อยก็แล้วกัน”
เทียนเทียนแน่นิ่งไปชั่วขณะเพราะเธอไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ทำงานหนักและตั้งใจขนาดนี้เมื่อมาทำงานวันแรก ซึ่งการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมดค่อนข้างยากเพราะสถานการณ์ในเสิ่นหยางตอนนี้ค่อนข้างวุ่นวายและมีเจ้าหน้าที่หลายคนที่มีอิทธิพลและความสัมพันธ์กับเบื้องบนมากมาย
เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยเพราะนี่ไม่ใช่เหตุผลหลักแต่เหตุผลที่ใหญ่กว่าคือสงครามของตระกูลจินและตระกูลหยุน ซึ่งเย่เชียนเป็นเจ้าหน้าที่ที่เพิ่งมาใหม่ดังนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงเย่เชียนไปเป็นพรรคพวกอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นอดีตรองนายกเทศมนตรีคนก่อนหน้าเย่เชียนยังถูกฆ่าโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างลึกลับอีกด้วย
“ไม่หรอกผมแค่อยากไปชมรอบๆ เมืองน่ะผมไม่ค่อยชอบความบันเทิงสักเท่าไหร่” เย่เชียนพูดต่อ “คุณช่วยไปกับผมหน่อยจะได้หรือเปล่า?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน