ตอนที่ 1247 มาเยือนตระกูลจิน
………………..
รปภ.เหล่านี้รู้ดีอยู่ในใจว่าการเป็นรปภ.นั้นจะไม่สามารถมีความสำเร็จใดๆ ได้แต่ถ้าหากได้ช่วยเหลือเย่เชียนล่ะก็บางทีพวกเขาอาจจะมีโอกาสเติบโตและพัฒนาอาชีพการงานในอนาคตได้และอย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าตอนนี้ใช่ไหม? ในฐานะมนุษย์หากคุณไม่กล้าที่จะไขว่คว้าโอกาสเมื่อมันมาถึงนั่นก็แสดงว่ามันเป็นความล้มเหลวจริงๆ
เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและตบไหล่ของพวกเขาและพูดว่า “พวกคุณไม่จำเป็นต้องกระโดดลงไปในกระทะน้ำมันร้อนหรอกเพราะตราบใดที่พวกคุณทำสิ่งต่างๆ ให้ผมเป็นอย่างดีล่ะก็ผมจะไม่ปฏิบัติต่อพวกคุณในทางที่ไม่ดีอย่างแน่นอน..เอาล่ะตอนนี้ผมมีธุระที่ต้องไปทำเพราะงั้นผมขอรบกวนพวกคุณด้วย..เดี๋ยวผมกลับมาแล้วพวกคุณค่อยนำมันมาให้ผมก็แล้วกันและถ้ามีอะไรก็บอกเลขาของผมได้เธอชื่อเสี่ยวเทียนและเธอจะติดต่อมาหาผมทันที”
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็หยิบบุหรี่ออกมาแล้วส่งให้พวกเขาจากนั้นก็หันหลังกลับและเดินออกไป หลังจากขึ้นรถแล้วหลินเฟิงก็สตาร์ทรถและขับตรงไปที่บ้านของตระกูลจินทันที ซึ่งรถคันนี้คือรถซุปเปอร์คาร์ Lamborghini ที่เท่ดุดันอย่างมากและทำให้เย่เชียนแปลกใจอย่างมากเพราะเขาไม่ได้คาดหวังว่าหลินเฟิงจะขับรถคันนี้มาเพราะเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นพวกรถ Toyota หรือไม่ก็รถ SUV หรูๆ เท่านั้น
รปภ.เองก็แปลกใจพอๆ กันเพราะถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้จะรวยแต่ก็ไม่บ้าบิ่นพอที่จะซื้อรถระดับนี้ ซึ่งพวกเขาก็ชื่นชมเย่เชียนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนที่กล้าทำแบบนี้แล้วส่วนใหญ่จะต้องเป็นคนที่มีทุกอย่างและภูมิของครอบครัวจะต้องยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสดีๆ อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็รู้สึกว่าไม่น่าพลาดเพราะนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตก็ได้ เมื่อมองดูเย่เชียนออกไปแล้ว รปภ.ตัวสูงก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “เร็วเข้ารีบเขียนรายชื่อและระบุความสัมพันธ์ของแต่ละคนอย่างละเอียดกันเถอะเพราะนี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิตของพวกเราและถ้าเราทำได้ดีบางทีพวกเราอาจจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้..ว่าแต่นายคิดยังไง? ..ฉันน่ะตัดสินใจแล้วว่าจะติดตามท่านรองนายกเทศมนตรีเย่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป..พวกเราเองก็ทำงานอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วและไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนใจดีเหมือนท่านรองนายกเทศมนตรีเย่มาก่อนเลย..เขาน่ะมีความเป็นผู้นำเหมือนพวกมาเฟียเลยเพราะงั้นฉันจะติดตามเขาไปในอนาคต..ส่วนพวกนายก็รีบๆ ตัดสินใจกันซะ..แต่มีหนึ่งเรื่องที่ฉันต้องบอกก่อนว่าถ้าพวกนายไม่เต็มใจพวกนายก็ห้ามไปบอกใครว่ามันเกิดอะไรขึ้นในวันนี้เด็ดขาด..พวกเราเหมือนพี่น้องที่ทำงานด้วยกันมานานเพราะงั้นฉันไม่อยากที่จะขัดแย้งกับพวกนายเมื่อถึงเวลา”
“นี่หัวหน้าพูดแบบนี้ได้ยังไง..พวกเราจะต้องร่วมมือกันในอนาคต..อีกอย่างเราอยู่ด้วยกันมานานแล้วพวกเราจะไปทำแบบนั้นกันได้ยังไงล่ะหัวหน้า” รปภ.ที่เหลือพูดอย่างเห็นด้วย
“เอาล่ะ..ถ้างั้นก็มาทำสิ่งที่เราต้องทำกันเถอะ..นี่เป็นสิ่งแรกที่ท่านรองนายกเทศมนตรีเย่มอบหมายให้เราเพราะงั้นเราต้องทำมันให้มันดี!” รปภ.ตัวสูงพูดและแน่นอนเขาเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาแต่ไม่ใช่ผู้บริหารองค์กรแต่เป็นแค่หัวหน้าทีมเท่านั้นด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆ จึงทำตามคำสั่งของเขา
โดยธรรมชาติแล้วเย่เชียนไม่ทราบเรื่องทั้งหมดนี้แต่เนื่องจากเย่เชียนตัดสินใจที่จะพูดคุยกับพวกเขาแล้วแน่นอนว่าเย่เชียนจะต้องโน้มน้าวพวกเขาได้อย่างแน่นอน เย่เชียนนั้นเก่งในการใช้หลักจิตวิทยากับคนปกติทั่วไปที่ไม่ได้ที่สถานะในสังคมโดยใช้ปัญหาการถูกกดขี่ข่มเหงเพราะคนเหล่านี้จะมีความแค้นและความต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างแรงกล้าในใจของพวกเขา นอกจากนี้พวกเขาจะไม่ประจบประแจงได้อย่างไรเมื่อคนระดับรองนายกเทศมนตรียอมลดตัวลงมาพูดคุยและมอบโอกาสให้กับพวกเขา? นอกจากนี้หลินเฟิงยังขับรถคันดังกล่าวมารับเย่เชียนซึ่งทำให้พวกเขาตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
“พี่หลินพี่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดเลย..นี่มันจะโดดเด่นเกินไปแล้วพี่ก็รู้นี่ว่าผมเป็นรองนายกเทศมนตรีของเมืองเสิ่นหยางเพราะงั้นรถคันนี้มันอาจจะทำลายชื่อเสียงของผมก็ได้นะ” เย่เชียนหน้าบึ้งและพูด
หลินเฟิงก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ก็นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากได้รถหรูๆ ให้เหมาะกับตำแหน่งของนาย..เอาเถอะนี่คือรถที่ฉันยืมมาจากน้องชายของฉันเพราะฉันไม่มีรถหรูๆ แบบพวกนายหรอก..นอกจากนี้นายจะไปกลัวอะไรเพราะตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเป็นแค่ฉากบังหน้าเพราะงั้นนายจะไปกังวลทำไม” ”
“เอ่อ..ก็เพราะว่านี่เป็นการแสดงเพราะงั้นมันก็ต้องสมจริงไม่ใช่เหรอ? ..ไม่อย่างนั้นพวกตาเฒ่านั้นก็จะโทษผมที่เพิกเฉยต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลกันพอดี” เย่เชียนพูด
หลินเฟิงกลอกตาไปมาและขี้เกียจเกินกว่าจะถกเถียงประเด็นนี้กับเย่เชียนต่อไปไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีวันจบสิ้นเพราะเขารู้ว่าเย่เชียนชอบพูดหยอกล้อและทุกครั้งๆ ที่เขาเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญเย่เชียนก็มักจะพูดติดตลกเพื่อผ่อนคลาย ดังนั้นถ้าหากเขาจริงจังเกินไปล่ะก็มันจะไม่มีวันจบสิ้น
“นายดูสนุกมากเลยนะที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้น..นายดูไม่เหมือนรองนายกเทศมนตรีเลย” หลินเฟิงยิ้มแล้วพูด
“ผมไปสืบข่าวจากพวกเขาเพราะงั้นอย่าประเมินคนพวกนี้ต่ำไปเด็ดขาดเพราะพวกเขานี่แหละคือแหล่งข้อมูลสำคัญ” เย่เชียนพูด “พวกเขาอยู่ในรัฐสภาทุกวันเพราะงั้นมันจะต้องมีเรื่องซุบซิบกันมากมาย..เพราะงั้นมันก็ต้องมีข้อมูลสำคัญไม่มากก็น้อยบ้างแหละ”
“ดูเหมือนว่านายจะมีเลขาด้วยสินะ..ที่สำคัญคือเธอสวยมาก” หลินเฟิงพูด
เย่เชียนตกตะลึงอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็เหลือบมองหลินเฟิงด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “พี่หลินนี่ก็รู้ข่าวเร็วเหมือนกันนะ..หรือว่าพี่ชอบเธอ? ..ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะช่วยแนะนำให้ก็แล้วกัน”
“อย่า!..ฉันไม่ได้บอกว่าฉันชอบเธอ” หลินเฟิงพูด “ฉันหมายถึงตอนนี้นายเป็นหัวหน้าของเธอแล้วเพราะงั้นนายต้องการแหกกฎที่ไม่ได้ระบุเอาไว้งั้นเหรอ? ..ดูเหมือนว่ากฎนั้นจะเป็นที่นิยมในการแหกกฏมาก..เพราะเวลาทำงานในออฟฟิศในอนาคตตอนนายเบื่อๆ นายก็ได้มีอะไรทำค่าเวลา”
เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูดว่า “พี่หลินนี่ความคิดสกปรกเกินไปจริงๆ พี่คิดแบบนั้นได้ยังไง? ..โอ้พระเจ้าผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่หลินจะเป็นคนแบบนี้..พี่นี่เป็นคนลามกจริงๆ”
“แต่ฉันก็ไม่เหมือนนายสักหน่อย..นายมีผู้หญิงตั้งหลายคนแต่ฉันยังโสดอยู่” หลินเฟิงพูด
“เอาจริงนะพี่หลินทำไมพี่ถึงไม่เปิดใจล่ะ? ..ด้วยรูปลักษณ์และหน้าตาของพี่ผมคิดว่าสาวๆ น่าจะไล่ตามจีบพี่ไม่หยุดเลยล่ะ..ทำไมพี่ถึงอยากเป็นหนุ่มโสดอยู่แบบนี้ล่ะ?” เย่เชียนพูด


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน