ตอนที่ 1248 แกล้งหมูกินเสือ!
………………..
ไม่นานหลังจากนั้นชายหนุ่มก็ออกมาตามด้วยชายวัยกลางคนและหลังจากเห็นหลินเฟิงชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาหาเขาแล้วจับมือของหลินเฟิงพร้อมรอยยิ้มและพูดว่า “คุณหลินยินดีที่ได้พบครับ..เราไม่ได้เจอกันนานเลยสินะ..คุณหลินคงจะไม่ค่อยว่างใช่มั้ย?”
“ก็นะ..ผมเป็นคนขยันเพราะงั้นถ้าผมไม่ขยันล่ะก็ผมคงไม่มีเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องหรอก..ผมไม่ได้รวยเหมือนกับตระกูลจินหรอกนะ” หลินเฟิงยิ้มและพูดต่อ “ว่าแต่คุณเจิ้งรุ่นออกมาต้อนรับเองเลยเหรอครับ?”
เย่เชียนทำหน้าบึ้งเล็กน้อยเพราะอีกฝ่ายเพิกเฉยต่อการดำรงอยู่ของเขาโดยสิ้นเชิง “หืม..คุณไม่เห็นผมอยู่ที่นี่เหรอ? ..คุณคิดว่าผมเป็นใครกัน? ..ทำไมถึงยังไม่ต้อนรับผมอีก?” เย่เชียนพูด
จินเจิ้งรุ่นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและถอนหายใจอย่างเย็นชาแล้วหันกลับมาและพูดว่า “ผมขอเตือนอีกครั้งนะว่าตระกูลจินไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมาหยิ่งผยองได้”
“แล้วคุณเป็นใคร? ..เชื่อมั้ยว่าผมสามารถลากคุณเข้าคุกได้ทันที” เย่เชียนดูเหมือนลูกหลานผู้มีอิทธิพลที่หยิ่งผยอง ส่วนหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ้มและพูดว่า “คุณจินนี่คือคุณเย่เชียนรองนายกเทศมนตรีคนใหม่ของเมืองเสิ่นหยาง..ส่วนเขาคือจินเจิ้งรุ่ยน้องชายของจินเจิ้งผิงผู้นำตระกูลจิน”
จินเจิ้งรุ่ยมองไปที่เย่เชียนจากหัวจรดเท้าและยิ้มอย่างดูถูกแล้วพูดว่า “ก็แค่รองนายกเทศมนตรีตำแหน่งเล็กๆ เท่านั้นแหละ”
“แล้วคุณเข้าใจกฎหมายหรือเปล่าล่ะ? ..ถึงผมจะเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองเสิ่นหยางแต่ผมก็ถูกส่งมาจากรัฐบาลกลางโดยเฉพาะ” เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูดว่า “ประเทศนี้เป็นของรัฐบาลเพราะงั้นตระกูลจินต้องการจะก่อกบฏงั้นเหรอ? ..ถ้าพวกคุณทำอะไรที่มันกระทบต่อบ้านเมืองและประเทศล่ะก็ผมจะลากพวกคุณเข้าคุกให้หมด!”
“อย่าว่าแต่รองนายกเทศมนตรีเลยเพราะถึงแม้ว่าผู้ว่ามณฑลจะมาด้วยตัวเองเขาก็ไม่กล้าพูดกับผมแบบนั้นเลย” จินเจิ้งรุ่ยพูด “เพราะงั้นอย่ามาเย่อหยิ่งที่นี่..ตระกูลไม่ใช่ที่ที่ใครจะมาล้อเล่นด้วยได้..รีบๆ พูดมาซะว่าคุณมาที่ตระกูลจินทำไม..ถ้าไม่มีอะไรก็ออกไปจากที่นี่ซะ..ผมไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ”
“แล้วคุณมีสิทธิ์อะไร? ..ที่นี่ก็เป็นแค่บ้านของตระกูลจินเท่านั้นอีกอย่างคุณเองก็ไม่ใช่ผู้นำตระกูลจินสักหน่อย” เย่เชียนพูดต่อ “ครั้งนี้ผมมาเพราะเรื่องของภูเขาหิน..ซึ่งคณะกรรมการรัฐสภาได้ตกลงมอบหมายเรื่องทั้งหมดของภูเขาหินและสิทธิ์การขุดเจาะให้ผมแล้ว”
จินเจิ้งรุ่ยก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งและคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเพราะเรื่องนี้เป็นปัญหามาก ในเวลานี้ตระกูลจินกำลังมีปัญหากับตระกูลหยุนอยู่และเหตุผลนั้นก็คือสิทธิ์ในการขุดเจาะภูเขาหิน ดังนั้นการทำให้เย่เชียนขุ่นเคืองในเวลานี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ยิ่งไปกว่านั้นจินเจิ้งรุ่ยก็ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้จริงๆ และถ้าเขาปล่อยให้เรื่องนี้ผิดพลาดไปเขาจะถูกผู้อาวุโสตระกูลหยุนตำหนิอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และจะต้องถูกลงโทษอีกด้วย
“อะไรกัน..ไม่พอใจอย่างงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูดต่ออย่างเกรี้ยวกราด “ถ้าคุณเป็นผู้นำตระกูลจินจริงๆ ล่ะก็ตระกูลจินคงแย่แน่เพราะคุณโคตรจะไร้ความสามารถเลย..แค่คำเยินยอของหลินเฟิงเพียงนิดๆ หน่อยๆ คุณก็คิดว่าตัวเองมีอำนาจและยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เดิมทีจินเจิ้งรุ่ยก็คิดที่จะยอมใจเย็นลงแต่ทว่าเย่เชียนกลับหยิ่งผยองมากขึ้นซึ่งทำให้จินเจิ้งรุ่ยไม่สามารถยอมรับได้ แน่นอนว่าถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้นำตระกูลจินจริงๆ แต่เขาก็อยู่ในตำแหน่งที่เทียบเท่ากับผู้นำตระกูลจิน ดังนั้นการที่รองนายกเทศมนตรีตำแหน่งเล็กๆ มาหยิ่งผยองใส่เขาแบบนี้มีหรือเขาจะทนได้? “ผมไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่รัฐที่โง่เง่าอย่างคุณมาก่อนเลย..เชื่อมั้ยว่าผมสามารถทำให้คุณเก็บของกลับบ้านเกิดได้ด้วยการโทรศัพท์เพียงแค่ครั้งเดียว!..ตำแหน่งเล็กๆ แค่นี้จะไปทำอะไรได้?” จินเจิ้งรุ่ยพูดอย่างโกรธเกรี้ยวและเมื่อคำพูดจบลงลูกศิษย์สองคนที่ประตูทางเข้าก็เดินเข้ามาทีละคน
“พวกคุณจะทำอะไร? ..พวกคุณจะทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐงั้นเหรอ?” เย่เชียนก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วเสแสร้งตะโกนด้วยท่าทางที่ประหม่า
เมื่อเห็นการแสดงออกของเย่เชียนแล้วหลินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มแต่ไม่ได้พูด เพราะเนื่องจากเย่เชียนอยากที่จะสวมบทบาทเหล่านี้ดังนั้นหลินเฟิงจึงไม่คิดที่จะหยุดเขาและปล่อยให้เย่เชียนเล่นต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อจินเจิ้งรุ่ยเห็นการแสดงออกของเย่เชียนแล้วเขาก็ดูถูกเหยียดหยาม เดิมทีเขาดูถูกเย่เชียนและตอนนี้เขาดูถูกเย่เชียนมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นจินเจิ้งรุ่ยจึงโบกมือของเขาแล้วพูดว่า “พวกแกถอยออกไปซะ..พวกแกสองคนจะรุมเขาคนเดียวเนี่ยนะ..ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวฉันจัดการเอง?”
ทันทีที่คำพูดของจินเจิ้งรุ่ยจบลงเย่เชียนก็เริ่มลงมือทันทีและพุ่งออกไปเหมือนธนูจากคันศรพร้อมด้วยหมัดปาจี๋ที่ถูกเย่เชียนดัดแปลงกระแทกเข้ากับจินเจิ้งรุ่ยอย่างแรง ซึ่งหมัดนี้เป็นรูปแบบกำปั้นและนิ้วชี้จะถูกยื่นออกมาแล้วแทงเข้าไปที่ซี่โครงของจินเจิ้งรุ่ยจนจินเจิ้งรุ่ยกระเด็นออกไปราวกับสายลมในฤดูใบไม้ร่วงที่รุนแรง แน่นอนว่าจินเจิ้งรุ่ยก็ไม่มีเวลาตอบสนองต่อการโจมตีอย่างกะทันหันนี้และเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่ารองนายกเทศมนตรีจะมีทักษะระดับสูงถึงขนาดนี้ ในตอนนี้จินเจิ้งรุ่ยก็กระเด็นออกไปราวกับว่าวที่หักกลางอากาศ
แน่นอนว่าเหตุผลมันเป็นเพราะจินเจิ้งรุ่ยประเมินเย่เชียนต่ำเกินไปและเพราะการประเมินศัตรูของเขาต่ำเกินไปจึงทำให้เย่เชียนมีโอกาสโจมตีเขาอย่างง่ายดาย ซึ่งต่อให้เย่เชียนจะไม่เก่งถึงขนาดนี้ก็ตามแต่จินเจิ้งรุ่ยจะรู้ได้ยังไงว่าเย่เชียนจะโจมตีอย่างกะทันหันแบบนี้
เมื่อเห็นจินเจิ้งรุ่ยกระเด็นออกไปเย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “นี่คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน