ตอนที่ 1308 ลึกลับขึ้นเรื่อยๆ
………………..
โดยธรรมชาติแล้วหลินเฟิงก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเพราะดูเหมือนชายวัยกลางคนคนนี้จะรู้จักเย่เชียนเป็นอย่างดีดังนั้นหลินเฟิงจึงไม่พูดอะไรมากและถึงแม้ว่าเขาจะอยากรู้มากว่าชายวัยกลางคนคนนี้เป็นใครแต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้ถามและรู้สึกงุนงงอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นลูกน้องของเขายังไม่มีใครสังเกตเห็นจนกระทั่งชายวัยกลางคนมาถึงหน้าประตูฐานบัญชาการ ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องประหลาดใจกับตัวตนของชายวัยกลางคนคนนี้
เย่เฉียนและชายวัยกลางคนเดินเข้าไปในห้องและปิดประตู ส่วนหลินเฟิงก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อแอบฟังแต่อย่างใดและไปที่ห้องเพื่อตรวจสอบเพราะเขาต้องการรู้จริงๆว่าชายวัยกลางคนคนนี้มาถึงประตูฐานบัญชาการของเขาโดยไม่มีใครสังเกตเห็นได้อย่างไรและเมื่อดูกล้องวงจรปิดตลอดทางหลินเฟิงก็รู้สึกตะลึงอย่างมากเพราะตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เห็นร่างของชายวัยกลางคนเลยแต่ในช่วงเวลาสุดท้ายนั้นชายวัยกลางคนดูเหมือนจะปรากฏตัวขึ้นที่ประตูอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อเห็นแบบนั้นหลินเฟิงก็ขมวดคิ้วด้วยและอดไม่ได้ที่จะแอบคิดว่า ‘โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ใช่ศัตรูไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง’
ในห้องส่วนตัวเย่เชียนชงชาให้ชายวัยกลางคนและยื่นให้เขาจากนั้นก็นั่งลงตรงข้ามเขาและพูดว่า “ไม่เจอกันนานเลยคุณเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดี..ว่าแต่พลังปราณของคุณจะผสมรวมกันเป็นหนึ่งสำเร็จแล้วสินะ” ชายวัยกลางคนพูด “ผมมีความสุขจริงๆที่เห็นคุณก้าวหน้าแบบนี้..ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
“คุณชมผมเกินไปแล้ว” เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ยังไงก็เถอะผมไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไรจากผม?”
“จริงๆก็ไม่ได้จริงจรังอะไรผมแค่อยากจะมาหาคุณและคุยกับคุณแบบสบายๆและเตือนคุณเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง” ชายวัยกลางคนพูด “คุณคิดอย่างไรกับสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบันบ้าง?”
คำถามที่อธิบายไม่ได้ทำให้เย่เชียนตกตะลึงไปครู่หนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “คุณหมายความว่าไงครับ?..ผมไม่เข้าใจ”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ผมยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้จริงๆและมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมควรพิจารณาหรอกเพราะอันที่จริงมันไม่ได้สำคัญสำหรับผมว่าโลกจะดำเนินไปยังไง..ถ้าหากคุณจะถามผมล่ะก็ผมไม่มีความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับประเทศจีนหรอกแต่ผมบอกได้แค่สองสามอย่างเท่านั้น”
“หืม?..ถ้าอย่างนั้นบอกผมสิว่าคุณคิดยังไงกับประเทศจีน?” ชายวัยกลางคนถาม
“ว่าแต่เรากำลังพูดถึงเรื่องของรัฐหรือเปล่า?..มันคงจะเกินขอบเขตไปหน่อยนะครับ” เย่เชียนพูด “ผมคิดว่าตอนนี้จีนอ่อนแอเกินไปและมักจะถูกต่างประเทศยั่วยุอยู่เสมอแต่กลับไม่กล้าทำอะไรและไม่เคยทำอะไรอย่างจริงจังและถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปสถานะของจีนระดับนานาชาติจะค่อยๆสั่นคลอนและยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้ได้รับความได้เปรียบเหนือประเทศเล็กๆบางประเทศในฐานะพันธมิตรแล้วจีนก็ต้องบริจาคเงินเพื่อให้พวกเขาช่วยเหลือแต่สุดท้ายมันก็ไร้ค่าเพราะมันเหมือนกับการเลี้ยงหมาป่าตาขาวฝูงหนึ่งเท่านั้น..ในความคิดของผมประเทศจีนควรจะตอบโต้อย่างรุนแรงสักครั้งเพื่อแสดงศักดิ์ศรีของตัวเองออกมา..แต่ก็นั่นแหละผมไม่เข้าใจเรื่องของการเมืองและผมก็ไม่ได้คิดอย่างรอบด้าน..ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้พวกเขาก็กังวลกับปัญหาทางเศรษฐกิจมากกว่า”
“แล้วเศรษฐกิจของจีนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?..ตอนนี้รายได้รวมของประเทศจีนก็ค่อนข้างสูงแต่ประชาชนจำนวนมากยังไม่มีที่อยู่อาศัยกันซึ่งทำให้ภาระของประเทศจีนหนักขึ้นเรื่อยๆ..ซึ่งบางคนแต่งงานกับภรรยาไม่ได้เพราะไม่มีบ้านและไม่มีญาติพี่น้องเลยด้วยซ้ำจนหลายๆคนหันหลังชนกันแบบนี้มันเรียกว่าปัญหาเศรษฐกิจหรือเปล่า?” ชายวัยกลางคนพูด
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “มีบางสิ่งที่ต้องพิจารณาอยู่แต่โดยทั่วไปแล้วการพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นดีและนอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือกลุ่มหรือไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตามเมื่อมันพัฒนาไปสู่จุดหนึ่งทุกๆที่ก็มักจะเกิดคอขวดความไม่สมดุลและตราบใดที่มันสามารถผ่านคอขวดนี้ไปได้อนาคตก็จะดีขึ้น..ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวทางปัจจุบันของรัฐบาลแต่ผมก็ไม่สามารถปฏิเสธความพยายามบางอย่างของพวกเขาได้และบางครั้งผมก็โกรธมากและต้องการเอาชนะใครก็ตามที่ฉันต้องการแต่บางครั้งสิ่งต่างๆก็ไม่ง่ายอย่างนั้นและผมก็ขี้เกียจเกินไปที่จะยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้และผมก็ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงเรื่องเหล่านี้ได้”
“ผมยอมรับว่าเศรษฐกิจปัจจุบันดีขึ้นกว่าเดิมในระดับหนึ่งแต่สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนกลับแย่กว่าเดิมและยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่แค่สึนามิหรือแผ่นดินไหวและวิกฤตการณ์ทางการเงินเท่านั้นที่ปะทุขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้..ซึ่งคุณคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้คืออะไร?” ชายวัยกลางคนถาม
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่าเขารู้สึกว่าวันนี้ชายวัยกลางคนแตกต่างจากตอนนั้นเล็กน้อยและน้ำเสียงของเขาก็ให้ความรู้สึกกดดันอย่างมาก จากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มและพูดว่า “คำถามที่ลึกซึ้งแบบนี้ผมคิดไม่ออกจริงๆครับ”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะบอกให้ว่าวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหานี้คือสงครามและต้องเป็นสงครามเต็มรูปแบบเท่านั้น..เราต้องทำให้ผู้คนกลัวตายและดึงปมด้อยของพวกเขาออกมาทีละน้อยแล้วโลกจะถึงคราวสงบสุขอย่างแท้จริง” ชายวัยกลางคนพูดต่อ “ยิ่งไปกว่านั้นสงครามนี้มันต้องใหญ่พอที่จะทำให้ทุกๆประเทศมีส่วนร่วมเพราะด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถบรรลุประเทศชาติแบบในอุดมคติได้อย่างแท้จริง”
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัวและพูดว่า “นี่มันน่ากลัวมาก..แบบนั้นจะมีคนตายในสงครามกี่คนกันและสุดท้ายแล้วผมเกรงว่าเราจะไม่ได้รับความสงบสุขอย่างที่คุณพูดถึงและจะเพิ่มความเกลียดชังระหว่างชาติระหว่างมนุษย์ต่างเชื้อชาติก็เป็นได้”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน