ตอนที่ 1337 การหลอกลวงเพื่อพิสูจน์ใจ
………………..
เป็นเพราะจินเจิ้งผิงกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อนในขณะนี้และเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจินถิงซานจะทำแบบนี้จริงๆ
เรื่องนี้ได้พัฒนามาถึงจุดนี้แล้วและจินถิงซานก็ไม่คาดหวังอะไรอีกนอกเสียจากหวังให้ตระกูลอยู่รอดและถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิกเฉยต่อกันและกันแต่อย่างน้อยๆพวกเขาก็สามารถพบหน้ากันได้อยู่ ที่สำคัญที่สุดเขาไม่ต้องการเห็นรากฐานอายุนับศตวรรษของตระกูลจินถูกทำลายไปและเขาก็รู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่ยอมในวันนี้มันจะไม่มีใครสามารถปกป้องตระกูลจินได้อีกและไม่ว่าอุตสาหกรรมในปัจจุบันของตระกูลจินจะใหญ่แค่ไหนหรือมีอำนาจเพียงใดก็ไม่มีทางที่จะต่อกรกับประเทศทั้งประเทศและรัฐบาลได้
ตระกูลจินจะแข็งแกร่งถึงขนาดเผชิญหน้ากับประเทศทั้งประเทศได้เลยงั้นเหรอ? ซึ่งถึงแม้ว่าตระกูลจินจะเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณที่มีลูกศิษย์และสาวกจำนวนมากแต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการบดขยี้ของกองทัพที่แข็งแกร่งนับล้านได้ใช่ไหม? นี่คือความจริง
เมื่อสิ่งต่างๆสิ้นสุดลงจินเหว่ยห่าวก็ยังคงลังเลเล็กน้อยที่จะเป็นผู้นำตระกูลจินแต่เขารู้อยู่แกใจว่าถ้าเขาไม่รับตำแหน่งนี้ตระกูลจินก็จะถูกทำลายและเหตุผลที่แม่ของเขาเลือกที่จะยอมในตอนนั้นเพราะเธอต้องการให้จินเจิ้งผิงรักษาตระกูลจินเอาไว้และนี่ก็ถือได้ว่าเป็นความปรารถนาสุดท้ายของแม่
แน่นอนว่าจินถิงซานยังรักษาสัญญาที่ให้เอาไว้และกลับไปอาศัยอยู่ในลานบ้านพักของเขาและไม่เคยแทรกแซงเรื่องของตระกูลจินอีกเลย ส่วนจินเจิ้งผิงในตอนนี้ก็ถูกกักบริเวณเอาไว้ในลานบ้านไม่ไกลจากจินถิงซานมากนักและเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมายุ่งวุ่นวายกับโลกภายนอกอีก ซึ่งตลอดทั้งวันจินถิงซานก็ได้ยินเสียงตะโกนและสาปแช่งของจินเจิ้งผิงจากบ้านข้างๆอยู่เป็นประจำ
ช่วงนี้จินเหว่ยห่าวก็เริ่มแก้ไขข้อผิดบกพร่องของตระกูลจินและค่อยๆทำให้ตระกูลจินเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของจินเจิ้งผิงในทุกๆวันเขาก็อดไม่ได้ที่จะระงับความคิดที่จะไปหาและพูดคุยกับจินเจิ้งผิงเพราะถ้าหากลองคิดดูให้ดีแล้วเขาควรจะขังจินเจิ้งผิงเอาไว้ก่อนในตอนนี้เพราะถ้าหากจินเหว่ยห่าวปล่อยจินเจิ้งผิงออกมาเขาอาจจะสร้างปัญหาอีกครั้งอย่างแน่นอน
ณ ฐานบัญชาการขององค์กรเซเว่นคิลนั้น เย่เชียน,หวงฟู่ชิงเตี๋ยนและหลินเฟิงนั่งคุยกันและมีถ้วยน้ำชาอยู่บนโต๊ะชาตรงหน้าเขาและกำลังร้อนระอุ จากนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “เรื่องนี้ได้รับการแก้ไขแล้วและเอ็งจะทำยังไงต่อ?”
“แก้ไขแล้วงั้นเหรอ?..ไม่หรอกมันยังเร็วเกินไป” เย่เชียนพูด “ถึงแม้ว่าเราจะเข้ายึดเขตบ้านพักของตระกูลหยุนได้แล้วแต่มันก็ยังมีพวกเลวทรามของตระกูลหยุนเหลืออยู่และคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหยุนก็ยังมีอีกมากเพราะงั้นพวกมันจะต้องถูกจัดการทีละคนเพราะผมไม่อยากให้ใครมาสร้างปัญหาให้ผมอีกในอนาคต..เราต้องถอนรากถอนโคนให้หมดและผมก็ไม่อยากที่จะเสียเวลาอีก”
“เอ็งกลัวงั้นเหรอ?..ต่อให้มีอีกสิบมือก็นับศัตรูของเอ็งไม่หมดหรอก” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
“ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ผมก็ไม่อยากที่จะสร้างศัตรูเพิ่มหรอกนะ..อีกอย่างศัตรูก็เดินเข้ามาหาผมเองทั้งๆที่ผมอยู่เฉยๆ” เย่เชียนพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็หันไปมองหลินเฟิงและพูดว่า “พี่หลินผมคิดว่าคงจะดีกว่าถ้าพี่คอยดูแลจัดการอุตสาหกรรมและทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหยุนเพราะพี่หลินอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมานานแล้วและพี่ก็คุ้นเคยกับสถานการณ์ที่นี้ดีเพราะงั้นถ้าคนที่เหลืออยู่ในตระกูลจินต้องการมาล้างแค้นล่ะก็พวกเขาก็ได้จะตามล่าพี่หลินแทนผมยังไงล่ะฮ่าๆ”
แน่นอนว่าประโยคสุดท้ายนั้นเย่เชียนแค่ล้อเล่นเพราะคนอย่างเขาจะกลัวการแก้แค้นของคนอื่นอย่างงั้นเหรอ? เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฟิงก็จ้องมองเย่เชียนด้วยใบหน้าที่ขมขื่นแล้วพูดว่า “นายคิดว่าถ้าทำแบบนั้นจริงๆสิ่งที่นายการทำมาทั้งหมดจะไม่สูญเปล่าเหรอ?..มันไม่คุ้มเลยที่นายจะให้สิ่งเหล่านั้นกับฉันทั้งๆที่นายพยายามทำถึงขนาดนี้”
“มันก็ไม่แตกต่างอะไรกันหรอกเพราะอะไรที่เป็นของพี่หลินก็เหมือนของผมและอะไรที่เป็นของผมก็เป็นของพี่หลินด้วย” เย่เชียนพูด “มันเป็นไปได้ไหมล่ะที่พี่จะไม่เข้ามาแทรกแซงถ้าผมกำลังเผชิญกับอันตรายในอนาคต” เย่เชียนพูดอย่างเคร่งขรึม “เอาจริงๆนะพี่หลินธุรกิจนักฆ่าน่ะมันอยู่ได้ไม่นานหรอกและมันก็อันตรายมากเกินไป..ถ้าพี่หลินไม่ได้นึกถึงตัวเองก็ต้องนึกถึงคนที่รักและพี่น้องด้วยใช่ไหมล่ะ?..ซึ่งตอนนี้ผมน่ะค่อยๆย้ายและแปรรูปอุตสาหกรรมให้มันมั่นคงเรื่อยๆเพราะธุรกิจของเขี้ยวหมาป่าและธุรกิจของทหารรับจ้างน่ะมันไม่สามารถทำได้ตลอดและมันก็อันตรายเกินไป”
“ฉันก็เข้าใจความจริงข้อนี้เหมือนกัน” หลินเฟิงพูด “แต่นายมีความทะเยอทะยานสูงส่วนฉันแค่ต้องการทำมาหากินไปเรื่อยๆน่ะฮ่าๆ..แต่ว่านะเนื่องจากนายต้องการให้ฉันดูแลอุตสหกรรมเหล่านี้ฉันก็จะไม่ปฏิเสธแต่นายต้องเตรียมใจเอาไว้ด้วยเพราะฉันอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าที่คิดและเมื่อถึงเวลานั้นนายก็อย่าโกรธเคืองฉันล่ะ”
“อย่าพูดแบบนี้เลยเพราะผมรู้ความสามารถของพี่หลินดีและเรื่องแค่นี้ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆสำหรับพี่หลินเท่านั้น” เย่เชียนพูด “นอกจากนี้พี่ก็ต้องรีบเข้าหาพี่หลัวอวี้ล่ะเพราะเธอจะได้ช่วยพี่หลินดูแลจัดการสิ่งต่างๆและเป็นแม่บ้านที่ดี”
“เออนั่นสิ.!.ว่าแต่เราจะเริ่มแผนการที่นายพูดถึงเมื่อไหร่กันดี?” หลินเฟิงเริ่มสนใจทันทีเมื่อเรื่องนี้ถูกพูดถึง
“ตอนนี้เลยสิ!” เย่เชียนฉีกยิ้มและพูดว่า “เร็วเข้าเอาโทรศัพท์มือถือของพี่มาให้ผมเดี๋ยวผมจะโทรหาเธอตอนนี้แหละ”
“นายรีบเกินไปหรือเปล่า?” หลินเฟิงเริ่มกังวลเล็กน้อย
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนรู้สึกสับสนและไม่สามารถเข้าใจได้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรกันแน่และถึงแม้ว่าอยากถามแต่ก็ไม่รู้ว่าจะถามยังไงดีเขาเลยอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “เอาน่ะมันใช่เวลามากลัวเรื่องนี้ไหม!..พี่อย่าเพิ่งพูดอะไรล่ะ” เย่เชียนคว้าโทรศัพท์จากมือของหลินเฟิงและกดไปที่เบอร์ติดต่อของหลัวอวี้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน