ตอนที่ 1349 ความสอดคล้อง
………………..
คนที่สูญเสียความรักในครอบครัวตั้งแต่เด็กกลับให้ความสำคัญกับความรักในครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อโตขึ้นนั้นสำหรับเย่เชียนแล้วญาติพี่น้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากและเขาก็ไม่ต้องการที่จะเห็นญาติพี่น้องของเขาเป็นศัตรูกันเอง ในสังคมสมัยนี้ถึง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถหยุดสิ่งนี้ได้แต่เขาก็หวังว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เช่นกัน
เมื่อเข้าไปในบ้านถังจิงหนานก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วเขาดูเหมือนผู้เฒ่าจากยุคโบราณมาก ซึ่งเย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวก็รีบเข้าไปทำความเคารพจากนั้นจึงมอบของขวัญที่พวกเขานำมาด้วย ซึ่งถังจิงหนานก็สั่งให้ลูกศิษย์ไปรับของและมองไปที่ถังเฉียงและพูดว่า “แกไม่มีธุระอะไรที่นี่เพราะงั้นไปทำสิ่งที่แกต้องทำเถอะ!”
ร่องรอยของความโศกเศร้าฉายแววในดวงตาของถังเฉียงทันทีเพราะถังฮงสามารถนั่งที่นี่ได้ทำไมเขาถึงอยู่ไม่ได้? สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเศร้าอย่างมากและอาจเป็นเพราะเขาทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเขาก็ไม่มีโอกาสลุกขึ้นยืนอีกเลยใช่ไหม? ถังเฉียงที่รู้สึกประทับใจกับคำพูดของเย่เชียนในตอนนี้ก็รู้สึกไม่เต็มใจอีกครั้งในใจของเขา
จากนั้นถังเฉียงก็หันหลังกลับและกำลังจะจากไปแต่เย่เชียนที่อยู่ด้านข้างก็เข้าใจความรู้สึกของถังเฉียงเป็นอย่างดีดังนั้นเย่เชียนจึงเอื้อมมือออกไปเพื่อหยุดถังเฉียงเอาไว้จากนั้นก็มองไปที่ถังจิงหนานแล้วพูดว่า “คุณปู่ครับนี่เป็นการพูดคุยกันภายในครอบครัวเพราะงั้นถ้าลุงเฉียงไม่อยู่ที่นี่ก็คงจะไม่ใช่การคุยแบบครอบครัวหรอกครับ..ถ้าหากลุงเฉียงมีธุระที่ต้องทำก็พักเอาไว้สก่อนแล้วค่อยไปทำทีหลังก็ได้..นานๆทีผมจะมาที่นี่เพราะงั้นผมก็อยากคุยกับทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้จริงๆ..ไม่อย่างนั้นแม่ของผมคงจะตำหนิผมแย่เลย”
เย่เชียนตั้งใจพูดแบบสบายๆและมีน้ำเสียงขี้เล่นเล็กน้อยและจุดประสงค์ก็เพื่อทำให้บรรยากาศไม่ตรึงเครียดนั่นเอง อย่างไรก็ตามถังฮงดูเหมือนจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวเชียนอย่าไปรบกวนลุงเฉียงเลยเพราะเขายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ..คราวนี้เอ็งก็มาพักที่นี่สักสองสามวันสิแล้วเอาไว้ค่อยคุยกับเขาทีหลัง”
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ถ้าลุงเฉียงดูยุ่งมากเลยนะครับเพราะงั้นทำไมลุงฮงถึงไม่ไปช่วยลุงเฉียงล่ะครับ..ผมคิดว่าพี่น้องควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพราะด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้สำนักถังสามารถพัฒนาไปได้อย่างดี..ผมอยากจะบอกว่าในทุกวันนี้แทนที่จะสนับสนุนความสามารถของแต่ละคนเพื่อเลือกว่าใครควรทำอะไรนั้นผมคิดว่าการทำงานเป็นทีมนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าเพราะถ้าหากปราศจากความช่วยเหลือจากเพื่อนและพี่น้องล่ะก็เราคงไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จไปตลอดหรอกครับ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นถังฮงถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและใบหน้าของเขาก็ขมขื่นเล็กน้อยและแน่นอนว่าเขาสามารถรู้ถึงความหมายของคำพูดของเย่เชียนได้ อย่างไรก็ตามเขาก็รู้จักตัวตนของเย่เชียนเป็นอย่างดีดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมากเกินไปเพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนอาจถูกมองว่าเป็นคนนอกของสำนักถังจริงๆแต่ถ้าหากเย่เชียนต้องการเข้ามาดูแลจัดการสำนักถังจริงๆเขาก็เชื่อว่าถังจิงหนานจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าถังจิงหนานนั้นเชื่อฟังสิ่งที่เย่เชียนพูดหลายๆอย่างดังนั้นการทำให้เย่เชียนขุ่นเคืองในเวลานี้จึงไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
ถังจิงหนานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “เสี่ยวเฉียงนั่งลงก่อนเถอะ..มันยังไม่สายเกินไปที่จะทำสิ่งต่างๆในภายหลังเพราะเสี่ยวเชียนอุตส่ากลับมาที่นี่ทั้งทีเพราะงั้นเราก็มาคุยกันให้พร้อมหน้าพร้อมตาถึงจะดีที่สุด..เรามารวมกันให้เป็นครอบครัวกันเถอะ” จากนั้นเขาก็สั่งลูกศิษย์ว่า “ไปบอกพ่อครัวแม่ครัวว่าให้ทำอาหารเพิ่มในตอนเที่ยงด้วยและจัดสำรับพิเศษมาเลยเข้าใจไหม?”
ลูกศิษย์ตอบแล้วรีบเดินออกไป “พวกเอ็งก็มานั่งลงก่อนสิ!” ถังจิงหนานชำเลืองมองเย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวและพูดว่า “ทุกคนคือครอบครัวเพราะงั้นไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนั้นหรอก”
หลังจากพูดจบก็มีหญิงสาววิ่งเข้ามา “พี่ห่าวอยู่ที่ไหน..ไหนใครบอกว่าพี่ห่าวกลับมาแล้ว!” หญิงสาวถามอย่างกระวนกระวายใจทันทีที่เธอเข้าประตูมาและเธอก็มองไปรอบๆและเมื่อเธอพบจินเหว่ยห่าวเธอก็หยุดและกระโดดไปกอดเขาทันที ซึ่งนี่คืออารมณ์แบบสาวๆเมื่อพวกเธอมีความรักและพลัดพรากจากคนรักมานานแล้วจะไม่ให้เธอคิดถึงได้อย่างไร? การได้เห็นจินเหว่ยห่าวในตอนนี้ดูเหมือนเธอกับเขาเข้าไปอยู่กันในอีกโลกหนึ่ง
จากนั้นจินเหว่ยห่าวก็รีบยืนขึ้นแล้วอ้าแขนออกแล้วกอดหญิงสาวในอ้อมแขนของเขา “ฉันขอโทษซินเอ๋อร์พอดีฉันติดธุระและไม่มีเวลากลับมาเลย..ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องกังวลนะ” จินเหว่ยห่าวกล่าวขอโทษ เขาไม่รู้ว่าเขามองเธอเป็นตัวแทนของคนรักคนก่อนสองคนของเขาหรือเปล่าแต่เขารู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอและรักเธอจริงๆและคงไม่สมจริงนักหากจะบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอเป็นตัวแทนแต่อย่างใดและจินเหว่ยห่าวก็เชื่อว่าเขาจะค่อยๆเข้ามาแทนที่ในหัวใจของเขาได้
ถังยู่ซินก็ส่ายหัวของเธอและพูดว่า “ไม่..ขอแค่พี่ห่าวกลับมาฉันก็ดีใจแล้ว..ต่อให้จะต้องรอนานเท่าไหร่ฉันก็จะรอ”
เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นและเขาก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “นี่ๆเธอหยุดทำตัวน่าเกลียดแบบนี้ได้ไหม..ฉันขนลุกไปทั้งตัวแล้ว..ที่นี่มีผู้หลักผู้ใหญ่มากมายเพราะงั้นเธอช่วยเก็บอาการก่อนจะได้ไหม?”
“อะไรกันคุณลูกพี่ลูกน้องนี่พี่เย่อิจฉาฉันเหรอ?” ถังยู่ซินเม้มปากแล้วพูดว่า “ยังไงก็เถอะฉันได้ยินมาว่าพี่เย่เป็นคนเจ้าชู้และมีสาวๆมากมายตามติดเพราะงั้นพี่ก็น่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆไม่ใช่เหรอ?”
เย่เชียนก็ยิ้มเจื่อนๆแล้วพูดว่า “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะแต่ฉันไม่ใช่คนเจ้าชู้..นั่นเขาเรียกว่าความรักอันยิ่งใหญ่ต่างหากเข้าใจไหม?”
“เอาล่ะๆซินเอ๋อร์หยุดโวยวายได้แล้วมานั่งข้างๆพ่อมา..คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะเพราะลูกป็นผู้หญิงลูกไม่กลัวที่จะถูกหัวเราะเยาะเอาเหรอ?” ถังฮงพูดและเป็นห่วงในแบบพ่อที่รักลูก


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน