ตอนที่ 1351 ดาบชุนเล่ย
………………..
ในห้องโถงอาหารทุกคนก็นั่งลงทีละคนและภรรยาของถังฮงก็มาด้วยเพราะมันเป็นงานเลี้ยงของครอบครัว แต่ทว่าภรรยาของถังเฉียงอยู่ในห้องโถงสักการะบรรพบุรุษของตระกูลถังเพราะลูกชายของเธอเสียชีวิตไปเธอจึงไม่ค่อยได้ออกมาดังนั้นเธอจึงไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งถังจิงหนานก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆและเขาก็บอกให้ทุกคนเริ่มรับประทานอาหารกัน
ที่โต๊ะอาหารทุกคนก็กินอาหารกันไปอย่างราบรื่นแต่โอ่วหยางหมิงซวนคอยๆจับจ้องไปที่จินเหว่ยห่าวและเหลือบมองถังยู่ซินเป็นครั้งคราวและถึงแม้ว่าเขาจะไม่รังเกียจว่าภรรยาของเขาจะสวยหรือน่าเกลียดแต่สิ่งสำคัญคือเธอต้องสามารถช่วยเขาในหน้าที่การงานได้แต่ถ้าเขาสามารถแต่งงานกับภรรยาที่สวยงามได้มันก็ย่อมดีกว่าเป็นธรรมดาใช่ไหม นอกจากนี้เขายังเห็นความผิดปกติบางอย่างด้วยเพราะถังยู่ซินคนนี้หน้าตาคล้ายกับแฟนสาวของจินเหว่ยห่าวคนนั้นมาก
เห็นได้ชัดว่าถังยู่ซินสังเกตเห็นดวงตาของโอ่วหยางหมิงซวนจ้องมองเธอ ดังนั้นเธอจึงมองเขาด้วยความโกรธและทำสีหน้าไม่สบอารมณ์และถึงแม้ว่านี่จะเป็นการแสดงออกที่ดูถูกเหยียดหยามของถังยู่ซินก็ตามแต่สำหรับโอ่วหยางหมิงซวนแล้วเขากลับมองว่าเธอน่ารักมากและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวกับเธอ
ตั้งแต่เด็กจนโตโอ่วหยางหมิงซวนไม่เคยแพ้ใครไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามและในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตระกูลโอ่วหยางก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วภายใต้มือของเขาเองซึ่งจะทำให้โอ่วหยางหมิงซวนพึงพอใจและหยิ่งผยองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้และสูญเสียได้อย่างไร?
เย่เชียนก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้และหันไปมองที่จินเหว่ยห่าวแต่โชคดีที่จินเหว่ยห่าวดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองมากนักและเย่เชียนก็รู้สึกโล่งใจมาก
“อาจารย์ถังผมถือวิสาสะมาหาอาจารย์ถังอย่างกะทันหันแบบนี้ผมต้องขอโทษด้วยครับแต่คุณปู่ของผมก็ฝากขวัญมาให้ด้วยครับซึ่งผมหวังว่าอาจารย์ถังจะรับเอาไว้” โอ่วหยางหมิงซวนพูดจบแล้วยื่นมือออกไปจากนั้นลูกศิษย์ของตระกูลโอ่วหยางที่อยู่ข้างหลังก็รีบยกกล่องศาสตราวุธออกมาจากด้านหลังแล้วมอบให้ จากนั้นโอ่วหยางหมิงซวนก็พูดต่อ “ผมไม่รู้ว่าอาจารย์ถังชอบอะไรเพราะงั้นผมจึงไม่รู้ว่าอาจารย์ถังจะชอบมันหรือเปล่าแต่นี่เป็นความตั้งใจของปู่ของผมครับผมหวังว่าอาจารย์ถังจะชอบมัน”
ในขณะที่พูดลูกศิษย์ของตระกูลจินก็เปิดกล่องและเห็นดาบที่คมกริบอยู่ข้างในพร้อมกับแสงที่สว่างไสวและดวงตาของทุกคนก็เป็นประกายทันทีและถังจิงหนานก็ตกตะลึงไปชั่วขณะและเขาก็ชมเชยว่า “นี่เป็นดาบที่ดีจริงๆ..ซึ่งมันถูกขนานนามว่าเป็นดาบร้อยยุทธภพ”
“นี่เป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆและผมหวังว่าอาจารย์ถังจะชอบมัน” โอ่วหยางหมิงซวนพูด “ชื่อของดาบนี้คือชุนเล่ยและต่อให้มันจะวางอยู่เฉยๆมันก็สามารถตัดผ่านเส้นผมได้ถ้าหากไปสัมผัสมัน..ซึ่งใบดาบนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างสมบูรณ์แบบและไม่เคยมีแม้แต่รอยขีดข่วน..ในบรรดาดาบของตระกูลโอ่วหยางของผมดาบนี้ถือได้ว่าเป็นศาสตราวุธที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งและผมก็หวังว่าอาจารย์ถังจะชอบมัน”
ถังจิงหนานก็เข้าใจความหมายของสิ่งที่เรียกว่าการประจบสอพลอดีและโดยธรรมชาติถ้าหากเขารับดาบเล่มนี้ไปเขาก็คงละอายใจที่จะปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงานของโอ่วหยางหมิงซวนกับถังยู่ซิน
“นี้ดาบเป็นดาบที่ดีและฉันก็ฝากขอบคุณอาจารย์โอ่วหยางอู๋เต๋อด้วยสำหรับความกรุณาแต่ฉันไม่สามารถรับของขวัญชิ้นนี้ได้หรอก” ถังจิงหนานพูด “ถึงแม้ว่าดาบจะเป็นดาบที่ดีแต่ก็น่าเสียดายที่สำหรับฉันแล้วในฐานะเจ้าสำนักถังมันก็ไร้ประโยชน์เพราะดาบที่มีชื่อเสียงเล่มนี้คู่ควรกับปรมาจารย์เพลงดาบเพราะงั้นฉันคิดว่าดาบนี้ควรอยู่ในตระกูลโอ่วหยางต่อไปเพื่อแสดงศักกายภาพของดายได้ดีที่สุดเพราะงั้นถ้ายังอยู่ในสำนักถังต่อไปล่ะก็มันจะเสียเปล่า”
โอ่วหยางหมิงซวนก็ตกตะลึงเล็กน้อยอยู่ครู่หนึ่งเพราะนี่เป็นหนึ่งในสุดยอดเก้าดาบประจำตระกูลโอ่วหยาง ซึ่งครั้งนี้เพื่อให้มาสู่ขอแต่งงานได้สำเร็จเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะนำมันออกมาแต่ตอนนี้เขากลับถูกปฏิเสธโดยถังจิงหนานซึ่งทำให้โอ่วหยางหมิงซวนไม่พอใจอย่างมากแต่ภายนอกกลับไม่มีอาการใดๆและหลังจากทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อยมานานโอ่วหยางหมิงซวนก็เสแสร้งแกล้งทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ “อาจารย์ถังอย่าพูดแบบนั้นเลยครับเพราะถึงแม้ว่าสำนักถังจะไม่โดดเด่นเรื่องเพลงดาบแต่นี่ก็เป็นความตั้งใจของคุณปู่เพราะงั้นผมหวังว่าอาจารย์ถังจะไม่ปฏิเสธไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้จะไปอธิบายกับคุณปู่ยังไง..ผมอาจจะถูกคุณปู่ตำหนิอย่างแน่นอน” โอ่วหยางหมิงซวนพูด
ถังจิงหนานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันไม่สามารถรับดาบเล่มนี้ได้หรอกเพราะฉันจะไม่รับของขวัญที่มีค่าขนาดนี้เด็ดขาด..ฉันเข้าใจว่านายน้อยโอ่วหยางรู้สึกยังไงแต่นี่เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของถังฮง..แต่เนื่องจากถังฮงสัญญากับนายน้อยโอ่วหยางเอาไว้แบบนั้นฉันก็จะอธิบายให้เข้าใจว่าฉันก็เพิ่งจะได้ยินเรื่องนี้จากเขาเมื่อไม่นานมานี้เอง” หลังจากหยุดไปชั่วขณะถังจิงหนานก็พูดต่อ “ฉันมีหลานสาวเพียงคนเดียวและฉันก็ขอบคุณมากสำหรับความรักที่นายน้อยโอ่วหยางมีต่อหลานสาวของฉันเพราะงั้นเนื่องจากนายน้อยและอาจารย์จินต้องการที่จะแต่งงานกับหลานสาวของฉันเหมือนกันเพราะงั้นทั้งสองคนก็ต้องแข่งขันกันอย่างยุติธรรมและถ้าใครชนะฉันก็จะยกซินเอ๋อร์ให้คนนั้น!”
ถังจิงหนานค่อนข้างหยิ่งทนงในศักดิ์ศรีและเขาก็มีหลักการในการตัดสินใจเสมอและเขาไม่เต็มใจที่จะผิดสัญญา ดังนั้นถึงแม้ว่าถังฮงจะตัดสินใจเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวแล้วแต่ถังฮงก็ยังเป็นสมาชิกของสำนักถังและการกระทำของเขาก็ไม่มีผิดหรือถูกแต่สิ่งที่เขาทำนั้นถือว่ามีเป็นการฝ่าฝืนกฏของสำนักและตระกูลถังมากที่ไม่ปรึกษาคนอื่นก่อน
เย่เชียนขมวดคิ้วเพราะฝีมือการต่อสู้ของจินเหว่ยห่าวนั้นด้อยกว่าโอ่วหยางหมิงซวนและเกรงว่าจินเหว่ยห่าวจะแพ้ในการประลองศิลปะการต่อสู้เพื่อคัดเลือกผู้เหมาะสม อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่สนใจเพราะเขาได้วางแผนกวาดล้างตระกูลโอ่วหยางเอาไว้แล้วและถึงแม้ว่าโอ่วหยางหมิงซวนจะชนะแต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้แต่งงานกับถังยู่ซินอยู่ดี
ถังยู่ซินไม่เต็มใจเพราะไม่ว่าจินเหว่ยห่าวจะชนะได้หรือไม่แต่เธอก็ไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับโอ่วหยางหมิงซวนอยู่ดี “คุณปู่จะเป็นคนตัดสินใจเรื่องชีวิตคู่ของหนูได้ยังไง..หนูไม่สนใจและหนูจะไม่แต่งงานกับเขาเด็ดขาด” ถังยู่ซินพูดในขณะที่จ้องมองไปที่โอ่วหยางหมิงซวน แต่ดูเหมือนโอ่วหยางหมิงซวนจะไม่โกรธเพราะคำพูดของถังยู่ซินเพราะแท้จริงแล้วสำหรับเขาผู้หญิงมักจะไม่สนใจเหตุและผลแต่เมื่อพวกเขาได้แต่งงานกันเวลาจะลบล้างทุกสิ่งและยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแก่เฒ่าไปพร้อมกับเธอด้วยความรักแต่อย่างใด
ถังจิงหนานขมวดคิ้วเล็กน้อยและสูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชาและพูดว่า “เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเธอที่จะตัดสินใจและทุกอย่างควรทำตามที่ฉันพูดเท่านั้น” จากนั้นเขาก็หันไปมองโอ่วหยางหมิงซวนกับจินเหว่ยห่าวแล้วพูดว่า “แล้วทั้วสองคนล่ะคิดว่าไงกับเรื่องนี้?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน