แจ็คได้ทำการจัดซื้อจัดอุปกรณ์ออกกำลังกายจำนวนมากมาไว้ที่ห้องฝึกปฏิบัติการและห้องฟิตเนสในร่ม เหตุผลประการหนึ่งคือเพื่อเอาไว้ใช้ในการฝึกอบรม แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรภายในให้สามารถใช้อุปกรณ์ในช่วงเวลาว่างเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายตัวเองมากขึ้น ซึ่งห้องฝึกปฏิบัติการของที่นี่นั้นมีขนาดกว้างประมาณ 100 ตารางเมตร
หลังจากที่ทุกคนเข้าไปในห้องฝึกปฏิบัติการแล้ว พวกเขาก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เย่เชียนดึงม่อหลงมานั่งข้าง ๆ และพูดกับเขาในขณะที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ว่า “พี่ม่อหลง คืนนี้พี่ไปหากับคนชื่อหลี่ตงให้ผมทีสิ บอกเขาว่าผมมีบางอย่างที่ต้องให้พี่ทำแทนผม”
“เกิดอะไรขึ้น ?” ม่อหลงถาม
“มีนักเลงกระจอก ๆ คนนึงมาสร้างปัญหาให้กับผม แต่ตอนนี้ผมให้พวกเขาจับตัวไอ้หมอนั่นเอาไว้แล้วล่ะ ตอนแรกผมกะว่าจะไปจัดการกับเขาด้วยตัวเอง แต่คืนนี้ผมดันไม่ว่างแล้วน่ะสิ ผมฝากพี่จัดการแทนผมด้วยก็แล้วกัน พี่จะทำยังไงก็ได้แต่ผมไม่ต้องการเห็นหน้าเขาในประเทศจีนอีก!” เย่เชียนพูดอย่างจริงจัง
ม่อหลงทำท่าทางเอามือเชือดคอและมองไปที่เย่เชียนด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก
เย่เชียนยิ้มแหย ๆ และรีบพูดว่า “ไม่ ๆ ไม่ต้องเอาให้ถึงตายหรอกพี่ พี่แค่โยนเขาทิ้งนอกประเทศก็พอ เออใช่! พี่เอาเขาไปทิ้งไว้ที่เมืองไทยสิ! พวกเพศที่สามน่าจะชอบเขานะ เดี๋ยวถึงเวลามันต้องมีใครสักคนในประเทศไทยแหละที่จะมาช่วยแปลงเพศให้กับเขา ฮ่า ๆ ๆ ”
“โอ้…!” ม่อหลงเลิกคิ้ว
ในที่สุดทุกคนก็เปลี่ยนชุดกันเสร็จ พวกเขากำลังพูดคุยกันพร้อมกับเดินไปที่ลานกว้าง แต่ละคนนั้นมีท่าทีการแสดงออกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทว่าทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและจิตวิญญาณแห่งนักสู้เดือดพล่านอยู่ในใจ แน่นอนว่าพวกเขานั้นคงไม่ได้ประลองยุทธวิธีและศิลปะการต่อสู้กันมานาน
ริมฝีปากของเย่เชียนฉีกออกกว้างเป็นรอยยิ้ม และในที่สุดเขาก็พูดเสียงดังว่า “มาเริ่มกันเลยดีกว่า!”
พูดจบเท้าของเย่เชียนก็ทำการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วทันที หมัดของเขาพุ่งไปทางแจ็ค ขณะเดียวกันนี้เองที่ชิงเฟิงหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับง้างเท้าของเขาไปทางใบหน้าของเย่เชียน
เวลานี้ทั้งม่อหลง อู๋หวนเฟิงและแจ็คต่างก็เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย ซึ่งในศึกแห่งความชุลมุนวุ่นวายครั้งนี้นั้นไม่มีใครที่ร่วมมือกับใคร ไม่มีใครจับกันเป็นทีมและไม่มีใครที่เป็นเป้าหมายหลักทั้งสิ้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนอยู่สองคนที่มีความคิดตรงกันคือเลือกเผชิญหน้ากับเย่เชียนเป็นหลัก
“เฮ้ย ๆ! พวกนายจะเอาแบบนี้จริงดิ” เย่เชียนตะโกนออกมาขณะที่เขากำลังพุ่งไปหาแจ็ค
“บอส! คิดว่าฉันไม่เห็นเหรอ ? ทักษะคิกบ็อกซิ่งและการใช้เท้าของบอสน่ะ! ฉันเห็นมาแล้ว! ครั้งล่าสุดที่โรงงานเคมีร้างเมื่อวันก่อนนั่นไง! เพราะงั้นใช้มันซะตอนนี้เลย ทำให้พวกเราได้เห็นมันอย่างเต็มตาสักที!” ม่อหลงพูดอย่างจริงจัง
“โธ่! ให้ตายเถอะ! งั้นระวังตัวด้วย” หลังจากที่เย่เชียนพูดแบบนี้แล้วขาของเขาก็เริ่มยันพื้นเอาไว้และเริ่มง้างเท้าเพื่อปล่อยออกไป พลังของการยิงของลูกเตะของเขาในแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่เล่น ๆ มันทั้งสง่างามและทรงพลังอย่างสมบูรณ์แบบ
ภายในเวลาไม่นานนัก ทุกคนก็เหงื่อชุ่มไปทั่วร่างกายและต่างได้รับบาดเจ็บกันไปทั่วหน้า แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไร พวกเขาเพียงต้องพักรักษาตัวสักสองสามวันเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาอาบน้ำกันเสร็จ พวกเขาต่างก็พากันทาน้ำมันเหล้าหมักลงบนหลังของกันและกัน ซึ่งแอลกอฮอล์ชนิดพิเศษนี้ถูกแต่งปรุงขึ้นเองโดยหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉิน มันได้ผลได้ดีมากและมีสรรพคุณในการรักษาอาการเคล็ดขัดยอกและอาการบาดเจ็บฟกช้ำและอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
“บอส! ลูกเตะนั่นทำผมตายได้เลยนะถ้าไม่หลบน่ะ บอสใจร้าย… เมื่อไหร่จะสอนท่าเตะเท่ ๆ แบบนั้นให้ผมบ้าง” ชิงเฟิงพูดด้วยความหวั่นเกรงทว่าคาดหวัง เด็กคนนี้ชอบที่จะผลักดันตัวเองและพัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่วันนี้เขามีอาการบาดเจ็บของร้ายแรงที่สุดในกลุ่ม เพราะถูกลูกเตะของเย่เชียนอยู่หลายครั้ง
“ฮ่า ๆ ๆ ลูกเตะพวกนี้มันไม่ได้ยากนักหรอก ถ้านายอยากเรียน ไว้ฉันจะสอนนายให้ก็ได้ แต่นายต้องอะไรมาตอบแทนฉันด้วยล่ะ!” เย่เชียนพูดและหัวเราะอย่างซุกซน
“โธ่บอส! ผมเพิ่งจะใช้เงินไปหมดแล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง บอสอย่าลืมสิว่าผมเป็นหนึ่งในกลุ่มแสงจันทร์นะ” ชิงเฟิงพูด
“ปัดโธ่! เออ… ตอนฉันมาถึงฉันเห็นรถปอร์เช่จอดอยู่ข้างนอกนั่น! มันเป็นของนายใช่มั้ย ? ดี! งั้นเอามาให้ฉันยืมใช้สักสองสามวันสิ” เย่เชียนฉีกยิ้มและพูด
“ให้บอสยืมสองสามวันมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ผมกลัวว่าบอสจะไม่คืนให้นี่สิ” ชิงเฟิงพูด
เย่เชียนยักไหล่อย่างเฉยเมยและพูดว่า “ก็แล้วแต่นายละกัน ฉันไม่ได้บังคับ เฮ้อ! เสียดายจัง! ลูกเตะที่ยอดเยี่ยมของฉันมันคงจะไม่ถูกส่งต่อไปกับใครอีกแล้ว”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน