เย่เชียนส่งสัญญาณมืออีกครั้งและทุกคนก็เริ่มเคลื่อนพลขึ้นไปที่ชั้นบนอย่างเงียบเชียบ
น่าแปลกที่ตึกนี้ไม่มีใครเฝ้าที่ชั้นหนึ่งและชั้นสองเลยสักคนเดียว ทุกคนจึงมองหน้ากันและเริ่มเดินขึ้นไปที่ชั้นสามอย่างช้า ๆ
“ใครน่ะ ?” ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นที่ชั้นสาม และวินาทีนั้นเองก็มีเสียงปืนดังขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นเย่เชียนและคนอื่น ๆ จึงรีบแยกย้ายและซ่อนตัวอยู่แถว ๆ นั้น
“เขี้ยวหมาป่า! ขึ้นมาสิวะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกแกจะเป็นราชาแห่งโลกทหารรับจ้าง! ฉันไม่เชื่อในตำนานบ้า ๆ นั่นที่บอกว่าพวกแกจะอยู่ยงคงกระพัน มาสิวะ!” เสียงปริศนาที่ดูเดือดดาลเหมือนคนบ้าที่ยิงปืนกลไม่หยุดยั้ง
มันเป็นความกลัวตายที่เพิ่มความกดดันทางจิตใจและทำให้คนผู้นั้นสูญเสียความสงบและสติไปแล้วโดยสิ้นเชิง!
ทันทีที่ชายปริศนาคนนั้นพูดจบก็มีมีดเล่มหนึ่งถูกขว้างเจาะเข้าไปที่คอของเขาอย่างแม่นยำ ตาของชายผู้นั้นเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจแล้วร่างของเขาก็ล้มลงในทันที
ความตายนั้นนำพาความหวาดกลัวมาให้สมาชิกทั้งหมดจากเหยี่ยวดำทมิฬ ทุกคนต่างก็บ้าคลั่งและยิงปืนสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างไร้จุดหมาย และที่ด้านนอกนั้นยังคงมีเสียงฟ้าร้องฟ้าคำรามและผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็กลบเสียงปืนท่ามกลางเสียงฟ้าและฝนที่โหมกระหน่ำ
ม่อหลงหยิบปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติขึ้นมาเล็งและยิงออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีสมาชิกเหยี่ยวดำทมิฬสองคนเสียชีวิตในทันที จากนั้นชิงเฟิงก็ใช้ปืนไรเฟิลจู่โจมยิงขึ้นไปที่ชั้นบนตามวิถีกระสุนของฝ่ายตรงข้าม เป็นผลให้อีกฝ่ายล้มลงกับพื้นทีละคน ๆ ซึ่งภายใต้การยิงคุ้มกันของทั้งสองคนนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้เย่เชียน หลี่เหว่ยยี่และอู๋หวนเฟิงลอบขึ้นไปโจมตีที่ชั้นบนได้ในที่สุด
ณ เวลานี้หากมีใครเดินผ่านมาคงจะได้ยินเพียงเสียงปืน เสียงกรีดร้องโหยหวนเคล้าไปกับเสียงลมและฝนเท่านั้น ม่อหลงและชิงเฟิงใช้กระสุนปืนเพียงนัดเดียวต่อคน จากนั้นสมาชิกของเหยี่ยวดำทมิฬก็ค่อบ ๆ ล้มลงไปนอนจมกองเลือดของตัวเองทีละคน ๆ
ที่น่าแปลกคือเย่เชียนไม่เห็นแม้แต่เงาของฟอลคอนจอห์นเลย หรือว่าเขาจะไหวตัวทันและหนีออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ? เมื่อตระหนักอยู่สักพัก เย่เชียนก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมเขาถึงไม่พาสมาชิกของเหยี่ยวดำทมิฬที่เหลือไปด้วยล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็เชื่อว่าฟอลคอนจอห์นจะไม่หนีไปอย่างหัวซุกหัวซุนเป็นแน่
เวลานี้เหลือสมาชิกเหยี่ยวดำทมิฬเพียงคนเดียวเท่านั้น ชิงเฟิงจึงเดินเข้าไปปลดอาวุธของเขาและเตะเขาลงกับพื้นพร้อมกันนั้นก็จ่อปืนเอาไว้ที่หัวของเขา เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าฟอลคอนจอห์นนั้นไม่ได้อยู่ในท่ามกลางของกองศพเหล่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องสอบสวนและเค้นคำตอบจากคนที่เหลือ
“บอกมา! ฟอลคอนจอห์นอยู่ที่ไหน ?” เย่เชียนถาม
“เหอะ!” ชายคนนั้นตะคอกอย่างไม่แยแส เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการเย้ยหยันที่จะไม่ตอบคำถามของเย่เชียน
“ไอ้เวรนี่… จะตายแล้วยังปากแข็งอยู่อีกเหรอวะ ?” ชิงเฟิงทุบหัวของเขาด้วยพันท้ายปืนไรเฟิล ทันใดนั้นเองก็มีเลือดไหลออกมาจากหัวของชายผู้นั้น
“มันไม่มีประโยชน์หรอกที่จะทรมานฉัน! ฉันจะไม่ทรยศกัปตัน!” ชายคนนั้นตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“นายค่อนข้างเด็ดเดี่ยวเลยนี่! ไม่เลวเลยสำหรับทหารรับจ้าง… แต่น่าเสียดายไปหน่อยที่นายเลือกเจ้านายผิดคน!” เย่เชียนจ้องเขม็งขณะพูด
ทหารผู้ใดที่ไม่มีความซื่อสัตย์และทรยศพรรคพวกของเขาภายใต้แรงกดดันต่าง ๆ ของศัตรูนั้น ทหารผู้นั้นก็ไม่สมควรที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นทหาร ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นศัตรูของกลุ่มเขี้ยวหมาป่า แต่จากมุมมองส่วนตัวเย่เชียนเองก็ยังรู้สึกชื่นชมเขาอยู่เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามการชื่นชมก็เป็นแค่การชื่นชม เพราะผลลัพธ์ของเขาก็ยังคงมีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือความตาย…
“อย่าให้เขาทรมานล่ะ” เย่เชียนพูดจบก็หันหลังเดินออกไป
ชิงเฟิงพยักหน้าแล้วใช้มีดในมือของเขาแทงทะลุหัวใจของชายคนนั้นทันที หลังจากดึงมีดออกและเช็ดทำความสะอาดแล้วชิงเฟิงก็เดินตามเย่เชียนไป
คิ้วของเย่เชียนยังขมวดอยู่และหัวใจของเขาก็ยังไม่สามารถสงบลงได้ เพราะถึงแม้ว่าการปฏิบัติภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้จะสามารถพูดได้ว่าประสบความสำเร็จก็ตาม แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ล้มเหลวเช่นกัน เพราะฟอลคอนจอห์นยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งเขาจะอาจจะกลายเป็นหายนะได้ในที่สุด
เย่เชียนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรออกไปยังเบอร์ของแจ็ค
“บอส! เป็นไงบ้าง ?” แจ็คถามอย่างร้อนรน
“ฟอลคอนจอห์นไม่ได้อยู่ที่นี่!” เย่เชียนพูด


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน