ตอนที่ 19 ออกเดท
เป็นไปได้ว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้อาจจะไม่สนใจอาชีพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่าไหร่นักเพราะคิดว่าไม่มีโอกาสที่จะเติบโตในอนาคตและค่าจ้างค่าแรงก็ไม่ค่อยจะเพียงพอต่อการดำรงชีพ
ประกาศรับสมัครพนักงานของกลุ่มเทียนหยานั้นถูกโฆษณาหาพนักงานมาช่วงใหญ่ ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาสมัครเลย เมื่อเป็นเช่นนั้นเย่เชียนจึงผ่านการสัมภาษณ์ของหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยได้อย่างง่ายดายด้วยการตอบคำถามง่าย ๆ เพียงสองสามข้อ
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยบอกเย่เชียนว่าให้กลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ พร้อมนำสำเนาบัตรประชาชนและภาพถ่ายสองนิ้วจำนวนสามใบมาด้วยเพื่อใช้ลงทะเบียนพนักงาน และหลังจากนั้นเขาก็สามารถเริ่มทำงานได้ทันที
เย่เชียนแทบหลั่งน้ำตาด้วยความปลาบปลื้มใจที่คนอย่างเขาหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งได้ นี่มันจะทำให้พ่อของเขาเลิกวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเขา เขาดีใจมากและพยายามมอบบุหรี่ให้กับหัวหน้ารปภ.ที่มีชื่อว่า เจิ้งซิน ก่อนจะพูดขึ้นโดยทำท่าทีเข้มงวด
“ขอบคุณมากครับ ในอนาคตผมจะคอยจับตาดูความเรียบร้อยของสิ่งต่าง ๆ รวมถึงความประพฤติอย่างเหมาะสมครับ”
เจิ้งซินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาวางท่าทำเป็นว่าเขามีอำนาจและเผด็จการ จากนั้นเขาก็บอกเย่เชียนให้มารายงานตัวตรงเวลาในตอนเช้าวันพรุ่งนี้
หลังจากที่เย่เชียนแสดงความขอบคุณต่อหัวหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดเขาก็หันหลังกลับไป แม้ว่าเย่เชียนจะไม่สนใจหัวหน้ารปภ.คนนี้ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าโดยตรงของเขาในอนาคต ทว่าบุคคลนั้นก็ไม่ได้คุกคามเขาแต่อย่างใด
เย่เชียนเดินลอยหน้าลอยตาไปตามถนนอย่างไร้จุดหมายจนกระทั่งเกือบจะหกโมงเย็น เขาเพิ่งนึกได้ว่ามันใกล้จะถึงเวลาที่เขานัดกับหลินโรโร่วเอาไว้ เย่เชียนจึงรีบขับรถกลับมายังโรงพยาบาล
เมื่อเขามาถึงประตูโรงพยาบาลก็เห็นว่าหลินโรโร่วรอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว เธอยืนอยู่ข้างทางเข้าในชุดสีขาวราวกับหิมะ ในความคิดของเขา เธอดูเหมือนนางฟ้าที่ตกลงมายังโลก เขาจอดรถเทียบฟุตพาทข้างหน้าหลินโรโร่วแล้วลุกออกจากรถไปจ้องมองเธอด้วยแววตาเป็นประกายพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า
“วันนี้คุณดูสวยมาก…”
“ขอบคุณนะ…” หลินโรโร่วพูดอย่างอ่อนโยน
ผู้หญิงทุกคนล้วนแล้วแต่อยากให้ผู้คนชมเชยในการแต่งตัวของพวกเธอ สไตล์การแต่งตัวของผู้หญิงแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไปทว่าเกือบทุกคนล้วนประหม่าว่าจะได้คำชมคำเยินยอหรือได้คำติฉินนินทา แต่หลินโรโร่วในเวลานี้นั้นเธอทำสำเร็จ หลังจากได้ยินคำชมจากเย่เชียนมันก็ทำให้เธอมีความสุขเป็นที่สุด
เย่เชียนเปิดประตูรถ จากนั้นก็เชิญชวนเธออย่างสุภาพเรียบร้อย
“โฉมงาม… คุณช่วยให้เกียรติไปรับประทานมื้อเย็นกับผมได้ไหมครับ ?”
“ค่ะ” หลินโรโร่วตอบพร้อมรอยยิ้มอันแสนหวานก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ
……
ในขณะที่พวกเขานั่งกันอยู่ในรถ หลินโรโร่วก็ถามด้วยความอยากรู้
“นี่คือรถของคุณเหรอคะ ?”
เย่เชียนส่ายหัวเล็กน้อย
“ไม่ใช่หรอกครับ มันเป็นของเพื่อนผมน่ะ ผมแค่ยืมมาสองสามวันเท่านั้น… ว่าแต่เราจะไปที่ไหนกันดี”
หลินโรโร่วไม่ใช่คนประเภทที่ชอบผู้ชายร่ำรวยและดูถูกคนจน และเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงไร้สาระที่ต้องการคำเยินยอจากสังคม ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีปฏิกิริยาหรือท่าทีที่ไม่พอใจต่อเย่เชียนเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเธอนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือตัวของเย่เชียนเอง ไม่ใช่เพราะว่าเขามีรถรุ่นอะไรหรือว่าเขามีเงินเยอะมากแค่ไหน สิ่งที่เธอสนใจคือเรื่องของจิตใจล้วน ๆ
“ฉันรู้จักร้านอาหารตะวันตกอยู่ร้านนึงนะ สเต็กที่นั่นไม่เลวเลย” หลินโรโร่วพูดไปยิ้มไป
ร้านอาหารนั้นชื่อหลางหมาน ภายในตกแต่งด้วยสไตล์ยุคกลาง แสงไฟที่ไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป อีกทั้งเสียงดนตรีที่เคล้าคลออยู่ทั่วทั้งร้าน ดู ๆ ไปแล้วบรรยากาศมันสุดแสนจะโรแมนติกทั้งภายในภายนอกหาที่ติไม่ได้
เย่เชียนเคยทานอาหารตะวันตกมาก่อน แต่เขาก็คิดว่าถึงยังไงแล้วอาหารจีนก็ดีที่สุดสำหรับเขา ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีรสนิยมและเย่อหยิ่ง แต่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าการกินอาหารตะวันตกนั้นน่าอึดอัดใจและเหมือนถูกจำกัดเพราะมีตัวเลือกอยู่แค่ไม่กี่ร้านในแต่ละเมือง แต่ทว่าในประเทศจีนนั้นมีแผงขายของกินอยู่ทั่วไปซึ่งสามารถหากินได้ง่าย ๆ และเป็นความเคยชินแบบบ้าน ๆ ที่ทำให้เขาสบายใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินโรโร่วต้องการทานอาหารตะวันตก มีหรือที่เย่เชียนจะปฏิเสธเธอ
หลังจากจอดรถแล้ว เย่เชียนก็เดินอ้อมไปเพื่อเปิดประตูรถให้หลินโรโร่ว มือของหลินโรโร่วควงแขนของเย่เชียนไว้

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน