โจวรุหลานยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “เธอชื่อเย่เชียนอย่างงั้นใช่มั้ย ? ฉันต้องขอโทษด้วยที่การมาเที่ยวเมืองหนานจิงในครั้งนี้ของเราสองแม่ลูกต้องมาทำให้เธอต้องลำบากไปด้วย”
คำพูดของโจวรุหลานนั้นได้ปลุกสติของเย่เชียนจากการคิดอะไรไปต่าง ๆ นานาของเขาทันที จากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มออกมาอย่างสุภาพชและพูดอย่างเร่งรีบว่า “ไม่เป็นไรครับคุณป้า เรื่องแค่นี้เอง สบายมากครับ! คุณป้าอย่าได้มาเกรงใจอะไรผมเลย หยาเอ๋อร์น่ะเป็นเพื่อนของผม ถ้าคุณป้าต้องการอะไรล่ะก็ บอกผมได้เลยนะครับผมยินดีเสมอ”
“โอ้หนุ่มน้อย… เธอนี่ปากหวานจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่หยาเอ๋อร์ของเราพูดถึงเธอตลอดทั้งวัน ฮิ ๆ ๆ ” โจวรุหลานพูดและหัวเราะอย่างคลุมเครือ
ได้ยินดังนั้นเย่เชียนก็ทำตัวไม่ถูก เขาอดไม่ได้ที่จะแอบเหลือบมองไปทางจ้าวหยาและเห็นแก้มของเธอเริ่มแดงระเรื่อขึ้น
เมื่อจ้าวหยาเห็นเย่เชียนมองมาทางตัวเอง เธอจึงรีบพูดขึ้นอย่างร้อนรนว่า “แม่! นี่แม่กำลังพูดถึงอะไรอยู่น่ะ ? หนูจะไปพูดถึงคนขี้โกงคนนี้ทำไมกันล่ะ ?”
โจวรุหลานได้แต่หัวเราะเบา ๆ และไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม จากนั้นเธอก็หันมองไปที่จ้าวหยาและพูดว่า “หยาเอ๋อร์… เดี๋ยวลูกเข้าไปในห้องนอนก่อนนะ แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับเย่เชียนเขาสักหน่อยน่ะ”
จ้าวหยาประหลาดใจ เธอไม่เข้าใจว่าแม่ของเธอกับเย่เชียนที่เพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนจะมีเรื่องอะไรให้ต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว แต่เมื่อจ้าวหยาฉุกคิดอยู่สักพักหนึ่ง เธอก็นึกขึ้นได้ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเธอเองงั้นสินะ แม่ของเธอจึงไม่อยากให้เธออยู่ตรงนี้ด้วย เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว เธอก็เดินเข้าไปในห้องนอนอย่างเชื่อฟัง
เย่เชียนเองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน แต่เขาเลือกที่จะเงียบเพื่อดูเชิงไว้ก่อน อันที่จริงเย่เชียนนั้นต้องการหาโอกาสที่จะถามโจวรุหลานอยู่เหมือนกันว่าเธอนั้นรู้จักกับเฉินฟู่เฉิงหรือไม่ ทว่าตอนนี้โจวรุหลานกลับเป็นคนที่เริ่มการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งมันก็จะดูไม่ดีนักถ้าหากเย่เชียนจะบุ่มบ่ามถามในทันที
“นั่งลงก่อนสิ… ทำตัวตามสบาย ๆ ได้เลย ฉันไม่เหมือนกับพ่อของหยาเอ๋อร์หรอก” โจวรุหลานพูดพร้อมรอยยิ้ม
เย่เชียนจึงยิ้มตอบเธออย่างเคอะเขินและนั่งลงตรงข้ามกับโจวรุหลาน เมื่อเทียบโจวรุหลานกับซูเหม่ยแม่ของหลินโรโร่วแล้ว โจวรุหลานนั้นมีความเป็นมิตรและใจดีมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย มันจึงทำให้เย่เชียนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก
หลังจากที่เงียบกันไปสักพัก จู่ ๆ โจวรุหลานก็ถามขึ้นมาว่า “อัฐิของเขาอยู่ที่ไหนเหรอ ?”
เย่เชียนถึงกับผงะ ในที่สุดเขาก็แน่ใจแล้วว่าผู้หญิงที่เฉินฟู่เฉิงบอกก็คือโจวรุหลานคนนี้นี่เอง ข่าวการเสียชีวิตของเฉินฟู่เฉิงถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในเมืองหนานจิงแห่งนี้ มันจึงไม่เป็นการยากเลยที่โจวรุหลานจะรู้ข่าวนี้กับเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในมุมมองของเย่เชียน เขาคิดว่าโจวรุหลานยังคงให้ความสนใจและยังคงมีบางสิ่งบางอย่างที่ยึดติดอยู่กับเฉินฟู่เฉิงอยู่ลึก ๆ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วตอนนี้เธอคงจะไม่มาปรากฎตัวต่อหน้าเขาในเมืองหนานจิงนี่และถามเขาเกี่ยวกับอัฐิของเฉินฟู่เฉิง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน