หลังจากที่เย่เชียนเดินออกมาจากโรงแรม เขาก็ตัดสินใจขับรถวนหาจ้าวหยาในละแวกนั้น ทว่าแม้ว่าเขาจะขับรถวนไปวนมาอยู่นาน เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอเลย มันทำให้ให้จิตใจของเขาสั่นไหวด้วยความกังวลอย่างช่วยไม่ได้ เย่เชียนนั้นคิดไม่ออกเลยว่าตอนนี้คนอย่างจ้าวหยาจะอยู่ที่ไหนในเมืองหนานจิงแห่งนี้ เธอไม่ได้คุ้นเคยกับที่นี่เหมือนอย่างเมืองเซี่ยงไฮ้ อีกทั้งหนานจิงในตอนนี้นั้นกำลังอยู่ในภาวะปั่นป่วน มันอาจมีการต่อสู้นองเลือดครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ตั้งแต่ที่เฉินฟู่เฉิงตายไป หลาย ๆ องค์กรต่างก็กำลังวางแผนและทำการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ แม้ว่าเย่เชียนนั้นจะเข้ารับตำแหน่งต่อจากเฉินฟู่เฉิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็ยังคงไว้ใจใครมากไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่าตำแหน่งท่านประธานที่เขารับช่วงต่อมาจากเฉินฟู่เฉิงนั้นยิ่งใหญ่และเป็นที่ต้องการมากขนาดไหน
เมื่อเย่เชียนขับรถวนอยู่นานแต่กลับไม่เห็นจ้าวหยาอยู่ที่ไหนเลย เขาจึงลองกดโทรออกหาจ้าวหยาอีกครั้ง แต่มันก็เหมือนเดิม เขาได้ยินเพียงแต่เสียงอันไพเราะของเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์อัตโนมัติตอบกลับมา
“ขอโทษค่ะ… เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณา…” เย่เชียนกดตัดสายอีกครั้งโดยไม่รอให้ระบบแจ้งเตือนพูดจนจบประโยค
เย่เชียนยังคงมองหาจ้าวหยาไปรอบ ๆ อย่างไร้จุดหมาย โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้อู๋หวนเฟิงนั้นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายอย่างยิ่งยวด
……
หลังจากที่เย่เชียนออกจากสโมสรไป อู๋หวนเฟิงก็ไม่ต้องการให้เย่เชียนต้องพบกับความยากลำบากในการตัดสินใจเรื่องของไป๋ฮวย เขาจึงคิดที่จะหาวิธีช่วยเย่เชียนอีกครั้ง
อู๋หวนเฟิงตัดสินใจเดินทางไปเผชิญหน้ากับไป๋ฮวยตัวคนเดียว เมื่อเขาไปถึง เฝิงซื่อเหลียงก็จำหน้าเขาได้ในทันทีว่าอู๋หวนเฟิงคนนี้คือคนเดียวกันกับลูกน้องที่ยืนขนาบข้างเย่เชียนเมื่อวานนี้ การถูกจับตัวเอาไว้มันไม่เท่าไหร่ แต่ความรู้สึกโดนหยามน้ำหน้านี่สิที่เขาทนไม่ได้ ในเมื่อตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะแก้แค้นเย่เชียนโดยตรงได้ การแก้แค้นกับคนของเขามันก็คงพอแก้ขัดไปได้ก่อน
“ไป๋ฮวย! ไอ้บ้านี่มันเป็นลูกน้องของเย่เชียน คุณช่วยสั่งสอนเขาให้ฉันสักหน่อยซิ” เฝิงซื่อเหลียงสั่ง
ไป๋ฮวยเหลือบมองไปยังเฝิงซื่อเหลียงด้วยสายตาอันเย็นยะเยือก แล้วถามว่า “นี่นายสั่งฉันเหรอ ?”
ทันทีที่เฝิงซื่อเหลียงประสานสายตาที่สุดแสนจะเลือดเย็นของไป๋ฮวยแล้ว เขาก็ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เพราะดวงตาคู่นั้นมันดูไม่เหมือนกับดวงตาของมนุษย์เลย ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่เคยได้สัมผัสกับดวงตาของยมฑูตมาก่อน แต่ถ้าให้เขาต้องจินตนาการภาพ มันก็คงจะไม่ต่างอะไรไปกับดวงตาคู่นี้ของไป๋ฮวย! สิ่งนี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของฉายาหมาป่าผี เพราะไป๋ฮวยในตอนนี้ดูราวกับว่าเขานั้นมีลมหายใจแห่งความตามแผ่กระจายอยู่ทั่วร่าง บรรยากาศโดยรอบในตอนนี้นั้นมันทำให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้รู้สึกเหมือนกับกำลังตกอยู่ในนรกดินแดนแห่งอสูรอย่างไงอย่างงั้น
เฝิงซื่อเหลียงไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่ออีก ความเย่อหยิ่งของเขาถูกทำลายลงในทันที เขาก้มหน้าลงแล้วรีบถอยกลับไปยืนอยู่ที่ด้านข้างด้วยความหวาดกลัวทันที
“พวกนายออกไปก่อน… เดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง” ไป๋ฮวยพูดพลางเหลือบมองไปที่กลุ่มพี่น้องของเฝิงซื่อเหลียง
แม้ว่าเฝิงซื่อเหลียงจะต้องการอยู่ดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาก แต่เขานั้นรู้สึกกลัวไป๋ฮวยมากกว่า ดังนั้นเขาจึงจำใจที่จะต้องออกไปจากที่นี่ ทันทีที่ไป๋ฮวยพูดจบ เฝิงซื่อเหลียงก็รีบออกไปกับพวกพี่น้องอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
ไป๋ฮวยมองอู๋หวนเฟิงอย่างเย็นชาและพูดว่า “นายตั้งใจจะตามมาฆ่าฉันหรือไง ?”
“ใช่แล้ว! ในเมื่อบอสไม่ต้องการที่จะสู้กับคุณ ผมก็เลยจะมาสะสางแทนเขา” อู๋หวนเฟิงพูดอย่างหนักแน่น
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน