หลังจากที่เย่เชียนวางสายจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้ว เขาก็ขับรถตรงไปยังโรงน้ำชาที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนัดเอาไว้ทันทีโดยมีอู๋หวนเฟิงนั่งไปกับเขาด้วย เพราะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนรู้อยู่แล้วว่าถ้าเย่เชียนมาอยู่ที่ประเทศจีน คนอื่น ๆ ในกลุ่มเขี้ยวหมาป่าก็ต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
โรงน้ำชานั้นเป็นที่นิยมกันมาตั้งแต่สมัยก่อน แม้ว่าสมัยนี้คนหนุ่มสาวจะไม่ค่อยมาที่โรงน้ำชากันแล้ว แต่ธุรกิจโรงน้ำชานั้นก็ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดีทุกยุคทุกสมัยอยู่ดี เย่เชียนเองก็ชอบดื่มชาอยู่ไม่น้อย ทว่าเขากลับไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดของการชงชาหรือให้ความสนใจเกี่ยวกับมันสักเท่าไหร่ อีกทั้งการที่เย่เชียนต้องไปอยู่ต่างประเทศมาเป็นเวลานานหลายปี มันก็ชักจะทำให้เขาเริ่มหันที่จะเปลี่ยนไปดื่มกาแฟเสียมากกว่า
ที่ชั้นสองของโรงน้ำชา
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนและหวงฟู่เส้าเจี๋ยนั้นกำลังนั่งรอการมาถึงของเย่เชียนอยู่อย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อหวงฟู่เส้าเจี๋ยเห็นเย่เชียนเดินเข้ามาจากระยะไกล เขาก็รีบพรวดพราดลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้นทันที แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เย่เชียนเห็นดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อย เพราะตอนแรกเขาคาดว่าปู่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะนัดเขามาเพื่อที่จะพูดคุยกันเรื่องพระบรมสารีริกธาตุ แต่การที่ปู่พาหวงฟู่เส้าเจี๋ยมาด้วยเช่นนี้แสดงว่าต้องเป็นเรื่องอื่นอย่างแน่นอน ทว่าเย่เชียนก็ยังคงเดินเข้าไปหาทั้งสองคนด้วยท่าทีปกติ
เมื่อเย่เชียนนั่งลงแล้ว หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มให้กับทั้งเย่เชียนและอู๋หวนเฟิง เขาอดคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าตัวเองมีลูกน้องดี ๆ คอยติดตามแบบนี้มันก็คงจะดีไม่น้อย
“อู๋หวนเฟิงใช่มั้ย ? นั่งลง ๆ เรามันคนกันเองทั้งนั้น” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนทักทาย
เย่เชียนเห็นอู๋หวนเฟิงยังคงไม่นั่งลง เขาจึงพูดขึ้นว่า “นั่งลงเถอะ… ปู่เขาไม่อะไรหรอก ถ้านายอยากดื่มหรือกินอะไรก็สั่งได้เลยตามสบาย”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนหัวเราะเบา ๆ อยู่ในลำคอก่อนที่จะพูดว่า “ตามสบายเลย มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง พวกเอ็งสั่งได้ทุกอย่าง”
อู๋หวนเฟิงจึงพยักหน้าแล้วนั่งลงข้าง ๆ เย่เชียน จากนั้นก็หันไปพูดกับพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมา “น้อง ๆ ที่นี่มีหูฉลามขายมั้ย ?”
พนักงานเสิร์ฟถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เธอส่ายหัวปฏิเสธเพราะที่โรงน้ำชาแห่งนี้ขายแต่เพียงติ่มซำและอาหารทานเล่นเบา ๆ เท่านั้น
“แล้วหอยเป่าฮื้อล่ะมีมั้ย ? เนื้อจระเข้ล่ะ ?” อู๋หวนเฟิงถามต่อแต่พนักงานเสิร์ฟก็ยังคงส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความหดหู่ “ที่นี่ไม่มีอะไรดี ๆ เลยงั้นหรือไง ?”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นเคยได้ยินมาว่าอู๋หวนเฟิงนั้นเป็นคนสงบเสงี่ยมและสุขุมมากที่สุดในกลุ่มเขี้ยวหมาป่า ทว่าเด็กผู้ชายที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาเคยได้ยินมาเลยสักนิด มันจึงทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย แต่สำหรับเย่เชียนแล้ว เขากลับรู้สึกขำอยู่ในใจ เพราะไม่มีใครรู้จักอู๋หวนเฟิงคนนี้ได้ดีไปมากกว่าเขาอีกแล้ว ถึงภายนอกอู๋หวนเฟิงนั้นจะดูเป็นคนสุขุมเยือกเย็น แต่บางครั้งเขาก็มักที่จะพูดจาแปลก ๆ หรือทำตัวเอาแต่ใจแบบนี้
พนักงานเสิร์ฟถูกรัวคำถามเช่นนั้นก็ถึงกับเสียอาการกันไปเลยทีเดียว แต่ท้ายที่สุดเธอก็ตั้งสติได้แล้วยื่นเมนูอาหารให้อู๋หวนเฟิง “ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทางเราไม่มีเมนูที่คุณลูกค้าถามถึง นี่เป็นเมนูอาหารของเราค่ะ คุณเลือกดูเลยว่ามีอะไรที่พอจะถูกใจคุณบ้าง”
เย่เชียนยิ้มน้อย ๆ แล้วยื่นมือไปรับเมนูมาจากพนักงานแทน จากนั้นก็พูดว่า “คุณไม่ต้องคิดมากนะ เขาแค่หยอกเล่นเฉย ๆ เท่านั้นแหละ”
เมื่อเย่เชียนกวาดสายตาดูเมนูคร่าว ๆ แล้ว เขาก็สั่งชามาสองถ้วยกับติ่มซำอีกนิดหน่อย
ทั้งหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและหวงฟู่เส้าเจี๋ยต่างก็รู้สึกสนใจในตัวของอู๋หวนเฟิงเป็นอันมาก อันที่จริงมันก็มากถึงขั้นที่ทั้งสองคนนั้นจะแอบเหลือบมองเขาอยู่หลายครั้งตั้งแต่เขานั่งลงที่โต๊ะด้วยกันแล้ว ในฐานะทหารหวงฟู่เส้าเจี๋ยยิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวของเขาคนนี้มากเป็นพิเศษ เขารู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวของอู๋หวนเฟิงนั้นมีกลิ่นอายแห่งความนองเลือดอยู่ ทันใดนั้นเองอู๋หวนเฟิงก็มองมาที่เขาพอดี เขาจึงรีบหลบสายตาและรู้สึกได้ถึงความกลัวที่เกิดขึ้นในใจของตัวเองอย่างบอกไม่ถูก หวงฟู่เส้าเจี๋ยในตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนลูกแกะที่กำลังถูกหมาป่าจ้องอยู่ยังไงยังงั้น
“ที่ปู่เรียกผมมาในวันนี้เพื่อที่จะตำหนิผมเกี่ยวกับเรื่องนั้นงั้นเหรอ ?” เย่เชียนถามขณะที่มองไปยังหวงฟู่ชิงเตี๋ยน
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนผงะไปขั่วครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ยิ้มออกมาก่อนที่จะตอบไปว่า “ไม่ใช่หรอกหน่า… เรื่องนั้นทางฝ่ายฉันทำผิดพลาดเอง ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พวกเอ็งต้องเสียเวลาเปล่า ๆ น่ะ”
เย่เชียนยักไหล่แล้วพูดว่า “แต่ข้อตกลงเรื่องเงินน่ะ มันก็ต้องจ่ายอยู่ดีนะ ปู่จะเบี้ยวไม่ได้!”
“ฉันรู้หน่า… ฉันไม่เบี้ยวเอ็งหรอก แต่อาจจะต้องรอหน่อยก็แค่นั้น เพราะสภาพทางการเงินของกระทรวงน่ะกำลังฝืดเคืองอยู่นิดหน่อย” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
“โธ่… ปู่อย่ามาหลอกผมหน่อยเลย! ใคร ๆ ก็รู้ทั้งนั้นแหละว่าตอนนี้ประเทศเรานั้นมั่งคั่งขนาดไหน ข้าราชการแต่ละคนเขากินกันจนอ้วนไปหมดแล้ว ปู่อย่าทำให้เงินภาษีของประชาชนต้องเสียเปล่าสิ” เย่เชียนพูดพร้อมโบกมือปฏิเสธไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า
“งั้นขอจ่ายเป็นงวดได้มั้ย ?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถาม “อีกอย่าง… ต่อให้มันจะเป็นความผิดพลาดของทางฝ่ายเราก็จริง แต่ท้ายที่สุดไอ้พวกนั้นมันก็หนีไปได้อยู่ดี เพราะงั้นเอ็งก็ควรที่จะลดค่าจ้างไปสักหน่อยว่ามั้ย ?”
“ไม่มีปัญหา! นี่ผมเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราสองคนหรอกนะ งั้นปู่ก็หักออกไป 9 เปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน” เย่เชียนพูดด้วยความเต็มใจ
“เอ็งนี่มันขี้งกไม่เปลี่ยนจริง ๆ ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
“แหมปู่! แทนที่ปู่จะเอาเงินส่วนนั้นมาจ้างผม แต่ปู่ดันเอาไปสนับสนุนไอ้พวกต่างชาตินั่น” เย่เชียนพูด
“นี่เอ็งกำลังพูดถึงอะไรอยู่ ? ฉันไปทำอย่างงั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถามด้วยความประหลาดใจ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน