เช้าวันรุ่งขึ้น…
การต่อสู้กันในตลาดหุ้นยังคงดุเดือดเช่นเดิม แต่คราวนี้ฝ่ายของซูเจี้ยนจุนกับจู้ซานนั้นกลายเป็นฝ่านตั้งรับแทนที่จะเป็นฝ่ายโจมตีเหมือนเมื่อวันก่อน เห็นได้ชัดว่าแผนของซ่งหลันที่วางเอาไว้มันกำลังเป็นไปได้สวยเลยทีเดียว
ส่วนทางด้านของเจียงเจิ้งยี่นั้น เรียกได้ว่าเขาได้เดินทางมาถึงยุคมืดของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะหลู่หลงกวงได้นำคดีของเขาขึ้นศาลกลางตามคำสั่งของเย่เชียนที่ต้องการฟ้องร้องให้ถึงที่สุด โดยทางฝ่ายของเย่เชียนนั้นมีทั้งหลักฐานและพยานอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะซูอิ๋งเจิ้นที่ได้ไปขึ้นศาลตามนัดเพื่อทำการเปิดโปงการทุจริต รวมไปถึงการรับและติดสินบนของเจียงเจิ้งยี่ทั้งหมด
การปรากฏตัวของซูอิ๋งเจิ้นนั้นได้สร้างความประหลาดใจให้กับเจียงเจิ้งยี่เป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็นเมียน้อยอันเป็นที่รักที่สุดของเขาจะหักหลังเขาเช่นนี้
มันจบแล้วสินะ… เส้นทางการเมืองของเจียงเจิ้งยี่!
นอกจากเจียงเจิ้งยี่ที่ถูกเรียกตัวไปขึ้นศาลกลางแล้ว ซูเจี้ยนจุนและจู้ซานเองก็ถูกเรียกตัวไปด้วยเช่นกัน เพราะทั้งสองคนก็เคยมีประวัติพัวพันกับการติดสินบนให้เจียงเจิ้งยี่มาก่อน
แน่นอนว่าข่าวอื้อฉาวเหล่านี้ได้ถูกนักข่าวจากทุกสำนักทำการเปิดเผยไปจนทั่วเมืองจีน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เมืองหนานจิงมีข่าวฉาวและประเด็นร้อนให้ผู้คนได้ติดตามกันหลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นข่าวของเย่เชียนที่ขึ้นมารับตำแหน่งใหม่จากยักษ์ใหญ่เฉินฟู่เฉิง
ทางด้านของเหมิงฉางเต๋อและอู๋จื้อปิงเองก็ไม่นิ่งนอนใจ หลังจากที่ข่าวต่าง ๆ ถูกแพร่สะพัดออกไป พวกเขาก็ประกาศจัดการประชุมครั้งใหญ่ทั่วทั้งมณฑลเลยทันที นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เหมิงฉางเต๋อนั้นให้ความสำคัญกับปัญหาการทุจริตอย่างเป็นทางการ เขามีคำสั่งให้ตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการทั่วทั้งมณฑลเจียงซูทุกระดับอย่างเข้มงวดและถี่ถ้วน เป็นผลให้บรรดาเจ้าหน้าที่หลายคนเกิดความวิตกกังวลว่าจะโดนหางเลขไปด้วย
อันที่จริงแล้วเหมิงฉางเต๋อนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการมณฑลเจียงซูมาตั้งนานแล้ว ซึ่งตอนนี้มันก็ใกล้จะหมดเวลาเกษียณอายุของเขาเข้ามาเต็มที แต่ทว่าตลอดเวลาที่เขาครองตำแหน่งผู้ว่าการมา เขายังไม่มีผลทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่อะไรให้เห็นเลย เพราะเช่นนั้นการกระทำในครั้งนี้ของเขาก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่เหมิงฉางเต๋อจะสร้างความสำเร็จทางการเมืองเพื่อจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของมณฑลเจียงซู
อีกข่าวหนึ่งที่เป็นที่สนใจของประชาชนไม่แพ้เรื่องการทุจริตของเจียงเจิ้งยี่หรือผลงานของเหมิงฉางเต๋อเลยก็คือ ข่าวที่เย่เชียนถูกทำร้ายที่สถานีตำรวจ สำนักข่าวเล็กใหญ่ทุกสำนัก รวมไปถึงโลกอินเตอร์เน็ตต่างก็พาดหัวข่าวกันอย่างดุเดือดถึงการกระทำอันไม่เป็นธรรมต่อประชาชนในครั้งนี้ ภาพข่าวที่เป็นใบหน้าอันฟกช้ำและเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์มากมายยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความรุนแรงที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง
เสี่ยวโม่ ผู้สื่อข่าวที่มีความประทับใจในตัวเย่เชียนอยู่แล้วเมื่อก่อนหน้านี้ยิ่งรู้สึกชื่นชมในตัวของเย่เชียนมากขึ้นไปอีก เขาคิดว่าเย่เชียนนั้นเป็นคนที่เสียสละอย่างยิ่งใหญ่และเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง เพราะเย่เชียนคนนี้สามารถแคล้วคลาดการโจมตีอันแยบยลของเจียงเจิ้งยี่ได้อย่างสง่างาม
จากที่ผู้คนเคยพูดถึงเย่เชียนในฐานะนักธุรกิจหน้าใหม่แห่งเมืองหนานจิง ตอนนี้พวกเขาต่างก็พากันยกย่องและสรรเสริญความไม่ยอมแพ้และความไม่ท้อถอยอันเข้มแข็งของเย่เชียนไปอีก พวกเขาต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตอย่างรุนแรงและเด็ดขาด
ความวุ่นวายครั้งใหญ่นี้เริ่มลุกลามไปทั่วทั้งมณฑลเจียงซูโดยมีเมืองหนานจิงเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งแม้แต่รัฐบาลกลางเองก็ติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ณ เมืองเซี่ยงไฮ้
ฉินเทียนกำลังถือหนังสือพิมพ์ที่มีรูปถ่ายใบหน้าที่มีแผลฟกช้ำของเย่เชียนอยู่ในมือ รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาอย่างมีความสุข จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับจางเซียงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ว่า “พี่จาง… พ่อหนุ่มคนนี้เขามีพิษสงร้ายซะยิ่งกว่าพวกเราสมัยหนุ่ม ๆ อีกนะว่าไหม ? ตอนนี้มันแทบจะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้อีกต่อไปแล้ว”
“ฮ่า ๆ ๆ ฉันเคยบอกแล้วไงว่าเด็กคนนี้น่ะไม่ธรรมดา! ดูอย่างครั้งแรกที่ฉันเจอเขาสิ เขามาขโมยรถฉันไปอย่างไม่ลังเลเลยนะ! พ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนแรกเลยที่กล้ามาทำแบบนี้กับฉันน่ะ ” จางเซียงพูด
“เด็กคนนี้มันจะเก่งขั้นเทพเกินไปแล้ว! ดูสิ… ขนาดแม้แต่ฉันเองยังไม่รู้เลยว่าเขาน่ะไม่เอากองกำลังทหารมาจากที่ไหน นี่เล่นถึงขนาดเรียกทหารทั้งกองทัพมาปิดล้องสถานีตำรวจเลยนะ มันน่าประทับใจมากเลยจริง ๆ !” ฉินเทียนพูด “ดูเหมือนว่าการตัดสินใจของฉันมันจะถูกต้องแล้วที่พาเขาไปหาเฉินฟู่เฉิงน่ะ”
“ประธานตัดสินใจแล้วจริง ๆ เหรอ ?” จางเซียงถาม
ฉินเทียนพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “โลกเรามันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ นะพี่จาง… ตอนนี้มันหมดยุคของคนแก่รุ่นเราแล้ว พวกเราควรจะปล่อยวางและไปพักผ่อนได้แล้ว ขืนทำงานต่อไปมีหวังพวกเราคงจะนอนตายตาไม่หลับ”
ถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉินเทียนพูดมามันจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่มันก็ไม่ผิดนัก เพราะเมื่อวันเวลาผ่านพ้นไป คนรุ่นใหม่ก็ต้องเข้ามาแทนที่คนรุ่นเก่าเป็นธรรมดาของโลกอยู่แล้ว มันเป็นหลักการที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและหลีกเลี่ยงไม่ได้
“มันก็จริง… สมัยนี้จะเอาเราไปเทียบกับคนหนุ่มคนสาวมันก็คงจะไม่ไหวหรอก แต่จะว่าไป… คุณหนูหยูเอ๋อร์น่ะกำลังมีความสัมพันธ์บางอย่างกับพ่อหนุ่มคนนี้ไม่ใช่เหรอ ? ฉันว่ามันน่าจะเป็นการดีถ้าเราจะให้พวกเขาทั้งสองคนแต่งงานกันโดยเร็วที่สุด ประธานจะได้มีหลานให้อุ้มกะเขาซักทีไง” จางเซียงแนะ
ทว่าฉินเทียนกลับส่ายหัวไปมา “เรื่องแบบนี้เราคงเข้าไปยุ่งไม่ได้หรอก เพราะเด็กคนนี้น่ะมีบางอย่างที่เหมือนกับฉันเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ ที่เอาแต่มุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ และจะทะเยอทะยานทำมันจนกว่าจะประสบความสำเร็จ อีกอย่างเขาน่ะให้ความสำคัญกับความรักและมิตรภาพมากกว่าสิ่งใด พวกเราควรปล่อยให้พวกเขาจัดการเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ กันเอาเอง ฉันรู้จักลูกสาวของฉันดี… หยูเอ๋อร์น่ะเป็นคนหัวดื้อ ไม่มีใครไปบังคับอะไรเธอได้หรอก สงสัยเลือดแม่ของเขาจะแรงน่ะ ฮ่า ๆ ๆ ”
จางเซียงถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่เมื่อได้ยินฉินเทียนพูดถึงเหยาเหยาแม่ของฉินหยูในรอบหลายสิบปี เมื่อนึกถึงเรื่องของทั้งสองคนนี้แล้วมันก็ทำให้จางเซียงอดไม่ได้ที่จะหัวเราออกมาเบา ๆ
เพราะย้อนกลับไปเมื่อสมัยก่อน ฉินเทียนนั้นปฏิบัติต่อเหยาเหยาอย่างเย็นชาและคลุมเครือแบบเดียวกับที่เย่เชียนและฉินหยูมีให้กันในตอนนี้นี่แหละ ซึ่งในช่วงเวลานั้นคนที่อยู่รอบข้างฉินเทียนต่างก็รู้ดีว่าฉินเทียนมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเหยาเหยา แต่เขาดันเป็นคนปากแข็งเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกไป ทว่าในท้ายที่สุดเหยาเหยาก็สบโอกาสในวันเกิดของเธอในการมอมเหล้าฉินเทียน เพราะฉินเทียนนั้นคออ่อนมาก เขาดื่มเพียงไม่กี่แก้วก็เมาแอ๋แล้ว ในที่สุดทั้งคู่ก็มีอะไรเกินเลยกันในค่ำคืนนั้น
ครั้งเดียวติด! เพียงแค่เผลอเกินเลยกันไปเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นมันก็ทำให้ไม่กี่เดือนต่อมาท้องของเหยาเหยาก็เริ่มโตขึ้นจนสังเกตได้ ฉินเทียนจึงได้แต่งงานกับเหยาเหยาตามประเพณี ถึงแม้ว่าเรื่องนี้มันจะฟังดูแปลก ๆ หน่อย แต่มันก็เป็นการแต่งงานด้วยความรักในแบบฉบับของทั้งคู่
ซึ่งในมุมของฉินเทียนนั้นเขาก็คิดว่าเย่เชียนและฉินหยูก็คงจะมีรูปแบบของตัวเองในการดำเนินไปเช่นกัน



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน