เย่เชียนส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆ
เหมิงฉางเต๋อตบบ่าเย่เชียนเบาๆ และพูดว่า “ไอ้พวกอาชญากรเหล่านั้นมันกล้าเกินไป..ถึงกับกราดยิงอย่างอุกอาจกลางเมืองกลางถนนแบบนี้..น้องเย่เรื่องนี้วางใจได้เลย..เพราะฉันจะสั่งให้ทุกฝ่ายตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวดและจะให้คำอธิบายและการชี้แจงต่างๆ โดยเร็ว”
เย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณครับ!” อันที่จริงแล้วเย่เชียนนั้นก็รู้ดีว่าถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะถูกส่งให้ตำรวจและส่วนกลางสืบสวนและตรวจสอบแค่ไหนแต่สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย นั่นก็เพราะว่าพวกเขาจะไม่สามารถหาข้อมูลอะไรใดๆ ได้เลย และเย่เชียนเองก็ไม่ได้คาดหวังให้ตำรวจเหล่านี้มาช่วยเพราะถ้าหากใครกล้าที่จะทำร้ายพี่น้องของเขาแล้วล่ะก็มันก็ต้องจ่ายคืนด้วยเลือดเพียงเท่านั้น
เหมิงฉางเต๋อพยักหน้าและพูดว่า “อย่ากังวลมากนักเลย..น้องเย่เหนื่อยมากแล้วกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ..เดี๋ยวฉันจะคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้..และให้พวกพยาบาลเฝ้าดูอาการอย่างเคร่งครัดเองจะได้ไม่มีปัญหา..ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ขอบคุณครับ” เย่เชียนพูดต่อ “ลุงเหมิงไปทำธุระของคุณเถอะ..ผมไม่เป็นไร..คุณไม่ต้องห่วงผมจะไม่ทำอะไรที่มันไม่มีเหตุผลหรอก”
“ดีแล้ว” เหมิงฉางเต๋อพยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นฉันไปก่อนละกัน..เรื่องนี้ให้พวกตำรวจจัดการซะ..มันจะต้องมีข้อมูลและคำตอบที่น่าพอใจอย่างแน่นอน”
หลังจากพูดจบเหมิงฉางเต๋อก็ถอนหายใจเหือกใหญ่ๆ แล้วเดินจากไป
อู๋หวนเฟิงก็ถูกย้ายไปที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉินเช่นกัน ซึ่งการที่เขาจะตื่นขึ้นมาได้นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นและความพยายามของอู๋หวนเฟิงเอง ซึ่งนี่มันก็เป็นเรื่องที่น่าขันเล็กน้อยเพราะแพทย์และหมอไม่สามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้และหวังเพียงปาฏิหาริย์ของคนไข้เพียงเท่านั้น
เย่เชียนเหลือบมองซ่งหลันและพูดว่า “พี่หลันกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ..วันนี้พี่เจอมาหนักมากพอแล้ว..ผมอยู่เฝ้าหวนเฟิงเองได้”
“ฉันไม่เป็นไร..ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายที่นี่” ซ่งหลันพูด
เย่เชียนยิ้มเจื่อนๆ อย่างน่าลำบากใจและพูดว่า “ไม่เป็นไรพี่กลับไปเถอะ..ผมอยากอยู่คนเดียว!”
ซ่งหลันเหลือบมองไปที่เย่เชียนและแอบถอนหายใจอยู่ในใจเพราะเธอรู้ว่าในหัวใจของเย่เชียนนั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของเขา เมื่อเป็นเช่นนั้นซ่งหลันก็ลูบไหล่เย่เชียนเบาๆ และลุกขึ้นจากนั้นเธอก็ออกไปจากโรงพยาบาลทันที
คิ้วของเย่เชียนก็ขมวดเข้าหากันแน่นพลางตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้และไตร่ตรองว่าเขี้ยวหมาป่านั้นก็มีศัตรูอยู่มากมายแต่หลังจากที่ไล่กวาดล้างมานานหลายปีแล้วมันก็เหลือศัตรูอยู่เพียงไม่กี่พวกเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นในประเทศจีนนี้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนจู้ซานและซูเจี้ยนจุนก็ไม่น่าจะใช่ผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาทั้งสองไม่มีเครือข่ายหรืออิทธิพลด้านนี้นัก ซึ่งบุคคลที่เป็นไปได้ที่จะศัตรูกับเย่เชียนก็คือเหว่ยเฉิงหลงจากเครือตงเซียนกรุ๊ปและเฝิงเฝิงราชาแห่งขุนเขาและตู้เหลียนเฉิงจากแก๊งชิงหรือเครือชิงกรุ๊ป นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเหล่านี้มีความเป็นไปได้มากที่สุดในการเคลื่อนไหวแบบนี้ และยิ่งไปกว่านั้นความบาดหมางระหว่างเหว่ยเฉิงหลงกับเย่เชียนนั้นก็อาจพูดได้ว่ามากที่สุดเพราะฉะนั้นความเป็นไปได้ที่จะเป็นเหว่ยเฉิงหลังนั้นก็มากที่สุดเช่นกัน ส่วนเฝิงเฝิงก็อาจจะแก้แค้นให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งที่แล้วแต่ก็ไม่มีใครทราบได้ สำหรับตู้เหลียนเฉิงแห่งแก๊งชิงนั้นเนื่องจากเย่เชียนรุกรานเขตของพวกเขาในครั้งที่แล้วแต่พวกนั้นกลับไม่ได้ตอบโต้เรื่องนั้นเลยเพราะฉะนั้นมันก็อาจจะเป็นได้ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีหมาป่าผีไป๋ฮวยอีกเพราะเขาก็อยากที่จะโค่นล้มและทำลายเขี้ยวหมาป่ามาโดยตลอด แต่เย่เชียนก็เชื่อว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะไม่ใช้วิธีการแบบนี้อย่างแน่นอน ส่วนความเป็นไปได้ของฝ่ายอื่นๆ ที่ซ่อนตัวอยู่นอกจากนี้แล้วเย่เชียนก็ไม่ทราบเช่นกัน
อู๋หวนเฟิงยังคงนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินและไม่มีใครอาจรู้ได้ว่าเมื่อไหร่เขาจะตื่นขึ้นมา หัวใจของเย่เชียนนั้นเจ็บปวดและรวดร้าวราวกับถูกมีดแทง
เมื่อแจ็คมาถึงที่โรงพยาบาลมันก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วและเมื่อเขาเห็นเย่เชียนที่นั่งอยู่บนเอ้ากี้ตรงทางเดินของโรงพยาบาลด้วยสีหน้าที่โศกเศร้าของเย่เชียนก็ทำให้แจ็ครู้สึกใจไม่ดีและรู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติอย่างมากแจ็คจึงรีบเดินเข้าไปหาแล้วถามว่า “บอสเกิดอะไรขึ้น?”
“หวนเฟิงถูกยิง! ..และยังนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินอยู่เลย..ฉันไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่เขาจะตื่นขึ้นมา” เย่เชียนนึกถึงเรื่องนี้พร้อมกับโทษตัวเองอยู่ลึกๆ ในใจและเมื่อคิดเช่นนั้นแล้วเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น พลางคิดว่าถ้าหากว่าเขามาถึงเร็วกว่านี้ล่ะก็บางทีอะไรๆ มันก็อาจจะไม่เป็นเช่นนี้ก็เป็นได้
คำพูดของเย่เชียนราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจและแจ็คก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว “ห๊ะ! ..มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ..ใครเป็นคนทำพี่น้องของเรา!” แจ็คตะโกนอย่างตกตะลึงและถึงกับทำให้นางพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลหันมาทางเขาและชำเลืองมองและเมื่อพบว่าเย่เชียนก็นั่งอยู่ที่นั่นด้วยเธอก็หันกลับไปอย่างหมดหนทาง นั่นก็เพราะว่าสถานการณ์เมื่อช่วงบ่ายยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอและถ้าหากว่าเหมิงฉางเต๋อมาไม่ทันเวลาล่ะก็หมอผ่าตัดคนนั้นก็อาจจะถูกเย่เชียนโยนลงไปชั้นล่างอย่างแน่นอน
“ที่ฉันให้นายมาที่นี่ก็เพื่อจะให้นายช่วยตรวจสอบเรื่องนี้น่ะ” เย่เชียนพูดขณะที่เขายืนขึ้น “ตามฉันมา..เราจะไปที่ห้องชันสูตรศพและไปดูร่างของพวกที่ไล่ล่าหวนเฟิงกัน..ฉันอยากรู้ที่มาที่ไปของพวกนั้นและคนที่อยู่เบื้องหลังที่สั่งการเรื่องพวกนี้”
แจ็คก็พยักหน้าและเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
ณ ห้องชันสูตรศพของโรงพยาบาลนั้นกลางดึกเช่นนี้ดูน่ากลัวอย่างมากมาก ซึ่งมีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ประตูห้องเก็บศพและกำลังดื่มเบียร์อย่างสบายใจเฉิบ เขาคนนี้ทำงานในโรงพยาบาลแห่งนี้มาหลายสิบปีแล้วและเขาก็เคยเห็นคนตายและศพมาแล้วเป็นพันๆ ศพซึ่งมันทำให้เขานั้นลืมไปหมดแล้วว่าความกลัวนั้นคืออะไร
เมื่อเห็นเย่เชียนและแจ็คกำลังจะเข้าไปในห้องเก็บศพนั้นชายชราคนนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบและไปขวางทางพวกเขาเอาไว้และพูดว่า “นี่เป็นห้องเก็บศพนะ..หลานชายเข้าไปไม่ได้หรอก”
เย่เชียนนั้นที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่เขาจึงไม่ได้พูดอะไรใดๆ เพียงขมวดคิ้วด้วยความโกรธเกรี้ยว ส่วนแจ็คก็รีบเดินเข้าไปหาชายชราคนนั้นและหยิบธนบัตร 100 หยวนออกมาสามใบและยื่นมือออกไปเพื่อวางเงินใส่มือของชายชราคนนั้นและพูดว่า “ลุง..เราแค่เข้าไปดู..ไม่ต้องห่วง”
เงินเดือนต่อเดือนของชายชรานั้นไม่มากไปกว่า 1000 หยวนและคราวนี้แจ็คก็ให้เงินเกือบครึ่งเดือนของเขาอย่างง่ายดายและเมื่อเป็นเช่นนั้นชายชราก็รับเงินเอาไว้และใส่มันเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและพูดว่า “ก็ได้ๆ ..ฉันจะพาพวกหลานเข้าไปนะ..แต่จำไว้ล่ะว่าอย่าแตะต้องศพตามอำเภอใจและห้ามดูหมิ่นหรือไม่ให้เกียรติคนตายล่ะ”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน