กองพันทหารพิเศษของกองทัพเซี่ยงไฮ้ก็ถอนกำลังกันไปอย่างรวดเร็วและตำรวจจากสถานีตำรวจต่างก็ออกไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็วเช่นกัน หวังปิงมองไปที่หลี่ฮ่าวและพูดว่า “อธิการหลี่บอกให้คนของคุณทั้งหมดถอนกำลังออกไปด้วย..และเรียกนักการเมืองของพรรคทั้งหมดมาประชุมกันหลังจากนี้ด้วย..ในสายตาของฉันแล้วการใช้หน้ากากของรัฐบาลเพื่อกดขี่ข่มเหงประชาชนแบบนี้ฉันก็ต้องให้พวกเขารับผิดชอบอย่างถึงที่สุด”
หลี่ฮ่าวคนนี้สามารถพูดได้เลยว่าเขาเป็นดั่งคนสนิทของหวังปิงและเป็นทั้งมือซ้ายและมือขวาของหวังปิงเพราะเขานั้นอยู่ในพรรคและหน่วยงานเดียวกันกับหวังปิงมาโดยตลอดและนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมหวังปิงจึงแต่งตั้งหลี่ฮ่าวให้ไปดำรงตำแหน่งอธิการผู้อำนวยการของสำนักงานกรมตำรวจส่วนกลางและกระทรวงความมั่นคงของเทศบาลเมืองหลังจากที่หวังปิงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้ว่าการเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้นั่นเอง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาหวังปิงก็ได้เป็นถึงผู้อำนวยการสำนักงานกระทรวงความมั่นคงของเทศบาลเมื่อเขาอายุเพียงยี่สิบซึ่งอาจพูดได้เลยว่าหวังปิงนั้นมีอนาคตที่สดใสและรุ่งโรจน์อย่างมาก
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังปิงแล้วเจ้าหน้าที่ของโครงการบูรณะเมืองเหล่านั้นก็สูญเสียความหยิ่งผยองและโออ่าเหมือนก่อนหน้านี้ไปและพวกเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยความโศกเศร้าและหดหู่อย่างมาก เพราะพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ถึงเช่นนี้และเป็นปัญหาใหญ่ถึงขนาดนี้ และพวกเขาต่างก็ต้องเสียใจไปกับสิ่งที่พวกเขาทำเพราะถ้าหากพวกเขารู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นเช่นนี้ล่ะก็พวกเขาก็คงจะไม่ทำมันอย่างแน่นอน ส่วนเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองที่เหลือก็แอบดีใจเล็กน้อยเพราะโชคดีที่พวกเขาไม่ได้ลงไม้ลงมือทำร้ายประชาชนเมื่อครู่นี้ซึ่งอย่างน้อยๆ หวังปิงก็คงจะแสดงความเมตตาต่อพวกเขาเมื่อถึงเวลาจัดประชุมครั้งใหญ่
หลี่ฮ่าวก็ตอบตกลงและสั่งให้คนของเขารีบออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเหล่าเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองและเจ้าหน้าที่ของโครงการบูรณะเมืองต่างก็รู้สึกขมขื่นและหดหู่ใจกันอย่างมาก
หวังปิงจ้องเขม็งไปที่เจียงปินหยางเกรี้ยวโกรธและพูดอย่างเย็นชาว่า “การทุจริตและการละทิ้งหน้าที่และการละเมิดกฎระเบียบและกฎหมายของคุณจะถูกตรวจสอบโดยผู้อำนวยการกรมตรวจสอบวินัยกลาง..ส่วนตอนนี้คุณรีบไปขอโทษคุณลุงเขาซะ! ..ใครกันที่ทำให้คุณกล้าประพฤติตนแบบนี้?”
เมื่อหวังปิงพูดอย่างสง่าผ่าเผยต่อหน้าสาธารณชนและไม่มีร่องรอยของความเสแสร้งใดๆ และดูทรงเกียรติอย่างมาก และคนอย่างเจียงปินหยางจะกล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ได้เขาต้องจำใจเดินเข้าไปหาชายชราอย่างเชื่อฟังและขอโทษชายชรา และเห็นได้ชัดเลยว่าชายชรานั้นประหม่าอย่างมากเพราะเขาไม่เคยคาดคิดไม่เคยคาดฝันเลยว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับเขา
หวังปิงทำเสียงกระแอมในลำคอและประกาศกับคนในละแวกนั้นว่า “เหล่าพี่น้องเพื่อนบ้านของฉัน..โครงการบูรณะเมืองเก่าเป็นโครงการของรัฐบาลที่จะปรับปรุงบ้านของเราให้ดียิ่งขึ้น..และฉันก็หวังว่าพี่น้องชาวบ้านชาวเมืองจะให้ความร่วมมือกับพวกเรา..และแน่นอนว่ามันจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะเหตุนี้..แต่ฉันก็ได้รู้แล้วเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและการชดเชยการรื้อถอนและการตั้งถิ่นฐานใหม่แล้ว..ส่วนปัญหาที่ทำให้พวกคุณไม่มีที่อยู่อาศัยน่ะคุณต้องไว้วางใจรัฐบาลของเรา..ฉันสัญญาเลยว่าคุณจะได้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลและสิ่งที่พวกคุณควรจะได้รับ!”
คำพูดที่หนักแน่นและเป็นธรรมเช่นนี้ก็ชนะใจของผู้คนและหวังปิงก็ได้กลายมาเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมในสายตาของคนธรรมดาสามัญเหล่านี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย และเมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็แอบยิ้มเบาๆ โดยไม่มีการแสดงออกใดๆ มากเกินไป ซึ่งเย่เชียนก็ตั้งมั่นเอาไว้ว่าเขาจะต้องชนะและครอบครองโครงการนี้ให้ได้และเขาก็เชื่อว่าหวังปิงก็สามารถสัมผัสถึงความตั้งใจของเขาได้เช่นกัน
หวังปิงกวาดสายตามองไปที่เหล่าเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองและเจ้าหน้าที่ของโครงการบูรณะเมืองด้วยความเย็นชาและพูดว่า “อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!” เหล่าเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองและเจ้าหน้าที่ของโครงการบูรณะเมืองไม่ลังเลใดๆ ต่างก็รีบออกจากสถานที่แห่งนี้อย่างกระวนกระวายและประหม่า
“เสี่ยวเย่กลับมาที่เซี่ยงไฮ้เมื่อไหร่เนี่ย..ทำไมไม่บอกฉันเลยล่ะ..เสี่ยวยู่บอกฉันว่าเสี่ยวเย่อยู่ที่เมืองหนานจิงไม่ใช่หรือ?” หวังปิงยิ้มและพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขบนใบหน้าของเขา
“เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วันเองครับ..ผมว่าจะไปหาคุณอยู่แต่ผมไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้น..ขอโทษที่ทำให้ผู้ว่าหวังต้องลำบากนะครับ” เย่เชียนพูด
“เอาหน่าๆ ..อย่าพูดกันเหมือนคนเป็นนอกสิ” หวังปิงพูดด้วยรอยยิ้ม “โอ้ใช่! ..เสี่ยวเย่..เขาคือผู้นำจากรัฐบาลกลางน่ะ..เขาอยากเจอเสี่ยวเย่อยู่เหมือนกัน” หวังปิงพูดพร้อมยืนมือแนะนำไปทางหวงฟู่ชิงเตี๋ยน
“ปู่! ..นี่ปู่จะออกสื่อและเผยตัวอย่างเป็นทางการแล้วหรอ?” เย่เชียนพูดพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนด้วยความสงสัย
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เฮ้ยๆ ..อย่าเพิ่งเข้าใจผิด..ฉันแค่บังเอิญอยู่ที่สำนักงานรัฐบาลพอดีตอนที่ฉันรู้เรื่อง..ฉันเลยติดรถมากับผู้ว่าหวังน่ะ”
หวังปิงจ้องมองพวกเขาทั้งสองด้วยความประหลาดใจอย่างมากและถามขึ้นมาว่า “คุณรู้จักเขาหรือ?” หวังปิงยังสังเกตได้อีกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชียนและหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นไม่ธรรมดาเลย ไม่เช่นนั้นเย่เชียนจะกล้าเรียกหวงฟู่ชิงเตี๋ยนห้วนๆ ได้อย่างไรและยิ่งไปกว่านั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่โกรธเคืองอะไรเย่เชียนเลยแม้แต่น้อย และเขาก็รู้ดีว่าไม่มีใครเลยที่กล้าเรียกหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแบบนั้นถ้าไม่ได้รับอนุญาตไม่เช่นนั้นคนเหล่านั้นคงจะต้องไปพบกับยมโลกอย่างแน่นอน
“เหอะๆ ..เย่เชียนกับฉันรู้จักกันมาตั้งนานแล้ว” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดด้วยรอยยิ้ม “เย่เชียน..ฉันอยากจะคุยกับเอ็งสักหน่อย..ไปหาที่นั่งคุยกันเถอะ”
เย่เชียนเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “ปู่ไปหาที่ดื่มชารอผมก่อนก็แล้วกัน..ผมขอจัดการกับเรื่องที่นี่ก่อน..ใช่เวลาไม่นานหรอก”
“ได้ๆ ..เดี๋ยวฉันจะไปรอ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดหลังจากนั้นเขาก็จ้องเขม็งไปที่หวงฟู่เส้าเจี๋ยและพูดว่า “เส้าเจี๋ย! ..เอ็งก็มากับลุงด้วย..ฉันมีอะไรจะคุยกับเอ็ง”
หวงฟู่เส้าเจี๋ยทำหน้ามุ่ยและบุ้ยปากเล็กน้อยจากนั้นก็เหลือบไปมองเย่เชียนและเห็นว่าเย่เชียนพยักหน้าแล้วเขาก็เดินไปหาหวงฟู่ชิงเตี๋ยน ส่วนหวังปิงก็พูดกับเย่เชียนและขอให้เย่เชียนไปหาเขาที่บ้านของเขา ซึ่งความหมายในคำพูดนั้นๆ ดูคลุมเครืออย่างมากแต่เย่เชียนก็คิดแค่ว่าหวังปิงคงอยากจะคุยกับเขาเพียงเท่านั้น
เย่เชียนก็พยักหน้าเห็นด้วยจากนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและหวังปิงก็ขึ้นรถและจากไปส่วนหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ไปกับพวกเขาอย่างเชื่อฟัง
เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดออกไปหมดแล้วเย่เชียนจึงกวาดสายตาไปรอบๆ และตะโกนขึ้นว่า “เพื่อนบ้านทุกคน! ..ทุกคนคงรู้ดีว่าตงเซียงกรุ๊ปน่ะมีชื่อเสียงในเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างมาก..และเป็นผู้รับผิดชอบในโครงการบูรณะเมืองเก่าของเรา..และตงเซียงกรุ๊ปน่ะก็มีทรัพย์สินมากกว่า 100 ล้านหยวนและถึงแม้ว่ารัฐบาลจะบอกว่าพวกเขาจะช่วยทุกคนจัดการเรื่องนี้ก็จริง..แต่ก็ไม่มีใครรู้ได้ว่าผลสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง..พวกคุณคิดว่าจริงมั้ยล่ะ?”
หลังจากฟังคำพูดของเย่เชียนแล้วชาวบ้านชาวเมืองเหล่านั้นต่างก็พูดคุยกันและความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนั้นดั่งคำพูดของเย่เชียน เพราะเจ้าหน้าที่รัฐมักจะใช้อำนาจเพื่อหลอกลวงประชาชนคนธรรมดาเช่นพวกเขาอยู่เสมอและสุดท้ายรัฐบาลก็แค่มองปัญหาจากมุมมองของสถานการณ์โดยรวมเพียงเท่านั้นและไม่เคยแก้ไขเฉพาะจุดเลย


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน