เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 286

ตอนที่ 286 ล่าหัว ตอนที่ 3
เหว่ยเฉิงหลงกำลังสั่นสะท้านไปทั้งตัวและในทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสยดสยองและมืดมนและจ้องมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “แก…แก…เย่เชียน! ..แกคิดให้ดีนะ..แกรู้มั้ยว่าผลที่ตามมามันจะเป็นยังไงถ้าแกทำแบบนี้?”

“ฉันไม่สน..ฉันรู้แค่ว่าแกต้องตาย!” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มเย็นยะเยือกที่มุมปากของเขา

“อาจารย์ให้ผมทำเถอะ!” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูด

เย่เชียนส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ๆ ..ฉันจะทำเอง!” ซึ่งเหตุผลแรกก็คือเย่เชียนไม่ต้องการให้หวงฟู่เส้าเจี๋ยเข้ามาเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมซึ่งมันจะเป็นผลเสียต่ออนาคตของหวงฟู่เส้าเจี๋ย ส่วนเหตุผลที่สองก็คือความแค้นของอู๋หวนเฟิงนั้นเย่เชียนจะต้องลงมือด้วยตัวเองเพื่ออู๋หวนเฟิง เย่เชียนก็ยืนขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่พูด ส่วนตอนนี้เหว่ยเฉิงหลงก็กำลังตกอยู่ในอาการตื่นตระหนกและหวาดกลัวเพราะเขาเคยเห็นเย่เชียนจัดการกับองค์กรทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬได้อย่างง่ายดายและเขาก็รู้ดีว่าต่อหน้าเย่เชียนแล้วเขานั้นไม่สามารถสู้เย่เชียนได้เลยแม้แต่น้อยและไม่สามารถที่จะหนีไปได้เลย และไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะตอนนี้เขาไม่ได้ใส่อะไรเลยนอกจากผ้าขนที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้เพียงแค่นั้น

“เย่เชียนอย่าเพิ่ง! …ใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกันก่อน..เรามาคุยเรื่องกันอย่างใจเย็นดีกว่า!” เหว่ยเฉิงหลงพูดขณะที่ก้มหัวลง “แกต้องการเงินเหรอ..ได้ๆ ตงเซียงกรุ๊ปจะมอบให้แกทั้งหมดเลยถ้าแกไม่ฆ่าฉัน..ฉันรับปากและสัญญากับแกทุกอย่างเลย”

เย่เชียนก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆ เขาเพียงแค่ควงและโยนมีดโลหิตหมาป่าในมือขณะเดินไปหาเหว่ยเฉิงหลงอย่างช้าๆ

“แก..ฉันบอกแกไปแล้วนะว่าผลที่ตามมามันจะเป็นยังไง..แกปล่อยฉันไปเถอะ” เหว่ยเฉิงหลงอ้อนวอนและวิงวอนอย่างน่าสมเพช

มุมปากของเย่เชียนก็ยิ้มเยาะขึ้นมาทันทีและเจตนาฆ่ากับจิตสังหารก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขาและมีดโลหิตหมาป่าในมือของเขาก็ตัดผ่านอากาศราวกับดาวตกสีแดงเลือด จากนั้นดวงตาของเหว่ยเฉิงหลงก็เบิกกว้างและจับคอของตัวเองเอาไว้พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวซึ่งนั่นก็คือภาพแห่งความตายที่ฉายอยู่ภายในดวงตาของเขา เลือดที่ไหลออกมาจากคอของเหว่ยเฉิงหลงก็ไม่สามารถที่จะหยุดได้เลยและเขาก็พยายามที่จะพูดจึงอ้าปากออกมาแต่ทว่าเขาก็ไม่สามารถปล่อยเสียงพูดออกมาได้เลย

เย่เชียนนั้นไม่แม้แต่จะมองร่างอันไร้วิญญาณของเหว่ยเฉิงหลงเลยแม้แต่น้อยเพราะหลังจากที่เขาฆ่าเหว่ยเฉิงหลงเสร็จเย่เชียนก็เดินออกไปในทันที ส่วนหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เหลือบมองไปที่ศพของเหว่ยเฉิงหลงและแสยะยิ้มเล็กน้อยและเดินตามเย่เชียนไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นานพนักงานของสโมสรก็ค้นพบศพของเหว่ยเฉิงหลงอย่างรวดเร็วและไม่นานหลังจากที่เย่เชียนและหวงฟู่เส้าเจี๋ยจากไปเหล่าตำรวจก็มายังที่เกิดเหตุ ซึ่งเหว่ยตงเซียงก็ได้ทราบเรื่องนี้แล้วเช่นกันเขาจึงขับรถไปที่นั่นอย่างรวดเร็วและหลังจากที่เขาไปถึงเขาก็เห็นตำรวจนำศพลูกชายของเขาออกมาและเมื่อเขาเห็นเช่นนั้นเขาก็รีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับตะโกนว่า “เฉิงหลง..เฉิงหลงลูกพ่อ!” แต่ทว่าสิ่งที่ได้กลับมามีก็แต่ความเงียบงั้นเพียงเท่านั้น จากนั้นเจตนาฆ่าที่รุนแรงก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเหว่ยตงเซียงทันทีและเขาก็ตะโกนอย่างเคียดแค้นว่า “เย่เชียน! ..ฉัน! ..เหว่ยเฉิงหลง! ..ขอสาบานว่าฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!”

เมื่อเย่เชียนกับหวงฟู่เส้าเจี๋ยลงทัณฑ์ปลิดชีพของเหว่ยเฉิงหลงไป หลี่เหว่ยและชิงเฟิงและสมาชิกคนอื่นๆ ของเขี้ยวหมาป่าก็ได้สังหารสมาชิกอาวุโสทั้งหมดของแก๊งชิงและเครือชิงกรุ๊ปไปทีละคนๆ ซึ่งบางคนก็ตายที่บ้านของตัวเองบ้าง และบางคนก็ตายที่สนามบินบ้าง และบางคนก็ตายบนท้องถนนบ้าง ซึ่งทุกคนล้วนสิ้นชีพไปอย่างรวดเร็วและไร้ความปรานีใดๆ

ในเวลาเดียวกันเหล่าสมาชิกระดับสูงของหงเหมินกรุ๊ปต่างก็แบ่งทีมกันเป็นจำนวนมากเพื่อเข้ายึดครองพื้นที่ของแก๊งชิงและเครือชิงกรุ๊ป ซึ่งสมาชิกที่หลงเหลืออยู่ของแก๊งชิงต่างก็เป็นแค่เบื้องล่างและไม่มีอำนาจกันทั้งนั้นซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาก็หวาดกลัวกันอย่างมาก ดังนั้นจึงทำให้หงเหมินกรุ๊ปได้ครอบครองแก๊งชิงไปเกินครึ่งแล้ว

ค่ำคืนนี้เมืองเซี่ยงไฮ้ทั้งเมืองก็แทบจะถูกปกคลุมไปด้วยพายุแห่งเลือดที่โหมกระหน่ำ ซึ่งนี่ก็คือการเปลี่ยนแปลงโลกใต้ดินครั้งใหญ่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ และเชื่อว่าอีกหลายๆ ทศวรรษต่อมาบางคนก็คงจะจดจำค่ำคืนที่แสนพิเศษดั่งเช่นวันนี้ได้ไปตลอดกาล

ตู้เหลียงเฉิงเองก็รับรู้ถึงเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและเขาก็นั่งอยู่ที่เซฟเฮาส์อย่างกระสับกระส่ายและกระวนกระวายอย่างมากและเอาแต่เดินไปเดินมาอย่างร้อนรน เพราะเขานั้นไม่ได้คาดคิดเลยว่าการโจมตีของเย่เชียนและหงเหมินกรุ๊ปจะรุนแรงถึงขนาดนี้และพวกเขานั้นก็เพิกเฉยต่อผลกระทบในสังคมอย่างสิ้นเชิง และพวกเขาไม่ได้เกรงกลัวว่ารัฐบาลจะโกรธเกรี้ยวและโต้กลับโดยใช้มาตรการขั้นรุนแรงบ้างเลยหรือ?

ในทันใดนั้นตู้เหลียงเฉิงก็จำสิ่งที่เกิดขึ้นในเขตโครงการบูรณะเมืองเก่าในวันนั้นได้และมันก็ทำหัวใจของเขาหวั่นเกรงเพราะเป็นไปได้หรือไม่ที่เย่เชียนจะมีคนของทางการและรัฐบาลกลางคอยสนับสนุนเขา? หรือว่าจะนี่เป็นแผนการของรัฐบาลกลางในการกวาดล้างตงเซียงกรุ๊ปและแก๊งชิงด้วยความช่วยเหลือจากเย่เชียนกัน?

ตู้เหลียงเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจและกังวลอย่างมากเพราะไม่ว่ามันจะแบบไหนก็ตามเขาก็กลัวว่าครั้งนี้เขาจะต้องแพ้พ่ายอย่างสิ้นเชิง เพราะเหล่าสมาชิกอาวุโสของแก๊งชิงก็ถูกสังหารกันหมดเพียงชั่วข้ามคืนและหงเหมินกรุ๊ปก็เข้ามายึดครองเขตการปกคริงของพวกเขาไปจนหมด จึงทำให้ตู้เหลียงเฉิงทำอะไรไม่ถูกเลยเพราะปรากฏว่าประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายศตวรรษของแก๊งชิงต้องถูกฝังกลบดินและสูญสิ้นในมือของเขาเอง ทั้งหมดทั้งมวลมันก็เป็นเพราะตัวเขาเองที่มัวแต่โออ่าในศักดิ์ศรีและมั่นใจในตัวเองมากเกินไปจนคิดว่าเย่เชียนเป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ ที่ไม่สามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาได้

ตู้เหลียงเฉิงก็ไม่มีเวลาที่จะมาคิดอะไรมากแล้วในศึกสงครามของค่ำคืนนี้เพราะแก๊งชิงได้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แล้วและมันก็ยากนักที่จะจินตนาการว่าสถานการณ์มันจะพลิกผันกลับมาได้ ดังนั้นเขาจึงรีบเดินเข้าไปในห้องนอนและเก็บของที่มีค่าจากในตู้เซฟแล้วเดินออกไป

จากความมั่งคั่งที่สั่งสมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นตู้เหลียงเฉิงก็สามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในต่างประเทศได้อย่างสบายๆ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้เขาก็กลัวว่าเขาจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกต่อไป และตู้เหลียงเฉิงเองก็หดหู่และเศร้าใจอย่างมากและไม่คิดที่จะหวนกลับมาอีกครั้งแล้วเพราะเขาไม่ได้มีความทะเยอทะยานและความกล้าหาญเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้ว

ตู้เหลียงเฉิงรีบเดินออกไปจากเซฟเฮ้าส์และโทรไปที่สนามบินเพื่อจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งในขณะที่เขาเดินออกจากเซฟเฮาส์นั้นเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะนึกถึงหรือเสียใจอะไรอีกต่อไปแล้ว นั่นก็เพราะว่ามันเป็นเพราะเขาเองที่ดูถูกคนอื่นและประเมินตัวเองสูงมากเกินไปจนพ่ายแพ้ให้กับผู้อื่นจนเสียบัลลังก์แห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ยิ่งใหญ่ไป

“อ้าว..ท่านผู้นำสูงสุดแห่งแก๊งชิงอันยิ่งใหญ่..คุณจะไปไหนเหรอ..ทำไมถึงดูรีบร้อนขนาดนี้” ทันใดนั้นก็มีร่างคนร่างหนึ่งมาขวางทางของตู้เหลียงเฉิงเอาไว้

ตู้เหลียงเฉิงถึงกับผงะและหยุดเดินพร้อมเหลือบมองไปที่คนตรงหน้าและพูดอย่างเย็นชา “ศิษย์น้องจะมาฆ่าฉันเหรอ..อย่าลืมตำปฏิญาณตนอันศักดิ์สิทธิ์ของสำนักม่อจื๊อสิ..พวกเราห้ามทำร้ายซึ่งกันและกันไม่ใช่เหรอ”

ม่อหลงยิ้มอย่าวแผ่วเบาและพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณยังคิดว่าตัวเองเป็นศิษย์ของม่อจื๊ออยู่เหรอ..คุณไม่คู่ควรที่จะเป็นศิษย์ของม่อจื๊อเลย..ในฐานะคนทรยศคุณสมควรถูกลงโทษด้วยกริชสามเล่ม..เพราะคุณไม่ปฏิบัติตามเจ้าสำนัก! ..คุณไม่ใช่สาวกของม่อจื๊ออีกต่อไป!”

ตู้เหลียงเฉิงค่อยๆ วางกระเป๋าของเขาลงอย่างช้าๆ พร้อมกับหัวเราะอย่างเย้ยหยันและพูดว่า “โถ่ๆ ..ม่อหลงเอ๋ย..แกคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าสำนักจริงๆ งั้นเหรอ..ห๊ะ! ..ลัทธิม่อจื๊อน่ะสิ้นสลายหายไปนานแล้ว..ช่างตลกสิ้นดี..นี่ถ้าไม่เห็นแก่หน้าปู่ของแกล่ะก็ป่านนี้แกคงตายไปแล้ว..ถ้าแกคิดว่าแกมีความสามารถมากพอที่จะฆ่าฉันได้ก็ลองดู!”

ทันทีที่ตู้เหลียงเฉิงพูดจบเขาก็พุ่งไปข้างหน้าและปล่อยหมัดใส่ตรงไปที่หน้าอกของม่อหลงอย่างรุนแรง

ตอนที่ 286 ล่าหัว ตอนที่ 3 1

ตอนที่ 286 ล่าหัว ตอนที่ 3 2

ตอนที่ 286 ล่าหัว ตอนที่ 3 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน