ตอนที่ 363 ราชินีกับทาสรับใช้
เย่เชียนกลัวอะไรมากที่สุด? สิ่งที่เย่เชียนกลัวที่สุดก็คือการถูกคุกคามหรือเย้ยหยันแล้วไม่ได้โต้กลับนั่นเองเพราะยิ่งใครทำแบบนั้นกับเขามากเท่าไหร่เย่เชียนก็จะยิ่งแก้แค้นมากขึ้นเท่านั้น! ซึ่งเฉายู่เหลียงได้เย้ยหยันและเหยียดหยามเขาถึงขนาดนี้แล้วทำไมเหตุใดเย่เชียนถึงต้องไปกลัวเขาด้วยล่ะ?
ทันทีที่คำพูดของเฉายู่เหลียงจบลงเย่เชียนก็รีบวิ่งเข้าไปโดยไม่ลังเลใดๆ และต่อยกับเตะเฉายู่เหลียงทันที การที่เฉายู่เหลียงนั้นเป็นเหมือนชนชั้นสูงของสังคมที่มักจะทำตัวที่น่ารังเกียจและมักจะดูถูกเหยียดหยามคนอื่นเช่นนี้แล้วเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เชียนได้อย่างไร ซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่การต่อสู้อยู่ฝ่ายเดียวของเย่เชียนเพราะเฉายู่เหลียงนั้นไม่สามารถแม้แต่จะตอบโต้ใดๆ ได้
หลังจากนั้นไม่นานดวงตาและจมูกและทั้งใบหน้าของเฉายู่เหลียงก็ถูกบีบเข้าหากันและบวมจนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด หลังจากนั้นเย่เชียนก็ยืนขึ้นและยิ้มซูเหว๋ยแล้วพูดว่า “เขาท้าผมเองนะ..ผมก็แค่ทำตามคำท้าทายของเขาเท่านั้น”
ซูเหว๋ยก็จ้องมองไปเย่เชียนอย่างว่างเปล่าแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเธอนั้นไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ กับเฉายู่เหลียงเลยแม้แต่น้อย และไปยิ่งกว่านั้นบริษัทก็เป็นเหมือนบ้านของเธอเองที่พ่อแม่ของเธอกว่าจะสร้างให้เธอได้ถึงขนาดนี้แต่เหล่าญาติๆ กลับคิดที่จะกลืนกินบริษัทไปเธอก็เลยไม่เคยแยแสพวกเขาเลย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ซูเหว๋ยหนักใจมาโดยตลอด
เฉายู่เหลียงก็พยายามลุกขึ้นและชี้ไปที่เย่เชียนและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “แก! ..แก! ..ฝากไว้ก่อนล่ะ..ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่ายๆ”
“ยังกล้าพูดอยู่เหรอ? ..อีกสักทีดีมั้ย?” เย่เชียนทำท่ากำหมัดและเฉายู่เหลียงก็ตัวสั่นในทันทีและรีบวิ่งออกไปโดยไม่กล้าหันกลับไปมองแต่อย่างใด และเขาก็ไม่คิดสงสัยเลยว่าเย่เชียนจะต้องเอาชนะตัวเองได้อีกครั้งอย่างแน่นอน และในสายตาของเขานั้นไม่มีอะไรที่อันธพาลอย่างเย่เชียนจะทำไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อดูเฉายู่เหลียงจากไปซูเหว๋ยก็หันหน้ามองไปที่เย่เชียนและพูดแบบติดตลกว่า “นายเคยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาก่อนใช่มั้ย..นายเก่งมากเลย”
“แน่นอนอยู่แล้ว..ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้สมัยใหม่..เพื่อผดุงความยุติธรรมและกำจัดความชั่วร้าย!” เย่เชียนพูดอย่างมั่นใจ
“ถ้างั้นทำไมนายไม่มาเป็นผู้ช่วยของฉันซะเลยล่ะ..ยังไงตอนนี้นายก็ไม่มีงานทำอยู่แล้วหนิ” ซูเหว๋ยจ้องมองไปที่เย่เชียนด้วยความคาดหวังและถาม
“ไม่อะ!” เย่เชียนส่ายหัวและพูดว่า “ฉันยังไม่อยากอายุสั้นผมยังไม่อยากตาย..ถ้าผมอยู่กับคุณผมกลัวว่าผมอาจจะเป็นโรคโลหิตจางก็ได้..หรือไม่ก็สักวันผมอาจจะหัวใจวายตายน่ะ”
ซูเหว๋ยก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะและเธอก็พบว่าเย่เชียนกำลังมองหน้าอกของเธออยู่และเมื่อเห็นเช่นนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเย่เชียนอย่างดุร้ายพร้อมกับจัดเสื้อผ้าของเธอให้เขารูปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้หน้าอกของเธอถูกเปิดเผยออกมามากเกินปพลางคิดว่าถ้าเกิดหน้าออกของเธอเปิดเผยมากเกินไปอีกเย่เชียนก็คงจะเลือดกำเดาไหลออกมาอีกครั้งอย่างแน่นอน หลังจากหยุดไปชั่วขณะซูเหว๋ยก็พูดว่า “ลืมไปซะ..เพราะนายแพ้พนันฉันนายก็ต้องทำตามฉัน..และตั้งแต่ที่นายเป็นทาสรับใช้ของฉันนายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้..นายจะไม่ยอมรับหรือไง? ..และนายก็ชนะเฉายู่เหลียงอีกนายมีอะไรจะเถียงอีกมั้ย?”
เย่เชียนก็เบะปากและพูดว่า “นี่คุณไม่ได้สังเกตเห็นเลยหรอว่าที่ผมแพ้คุณก็เพราะว่าผมตั้งใจแพ้คุณน่ะ..ผมก็แค่ไม่อยากทำร้ายจิตใจของผู้หญิงเฉยๆ”
“ฉันไม่สนหรอก..ไม่ว่านายจะจงใจหรือไม่ก็ตาม..ถึงยังไงนายก็แพ้อยู่ดี..ถ้านายแพ้นายก็ต้องยอมรับมันและต้องเป็นทาสของฉันเท่านั้น!” ซูเหว๋ยพูดอย่างหนักแน่น
“ก็..การเป็นทาสมันไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก..ประเด็นก็คือคุณที่เป็นราชินีแบบนี้และคุณเลี้ยงผมเอาไว้แล้วไม่กลัวว่าผมจะกลายเป็นเสือในภายหลังหรอ”
“นายต้องเป็นผู้ช่วยฉันนั่นคืองานของนาย..นายต้องรักษาสัญญาสิ” ซูเหว๋ยพูด
“ได้! ..ผู้ช่วยใช่มั้ย..ได้เลยไม่มีปัญหา” เย่เชียนพูด “แต่คุณต้องจัดการค่าอาหารการกินและที่อยู่อาศัยของผมด้วยนะ..ตอนนี้ผมจนมากๆ เลย”
“ไม่มีปัญหาฉันจะจัดการให้นายเอง..และไม่ใช่แค่ค่าอาหารการกินและที่อยู่อาศัยเท่านั้นนะแต่ฉันจะให้เงินค่าจ้างนาย 3000 หยวนทุกๆ เดือนด้วย” ซูเหว๋ยพูดอย่างใจกว้าง
เย่เชียนก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากและเขาก็ยกนิ้วโป้งชมเชยให้ซูเหว๋ยและพูดว่า “คุณเป็นคนใจกว้างมาก..คุณเป็นคนดีจริงๆ”
“ไปกันเถอะ..ตอนนี้ไปกินข้าวกับฉันก่อนแล้วค่อยไปซื้อของกัน” ซูเหว๋ยจูงมือเย่เชียนแล้วเดินออกไป ซึ่งเย่เชียนก็ยิ้มอย่างขมขื่นให้เจ๊ฮงและปล่อยให้ซูเหว๋ยจูงมือตัวเองออกไปอย่างหมดหนทาง
ในยุคนี้มีผู้ชายจำนวนมากที่มักจะเกาะผู้หญิงกิน แต่ในกรณีของเย่เชียนนั้นไม่ใช่ซึ่งเมื่อได้รับประทานอาหารดีๆ และได้ซื้อเสื้อผ้ามากมายเช่นนี้ก็ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่อิจฉาเขาและยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนยังมีความสุขที่ได้รับการเลี้ยงดูจากสาวงามเช่นนี้ ซึ่งผู้ชายคนอื่นๆ ต่างก็แทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะไปกระชากเย่เชียนออกมาและไปแทนเขา แต่ทว่าเย่เชียนนั้นก็ค่อนข้างที่จะหน้าด้านเขาจึงไม่รู้สึกอึดอัดกับมันแต่กลับกันเขาดีและมีความสุขเสียมากกว่า
ท้ายที่สุดแล้วเย่เชียนก็ได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของซูเหว๋ยเพราะมันไม่ใช่แค่การซื้อเสื้อผ้าเพียงเท่านั้นแต่ดูเหมือนว่าเธอต้องการที่จะย้ายสินค้าทั้งหมดของห้างสรรพสินค้ากลับบ้านอย่างไงอย่างงั้น ซึ่งมันเยอะจนเย่เชียนแทบจะเป็นลมเพราะเขาไม่ได้พักหายใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสี่ทุ่มรถของซูเหว๋ยก็เต็มไปด้วยสิ่งของ ซึ่งผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากซ่งหลันอย่างมาก



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน