เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 365

ตอนที่ 365 สงครามเครือญาติ

เฉาฮงหลีก็จ้องมองไปที่ซูเหว๋ยและถามอย่างจริงจังว่า “โปรเจคที่ร่วมมือกับเดอะมัวร์กรุ๊ปไปถึงไหนแล้ว? ..เดี๋ยวฉันจะมาดูในวันพรุ่งนี้!”

“พรุ่งนี้เหรอ? ..คุณไม่ได้หมายถึงมะรืนนี้หรอเหรอ?” ซูเหว๋ยขมวดคิ้วและถามด้วยความประหลาดใจ

“อ่อ..ฉันลืมบอกเธอไป” เฉาฮงหลีพูดต่อ “ฉันเพิ่งไปพบกับประธานของเดอะมัวร์กรุ๊ปมาเมื่อวานนี้และเธอก็บอกว่าเธอจะเลื่อนแผนพิจารณางานเป็นวันพรุ่งนี้..ตอนนั้นฉันติดธุรกิจพอดีก็เลยลืมบอกเธอไป”

เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์และการแสดงออกที่ดูค่อนข้างพึงพอใจของเฉาฮงหลีแล้วเย่เชียนก็รู้ดีว่าถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจมากก็ตามแต่เขาก็รู้ได้ว่าชายชราคนนี้ต้องใช้กลอุบายเหล่านี้อยู่แล้ว ซึ่งซูเหว๋ยเองก็รู้เช่นกันเธอจึงมีสีหน้าที่มืดครึ้มเล็กน้อยแต่ในที่สุดเธอก็ระงับความโกรธในใจเอาไว้ได้และค่อยๆ พูดว่า “คุณช่วยติดต่อไปหาเดอะมัวร์กรุ๊ปอีกครั้งได้ไหมโดยบอกว่ากำหนดการอาจจะเร่งด่วนเกินไป..ทางเราขอเลื่อนไปหน่อยจะได้ไหม”

“เสี่ยวเหว๋ย! ..เธอต้องเข้าใจด้วยว่าเดอะมัวร์กรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ 20 แห่งของโลกและถ้าหากเราเลื่อนกำหนดการออกไปแล้วถ้าพวกเขาล้มเลิกการร่วมมือกับเราล่ะจะทำยังไง? ..ซึ่งถ้าเราสามารถเซ็นสัญญากับเดอะมัวร์กรุ๊ปได้สำเร็จล่ะก็บริษัทของเราจะเติบโตและก้าวหน้าอย่างมาก!” เฉาฮงหลีพูดต่อ “แต่ถ้าเธอไม่สามารถเซ็นสัญญากับเดอะมัวร์กรุ๊ปได้ล่ะก็..พวกเราในฐานะคณะกรรมการเราจะลงมติปลดเธอลงจากตำแหน่งประธานเมื่อไหร่ก็ได้!”

“ใช่! ..โปรเจคนี้มีความสำคัญต่อบริษัทมาก..ซึ่งถ้าหากบริษัทของเราไม่สามารถเซ็นสัญญาร่วมได้เราก็ต้องบังคับให้เธอออกจากตำแหน่งประธานบริหาร..ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อผลประโยชน์ของบริษัท..เธอก็รู้หนิว่าพ่อและแม่ของเธอกับพวกเราลำบากกันมาแค่ไหนว่าจะทำให้บริษัทมาถึงจุดนี้..เธอคงจะไม่อยากเห็นมันพังทลายลงหรอกใช่มั้ย?” ชายวัยกลางคนอีกคนพูดอย่างจริงจัง

นี่คือการยึดอำนาจอย่างเห็นได้ชัดจนเย่เชียนรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นเช่นนี้และยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นสงครามของเหล่าเครือญาติอีกด้วย? นี่คือการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ดั่งในละครจักรๆ วงศ์ๆ เช่นนั้น ใบหน้าของซูเหว๋ยก็ไม่สบอารมณ์จนดูน่าเกลียดผิดปกติและเธอก็หยุดและพูดว่า “บริษัทนี้เป็นของพ่อแม่ฉัน..พวกคุณคิดว่าฉันไม่รู้หรอว่าพวกคุณคิดอะไรกันอยู่..พวกคุณก็แค่อยากกลืนกินบริษัทนี้ไป..ไหนลองบอกฉันมาซิว่าพวกคุณทำอะไรให้กับบริษัทบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมานอกจากการทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์น่ะ..ฉันขอบอกพวกคุณเอาไว้ก่อนเลยนะว่าฉันจะเป็นประธานและทุกอย่างก็ต้องอยู่ในการดูแลของฉันเท่านั้น!”

อาจเป็นเพราะเธอโกรธเกินไปจึงทำให้ใบหน้าของซูเหว๋ยดูน่าเกลียดเล็กน้อยและตัวของเธอทั้งตัวก็สั่นเช่นกัน ซึ่งเย่เชียนที่เห็นเธอจากข้างๆ เขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนเด็กที่ทำอะไรไม่ถูกในตอนนี้และเธอนั้นก็กำลังต้องการไหล่ที่มั่นคงเพื่อพึ่งพาจนเย่เชียนอยากที่จะกอดเธอและมอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดให้กับเธอในตอนนี้แต่เขาก็ได้แค่เพราะเขาไม่กล้าที่จะทำมันจริงๆ เพราะถ้าหากเขาทำเขาจะต้องถูกซูเหว๋ยตบอย่างแน่นอน

ในขณะนี้เหล่าคณะกรรมการก็มีการแสดงออกที่ดูโกรธเล็กน้อยแต่พวกเขาก็รู้สึกละอายใจกันอย่างมากไปกับคำพูดของซูเหว๋ยแต่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังคงใช้ความพยายามอย่างมากในเพื่อยึดครองบริษัทดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง

เฉาฮงหลีก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันได้คุยกับเหล่าคณะกรรมการแล้ว..พวกเขาจะมอบหุ้นทั้งหมดให้ฉันในมือ..พูดให้เข้าใจก็คือฉันจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในอนาคต..เพราะฉะนั้นธุรกิจต่างๆ ของบริษัทฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง..ดังนั้นถ้าหากเธอไม่สามารถเซ็นสัญญากับเดอะมัวร์กรุ๊ปได้ในครั้งนี้ฉันจะปลดเธอลงจากตำแหน่งทันที!”

“นี่คุณ…นี่พวกคุณรวมหัวกันเพื่อกำจัดฉันงั้นหรอ? ..ฉันขอบอกเลยนะว่าฉันจะไม่มีวันยกบริษัทให้กับพวกคุณ!” ซูเหว๋ยพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

“ใช่ๆ ..บริษัททะเลสี่ทิศแห่งนี้จะไม่มีวันเป็นของพวกคุณ!” เย่เชียนเอ่ยปากพูดออกมา แต่คำพูดเหล่านั้นดูเหมือนจะเตือนเสียมากกว่า

“แกเป็นใครกันวะ..แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่?” เฉายู่เหลียงตะคอก

“เมื่อกี้คุณไม่ได้ยินที่ประธานซูพูดเหรอ? ..อ้อผมลืมไปว่าคุณคงจะหูอื้อจากเรื่องเมื่อวานนี้..ถ้างั้นผมจะพูดอีกครั้งชัดๆ นะว่าตอนนี้ผมเป็นผู้ช่วยของประธานซู!” เย่เชียนพูดต่อ “ไม่ต้องกังวลไปพรุ่งนี้เราจะทำโปรเจคตามกำหนดการให้เสร็จทันเวลาและเซ็นสัญญากับเดอะมัวร์กรุ๊ป!”

ซูเหว๋ยจ้องมองเย่เชียนด้วยความประหลาดใจอย่างมากและถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกขอบคุณเย่เชียนมาก็ตามที่ช่วยเธอแต่ถึงยังไงก็ยังมีส่วนที่สำคัญของระบบซอฟต์แวร์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เลยและมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะออกแบบซอฟต์แวร์ให้เสร็จในวันพรุ่งนี้ “คุณมัวมองอะไรอยู่ล่ะ..ผมไม่อยากเห็นหน้าคนพวกนี้แล้ว..เราไปกันเถอะ!” หลังจากพูดจบแล้วเย่เชียนก็จับมือซูเหว๋ยเดินออกไปโดยไม่สนใจเหล่าเครือญาติเลยแม้แต่น้อย ซึ่งซูเหว๋ยก็ถึงกับตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิงและเธอก็ปล่อยให้เย่เชียนจูงมือเธอออกมา

เมื่อเธอมาถึงที่ห้องทำงานส่วนตัวของซูเหว๋ยแล้วเย่เชียนก็ปล่อยมือเธอและซูเหว๋ยก็ค่อยๆ เดินไปที่ที่นั่งของเธอแล้วนั่งลงและเธอก็มองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “ขอบคุณที่ช่วยฉันนะ..ญาติๆ พวกนั้นเหมือนคนนอกกันไปหมดแล้ว..มันเศร้านิดหน่อยนะที่ต้องเธอแบบนี้”

“ผมไม่ใช่คนนอกนะ..ผมเป็นทาสรับใช้ของคุณ” เย่เชียนแกล้งหยอกแซวเธอเพื่อทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้นซูเหว๋ยก็ยิ้มแต่ทว่าเธอกลับมีรอยยิ้มที่ขมขื่นและพูดว่า “ถึงคุณจะช่วยฉันเอาไว้ก็จริง..แต่ว่านะระบบซอฟต์แวร์น่ะมันไม่ได้ง่ายอย่างงั้นน่ะสิ” ซูเหว๋ยถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ และโทรศัพท์ไปหาเลขาแล้วพูดว่า “เข้ามาหน่อย!” พร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง

ไม่นานนักเลขาก็เคาะประตูและเดินเข้ามาและซูเหว๋ยก็พูดว่า “ไปบอกทุกคนว่าตอนนี้ให้เร่งทำโปรเจคระหว่างเดอะมัวร์กรุ๊ปก่อน..และขอให้ทุกคนทำงานหนักในคืนนี้และทำงานนอกเวลาเพื่อให้ซอฟต์แวร์เสร็จ..เดี๋ยวฉันจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้สามเท่า”

“ได้ค่ะ!” เลขาตอบแล้วเดินออกไป

หลังจากนั้นซูเหว๋ยก็มองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “นายขับรถของฉันกลับบ้านไปก็ได้..ฉันจะอยู่ที่บริษัทคืนนี้”

“ผมจะอยู่กับคุณ” เย่เชียนพูด “ถึงแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์เหล่านี้ก็เถอะ..แต่อย่างน้อยๆ ผมก็สามารถเสิร์ฟชาและอาหารให้คุณได้นะ”

ซูเหว๋ยก็จ้องมองเย่เชียนด้วยความยินดีและดวงตาของซูเหว๋ยก็เป็นประกายแวววาวและเธอก็สำลักคำพูดออกมาว่า “ขอบคุณนะ!”

ตอนที่ 365 สงครามเครือญาติ 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน