ตอนที่ 371 สงครามภายในบริษัททะเลสี่ทิศ
ถ้าพูดในแง่ของความชอบนั้นเย่เชียนชอบจ้าวหยามากกว่าเพราะเขาก็แค่ชอบซูเหว๋ยเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้น แต่หลังจากได้รับรู้เรื่องราวของซูเหว๋ยแล้วเย่เชียนก็ไม่อยากที่จะทำร้ายเธอและถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ชอบเธอมากนักแต่บางครั้งผู้หญิงก็อยากได้รับความรักเหมือนผู้ชาย ซึ่งถ้าเย่เชียนบอกตรงๆ ว่าเขาชอบจ้าวหยาล่ะก็ซูเหว๋ยก็ต้องเศร้ามากอย่างแน่นอน
สำหรับจ้าวหยานั้นถ้าหากเธอโกรธเย่เชียนก็สามารถอธิบายให้เธอฟังได้ทีหลังเพราะเขาเชื่อว่าจ้าวหยาไม่ใช่คนที่ไม่รู้อะไรถูกอะไรผิดและสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผลและเธอก็จะเข้าใจการกระทำของเย่เชียนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามจ้าวหยาเองเธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากและถ้าเธอรู้สถานการณ์ของซูเหว๋ยเธอก็จะไม่พูดอะไรเป็นแน่
แต่พูดตามตรงเลยว่าเย่เชียนเองก็ไม่ค่อยร้เกี่ยวกับซูเหว๋ยเลยและนี่ก็เป็นเรื่องปกติที่เวลาผู้ชายคนไหนที่เห็นสาวสวยก็จะมีความคิดที่ฟุ้งซ่าน ดังนั้นบางสิ่งบางอย่างก็ต้องพูดอย่างรอบคอบ
ผู้หญิงอย่างซูเหว๋ยนั้นมีหน้าตาและรูปลักษณ์ที่ร้อนแรงซึ่งมีเสน่ห์อย่างมากกับผู้ชาย โชคดีที่เป็นเวลาทำงานในขณะนี้และมีคนไม่มากในบาร์มิฉะนั้นการได้ยินบทสนทนาระหว่างจ้าวหยาและซูเหว๋ยก็อาจจะดูไม่ดีอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้มีความคิดใดๆ ในตอนนี้เพราะเขาแค่คิดว่ามันเป็นเพียงแค่การทรมานเขาและเขาก็ต้องการที่จะยุติเรื่องพวกนี้ จ้าวหยาและซูเหว๋ยก็นั่งอยู่ข้างหน้าพวกเขาด้วยความไม่เต็มใจและกลัวว่ามันจะไม่ง่ายเลยที่จะหาข้อแก้ตัวใดๆ
แต่คำพูดของเย่เชียนนั้นก็มีผลในการยับยั้งพวกเธอทั้งสองคน และเมื่อเห็นการแสดงออกของพวกเธอแล้วหินในใจของเย่เชียนก็ถูกปล่อยลง
“แล้วนายจะบอกได้ยังว่านายชอบใคร?” หญิงสาวทั้งสองถามอย่างพร้อมเพรียงกันและหลังจากอึ้งไปชั่วขณะดวงตาทั้งสี่ก็จ้องมองไปที่เย่เชียนอย่างเลื่อนลอยด้วยความคาดหวังในดวงตาของพวกเธอ
“ทำไมพวกเธอถึงได้อยากให้ฉันพูดนักล่ะ?” เย่เชียนก็เงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “การรักใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องพูดเสมอไปหรอกนะ”
“ก็ไม่ต้องพูด!” หญิงสาวทั้งสองพูดพร้อมเพรียงกันอีกครั้งจนเย่เชียนแน่นิ่งไปชั่วขณะและสงสัยว่าทำไมพวกเธอถึงได้สามัคคีกันถึงขนาดนี้ จ้าวหยาและซูเหว๋ยก็ดูเหมือนจะตระหนักถึงสิ่งนี้เช่นกันและพวกเธอก็เหลือบมองหน้ากันแล้วหันไปมองเย่เชียนราวกับว่าพวกเธอไม่สบอารมณ์เย่เชียนกันอย่างมาก
“นี่เป็นคำถามที่จริงจังมากจริงๆ ..แล้วถ้าพวกเธอรู้คำตอบกันอยู่แล้วทำไมต้องมาถามฉันล่ะ?” เย่เชียนพูดอย่างคลุมเครือและหวังว่าเขาจะผ่านมันไปได้และค่อยอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ในภายหลัง
แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะจ้าวหยาและซูเหว๋ยนั้นมุ่งมั่นที่จะได้รับคำตอบที่เป็นบวกและแน่นอนกับเย่เชียนในวันนี้แทนที่จะเป็นคำพูดที่คลุมเครือเช่นนี้
ซูเหว๋ยก็อ้าปากค้างและเมื่อเธอกำลังจะพูดโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นและถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจแต่เธอก็ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและรับมัน หลังจากรับสายแล้วใบหน้าของซูเหว๋ยก็ค่อยๆ มืดมนทันทีและหลังจากนั้นไม่นานเธอก็วางสายไป
เมื่อเห็นการแสดงออกของซูเหว๋ยเปลี่ยนไปเย่เชียนก็รู้ว่ามันเกิดอะไรบางอย่างขึ้นและถามอย่างเร่งรีบว่า “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” จ้าวหยาเองก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลขนาดนั้นเพราะหลังจากเห็นซูเหว๋ยรับโทรศัพท์ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปและจ้าวหยาเองก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อโจมตีเธอเพียงแต่มองไปที่เธออย่างใจเย็น
เย่เชียนก็รู้สึกขอบคุณคนที่โทรมาเมื่อกี้นี้เพราะเขาคาดว่าซูเหว๋ยจะไม่มีความคิดที่จะทะเลาะกับจ้าวหยาอีกต่อไปและจ้าวหยาเองก็ไม่รั้งซูเหว๋ยเอาไว้ ดังนั้นเรื่องต่างๆ ก็ต้องแก้ไขในภายหลังเท่านั้น
“บริษัทโทรมาและบอกว่าราคาหุ้นของเราถูกปั่นป่วนและตอนนี้ราคามันก็ลดลงเหลือแค่ห้าหยวนต่อหุ้นแล้ว” ซูเหว๋ยพูดต่อ “ฉันต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด!”
เย่เชียนก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า “บริษัททะเลสี่ทิศเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือเปล่า”
“ใช่!” ซูเหว๋ยพูด “แต่หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือของคณะกรรมการของเรา..หุ้นของฉันคือ 40% และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ รวมกันก็เป็น 40% ส่วนอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์อยู่ในมือของนักลงทุน..เอาล่ะฉันต้องรีบกลับไป”
“อืมไปเถอะ” เย่เชียนพูด ในเวลานี้เย่เชียนจะไม่รั้งเธอเอาไว้ ประการหนึ่งเขาไม่ต้องการให้เธอและจ้าวหยาทะเลาะกันอีกต่อไปและประการที่สองมีบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้นกับบริษัทนั่นเอง
เย่เชียนก็แทบไม่ต้องคิดเลยว่าใครเป็นคนทำซึ่งมันจะต้องเป็นเฉาฮงหลีเพราะเขาเห็นว่าซูเหว๋ยได้เซ็นสัญญากับเดอะมัวร์กรุ๊ปสำเร็จและเขาก็ไม่สามารถใช้สิ่งนี้เพื่อบังคับให้ซูเหว๋ยก้าวลงจากตำแหน่งได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ปั่นราคาหุ้นของบริษัทจากนั้นเขาก็เอาหุ้นอื่นๆ ทั้งหมดมาไว้ในมือของเขาบวกกับหุ้นหมุนเวียนอยู่ภายนอก 20 % ของหุ้นทั้งหมด จากนั้นเฉาฮงหลีก็จะมีหุ้น 60% และหลังจากนั้นเฉาฮงหลีก็จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท และแน่นอนว่าซูเหว๋ยนั้นจะไม่มีสิทธิ์อีกต่อไป และบริษัททะเลสี่ทิศก็จะตกเป็นของเฉาฮงหลีไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อเห็นซูเหว๋ยจากไปจ้าวหยาก็มองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “ทำไมนายถึงไม่ไปช่วยเธอล่ะ?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน