เมื่อได้ยินคำพูดของเหว่ยเฉินหลง การแสดงออกของฉินหยูก็กลายเป็นหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์อย่างมาก จากนั้นเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ขอโทษทีนะ… แต่ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่”
เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าเหว่ยเฉินหลงไม่รู้จริง ๆ ว่าฉินหยูเกลียดเขา หรือเขาแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้ม ขณะที่เขายังคงดื้อดึงพูดว่า “ไม่มีปัญหา… ผมรอได้!”
เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็ฉีกยิ้มแล้วเดินไปหาฉินหยู “หยูหยู่… เขาคนนี้เป็นใครงั้นเหรอ ?”
เมื่อฉินหยูได้ยินคำพูดที่ดูเป็นกันเองของเย่เชียน เธอก็ตกตะลึง แต่เธอก็สามารถเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็วว่าเย่เชียนกำลังพยายามจะช่วยเธอ เธอจึงเล่นไปตามน้ำและตอบว่า “ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้จักเขาหรอก!”
การแสดงออกของเธอที่มีต่อเหว่ยเฉินหลงนั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างยิ่งยวด
เหว่ยเฉินหลงตกตะลึง สายตาของเขามองไปทางเย่เชียนอย่างช่วยไม่ได้ เหว่ยเฉินหลงไม่ใช่คนโง่ เมื่อเขาเห็นว่าฉินหยูไม่ได้ตำหนิเย่เชียนเหมือนที่เธอเคยตำหนิเขาอย่างโกรธเคืองที่เรียกเธอด้วยชื่อเล่น เขาก็รู้ทันทีว่าจุดยืนของเขานั้นอยู่ต่ำกว่าเย่เชียน เขาคิดหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองได้รับการยอมรับจากฉินหยูมานานแล้ว แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่ใช้ได้ผลเลย และเขาก็รู้สึกโกรธเคืองที่เธอมีคนใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกในตอนนี้ เขาพูดกับเย่เชียนว่า
“สวัสดี! ฉัน เหว่ยเฉินหลง… แล้วคุณล่ะ ?”
หากฉินหยูไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เย่เชียนแล้วล่ะก็ เหว่ยเฉินหลงคงจะจัดการกับเย่เชียนไปแล้วอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเหว่ยเฉินหลงต้องการสร้างความประทับใจที่ดีกับฉินหยู เขาจึงต้องทำตัวเหมือนสุภาพบุรุษเอาไว้
และแน่นอน เย่เชียนรู้ว่าเหว่ยเฉินหลงนั้นเสแสร้งแกล้งทำเป็นสุภาพ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่เต็มใจปล่อยให้ผู้หญิงที่ตนชอบไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่น ? เย่เชียนจึงหัวเราะและตอบว่า
“ผม เย่เชียน… เป็นแฟนของหยูหยู่ ผมได้ยินมาว่าคุณช่วยดูแลหยูหยู่มาระยะหนึ่งแล้ว ผมต้องขอบคุณคุณมาก”
ถึงแม้ว่าฉินหยูจะยอมให้เย่เชียนเรียกเธอว่าหยูหยู่เพื่อที่จะช่วยเธอแล้ว แต่เมื่อเธอได้ยินเย่เชียนเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนของเธอ ร่างกายของเธอก็แข็งทื่ออย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เธอต้องการให้เหว่ยเฉินหลงจากไป เธอจึงไม่ได้พูดอะไรโต้แย้งหรือตำหนิเย่เชียน
เมื่อเหว่ยเฉินหลงเห็นว่าฉินหยูได้แต่เงียบและไม่ได้โต้แย้งอะไร มันก็เป็นการยืนยันแล้วว่าสิ่งที่เย่เชียนพูดมาเป็นเรื่องจริง ซึ่งมันทำให้ความโกรธของเหว่ยเฉินหลงนั้นพุ่งทะลุหัวใจของเขาทันที เขากัดฟันขณะที่พยายามควบคุมความโกรธเอาไว้ จากนั้นก็ยิ้มและกัดฟันพูดว่า “ฮ่า ๆ ๆ ไม่เป็นไร… ช่วย ๆ กันน่ะ”
เย่เชียนหัวเราะและไม่สนใจสีหน้าของเหว่ยเฉินหลง “ฮ่า ๆ คุณเหว่ย… ว่าแต่คุณเถอะ คุณยังไม่มีแฟนเหรอ ? ให้ผมบอกให้หยูหยู่ของผมแนะนำใครสักคนให้คุณรู้จักเอาไหม ? ฮ่า ๆ ๆ แต่ผมคิดว่ามันคงไม่จำเป็นหรอก เพราะคุณเหว่ยออกจะดูดีมากซะขนาดนี้ ผมว่าคุณจะต้องพบใครสักคนเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอนเลยใช่มั้ย ?”
ถึงแม้ว่าคำพูดของเย่เชียนจะดูธรรมดามากราวกับว่าเขากำลังพูดคุยกันในเรื่องปกติของคนทั่วไป แต่เมื่อเหว่ยเฉินหลงได้ยินคำพูดนั้น มันก็เหมือนกับว่าเย่เชียนกำลังตบหน้าเขาฉาดใหญ่ เขาไม่เชื่อว่าเย่เชียนจะไม่รู้ไม่เห็นว่าคนที่เขาชอบคือฉินหยู
เหว่ยเฉินหลงกล้ำกลืนความโกรธที่ผุดขึ้นมาในใจลงไปและคิดกับตัวเองว่า ‘ไอ้เด็กนี่อย่าพอใจกับตัวเองให้มากนัก ไม่ช้าก็เร็วฉันคนนี้จะสอนบทเรียนให้กับแกอย่างหนักหนาสาหัสเอง’ แต่เขาก็ยังเสแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษที่ดูสุขุมอยู่ ซึ่งถ้าเย่เชียนอ่านคนไม่เก่ง เขาก็คงจะหลงเชื่อไปอย่างง่ายดายว่าพ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ใจกว้างมาก

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน