ฉินหยูเคยชินกับคำพูดที่เยินยอปากหวานของเย่เชียนแล้ว เธอได้แต่ยิ้มอยู่ในใจและเธอก็พูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อนายเป็นบอดี้การ์ดของจ้าวหยาได้… งั้นนายก็มาเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันด้วยอีกคนเลยสิ เดี๋ยวฉันจะจ้างนายเอง”
“จริงเหรอ ? คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ไหม ?” เย่เชียนถาม
“แน่นอนสิ ฉันดูเหมือนคนที่ชอบล้อเล่นหรือไง ?”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก แต่หลังเลิกเรียนล่ะ ? ผมน่ะไม่สามารถปกป้องทั้งคุณทั้งจ้าวหยาพร้อมกันทั้งคู่ได้หรอกนะ” เย่เชียนพูดอย่างจริงจัง
ฉินหยูยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดว่า “จะบอกอะไรให้ ที่จริงแล้วฉันกับจ้าวหยาน่ะ เราสนิทกัน อีกอย่าง เราสองคนก็อยู่บ้านเดียวกันด้วย หึ ๆ! ไงล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วนายจะว่ายังไง ? นายจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันอีกคนด้วยไหม ?”
สิ่งที่ฉินหยูเพิ่งจะพูดออกมานั้นอยู่เหนือความคาดหมายเย่เชียนไปมาก สนิทกัน ? อยู่บ้านเดียวกัน ? เขาเริ่มงงจึงต้องถามเธอไปด้วยความตกตะลึง “ว่าไงนะ ? คุณพูดจริงเหรอ ?”
“อ้าว…! ก็จริงสิ ทำไมฉันต้องโกหกนายด้วยล่ะ ?” ฉินหยูตอบ
“ถ้างั้น… ผมจะพิจารณาดูละกัน แต่ว่า… อ้อ ตกลง… ผมตกลง!” เย่เชียนฉีกยิ้มขณะที่เขาโพล่งออกมา ทีแรกเขากะจะคิดดูก่อน แต่พอเขานึกถึงอะไรบางอย่างได้ จึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลง
ฉินหยูมองเย่เชียนอย่างงุนงงและพูดว่า
“เป็นอะไรไป นายกังวลเรื่องเงินเหรอ ? นายไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก เดี๋ยวฉันจะตอบแทนให้อย่างงามเลย”
เย่เชียนแสยะยิ้มและพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “แหมคุณ… เรามันคนกันเองหน่า ผมคิดแค่สองสามหมื่นหยวนต่อเดือนก็พอแล้ว หึ ๆ ๆ”
“นายนี่มันพูดเกินตัวจริง ๆ ค่าว่าจ้างของบอดี้การ์ดมันอยู่ที่ห้าพันหรือไม่เกินหนึ่งหมื่นหยวนต่อเดือนเองนะ”
“คุณพูดจะแบบนั้นได้ไง ? คุณไม่สามารถเอาผมไปเปรียบเทียบกับบอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ได้ ผมเป็นคนที่มีฝีมือแล้วก็เชี่ยวชาญมาก” เย่เชียนยืดอกพูดอย่างภูมิใจในตนเอง
ฉินหยูไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงิน และนอกจากนี้เธอก็รู้ว่าเย่เชียนกำลังแกล้งหยอกเธอเพียงเท่านั้น เธอรู้ว่าถึงเธอจะไม่ได้จ่ายค่าว่าจ้างให้เขาก็ตาม ผู้ชายคนนี้ก็จะไม่เรียกร้องหรือไม่ตำหนิอะไรเธอเลย
“ว่าแต่… ตอนนี้น่ะ นายตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่ต้องถูกสืบสวนคดีฆาตกรรมอยู่นะ แต่ดูท่านายจะไม่ได้กังวลอะไรเลย ไม่กลัวบ้างเลยหรือไง ?” ฉินหยูเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาและถามอย่างเป็นห่วง
“ผมไม่กลัวหรอก… ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิด ผมจะกลัวไปทำไม ?” เย่เชียนพูดอย่างเย็นชา
“ถ้านายไม่ได้เป็นคนทำ มันก็มีอยู่แค่สองอย่าง อย่างแรก พวกเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้ตัวผิด แต่โอกาสที่จะเป็นแบบนั้นค่อนข้างน้อย ส่วนความเป็นไปได้อีกอย่างก็คือ มีใครบางคนต้องการกำจัดนายและล้อมกรอบนายให้จนมุม ดูเหมือนว่านายจะไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะ” ฉินหยูพูดอย่างถี่ถ้วน
เย่เชียนยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ผมเพิ่งจะกลับมาที่ประเทศจีน ผมจะไปทำอะไรให้ใครขุ่นเคืองหรือไปยั่วยุใครได้ยังไงล่ะ ? ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะบกพร่องในหน้าที่เท่านั้นแหละ”
ฉินหยูยิ้มอย่างเฉยเมย “แหม ถึงขนาดนี้แล้วนายไม่จำเป็นต้องมาทำเสแสร้งต่อหน้าฉันแล้วมั้ง บอกมาตามตรงเถอะ”
เย่เชียนหัวเราะ เขาโน้มตัวไปข้าง ๆ หูของฉินหยูและกระซิบว่า
“หยูหยู่… ผมรู้สึกว่าคุณจะรักผมมากขึ้นทุกที ๆ ทำดีกับผมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำไมเราไม่ไปสำนักงานเขตแล้วจดทะเบียนสมรสกันในวันพรุ่งนี้ซะเลยล่ะ ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินหยูก็จ้องมองเย่เชียนอย่างตกตะลึงและทำอะไรไม่ถูก แต่จากนั้นเย่เชียนก็พูดต่อโดยไม่มีรอให้เธอตำหนิติเตียนเขา


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน