ตอนที่ 704 ยึดอำนาจ ตอนที่ 2
ทุกประเทศต่างก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปซึ่งชาวญี่ปุ่นมักจะสนับสนุนให้ผู้ที่อ่อนแอเคารพผู้ที่แข็งแกร่งกว่าและผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถครอบครองคนที่ตนรัก
ดังนั้นในมุมมองของคาเอดะแล้วตราบใดที่เขาเอากำจัดเย่เชียนได้ซ่งหลันก็จะตกอยู่ในกำมือของเขาและสักวันเธอจะต้องรักเขาอย่างแน่นอนเพราะความรักเป็นสิ่งหรูหราที่คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่คู่ควร อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงระหว่างซ่งหลันกับเย่เชียนได้เลย มันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเปลี่ยนไปได้ง่ายๆไม่เช่นนั้นซ่งหลันคงจะไม่รอเย่เชียนและรอคอยมาจนถึงวันนี้และจะไม่อยู่เคียงข้างเย่เชียนโดยปราศจากการตำหนิหรือเสียใจเลยเมื่อเย่เชียนมีผู้หญิงมากมาย
เย่เชียนนั้นไม่ได้รีบที่จะกำจัดคาเอดะเพราะเขาสังเกตเห็นดวงตาของนากาซาวะเคโกะและรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะมีแผนการบางอย่างพร้อมกับรอยยิ้มแห่งชัยชนะที่ปรากฏออกมาอย่างเต็มที่โดยไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเย่เชียนจึงรู้สึกได้ว่าสถานการณ์ในวันนี้เป็นสิ่งที่นากาซาวะเคโกะคาดหวังที่จะได้เห็นและเกรงว่าเธอกำลังรอโอกาสนี้อยู่
ในความมืดหลินเฟิงก็เฝ้าสังเกตการณ์เคลื่อนไหวทั้งหมดและบางครั้งเขาก็สังเกตการณ์ต่อสู้ระหว่างเหล่านินจาจากตระกูลฟูมะและตระกูลฮัตโตริ เนื่องจากฟูมะฮายาคุจิไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันนี้เขาจึงเตรียมเหล่าลูกศิษย์นินจาอยู่ที่บ้านไม่มากนัก ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าในตอนนี้นินจาจากตระกูลฮัตโตริได้เปรียบกว่ามาก
สำหรับนากาซาวะเคโกะแล้วหลินเฟิงเองก็สงสัยมานานแล้วว่าเธอจะเป็นสมาชิกขององค์กรลึกลับอย่างสำนักชาโด้ซากุระหรืเปล่า ดังนั้นหลินเฟิงจึงให้ความสนใจนากาซาวะเคโกะเป็นอย่างมากและยังคงจ้องมองการแสดงออกของเธออย่างไม่ลดละ แน่นอนเย่เชียนสามารถสังเกตเห็นสีหน้าที่ดูพึงพอใจของนากาซาวะเคโกะได้จนอดคิดไม่ได้ว่า ‘ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นพวกชาโด้ซากูระจริงๆ..แต่เธอมาแฝงตัวอยู่ในสำนักนินจาอิงะเพื่ออะไร?..เธออยากกำจัดสำนักนินจาอิงะงั้นเหรอ?’
ขณะที่หลินเฟิงกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็ไม่รู้ตัวเลยว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยเข้ามาอยู่ข้างๆเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเห็นเช่นนั้นหลินเฟิงก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ไป๋ฮวย..นายมาทำอะไรที่นี่?”
ไปฮ๋วยก็ยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “ตอนนี้พวกเรากำลังร่วมมือกันอยู่เพราะงั้นฉันมาที่นี่ไม่ได้เหรอ..จะให้ฉันมองดูพวกนายตายไปต่อหน้าต่อตางั้นหรอ..ฉันเตือนเย่เชียนไปแล้วว่าอย่าไปยั่วยุสำนักนินจาอิงะในตอนนี้แต่เขาไม่ฟัง”
หลินเฟิงก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะไป๋ฮวยคนนี้มักจะปากแข็งแต่ก็ใจอ่อนอยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากไป๋ฮวยไม่สนใจเย่เชียนล่ะก็เขาจะไม่โผล่มาในวันนี้และไม่สนใจว่าเย่เชียนจะออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยได้หรือเปล่า อย่างไรก็ตามเขาก็มาอยู่ดีซึ่งเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าไป๋ฮวยนั้นกังวลเกี่ยวกับเย่เชียนแค่ไหนและคำพูดในปากของเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพูดที่อ้อมค้อม “ฉันคิดว่าเย่เชียนคงจะมีแผนการบางอย่าง..ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งสำนักนินจาอิงะวุ่นวายมากเท่าไหร่มันก็จะมีประโยชน์ต่อเรามากขึ้นเท่านั้น..สิ่งที่เย่เชียนทำอยู่มันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายสักหน่อย” หลินเฟิงพูด
“พวกสมาคมมังกรดำต้องการสงบศึกกับตระกูลนินจาทั้งหมดเอาไว้ชั่วคราว..อย่างไรก็ตามเงื่อนไขก็คือต้องมีใครจับเย่เชียนและมอบตัวเย่เชียนให้กับพวกเขา..เพราะงั้นฉันจึงคิดว่าฟูมะฮายาคุจิจึงต้องการแสดงความจงรักภักดีต่อเบื้องบน” ไป๋ฮวยพูด
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฟูมะฮายาคุจิทำแบบนี้..ปรากฏว่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง” หลินเฟิงพูดต่อ “ฉันคิดว่าฮัตโตริชิฮิโระก็น่าจะรู้เรื่องนี้แล้วเช่นกันเพราะงั้นเขาจึงมาที่นี่เพื่อกำจัดฟูมะฮายาคุจิในวันนี้”
ไป๋ฮวยก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ท้ายที่สุดแล้วฟูมะฮายาคุจิกับฮัตโตริชิฮิโระก็ต้องตายอยู่..เพราะดันโซบายาชิได้เตรียมการสิ่งต่างๆเอาไว้หมดแล้ว”
หลินเฟิงก็ถึงกับผงะและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ไป๋ฮวยนายหมายถึงดันโซยาบาชิอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้อย่างงั้นเหรอ?”
ไป๋ฮวยก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันไปสืบข่าวฝั่งของดันโซบายาชิมาแล้วพบว่าตอนนี้เขาจัดเตรียมคนเอาไว้แล้ว..ดูเหมือนว่าเขาต้องการใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายในวันนี้เพื่อกำจัดฟูมะฮายาคุจิและฮัตโตริชิฮิโระไปพร้อมๆกันในคราวเดียว”
“ไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อเห็นการแสดงออกของนากาซาวะเคโกะเป็นแบบนั้น..ดูเหมือนว่าเธอจะติดต่อดันโซบายาชิและเมื่อเห็นว่าฟูมะฮายาคุจิกับฮัตโตริชิฮิโระเริ่มขัดแย้งกันแบบนี้ดันโซบายาชิจึงส่งคนมากำจัดพวกเขาทั้งสอง” หลินเฟิงส่ายหัวแล้วพูดว่า “นี่สินะพิษสงแห่งความงามดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องโกหกเลย..เพราะทั้งฟูมะฮายาคุจิทั้งฮัตโตริชิฮิโระและดันโซบายาชิต่างก็ถูกผู้หญิงคนนี้หลอก..มันช่างไร้สาระจริงๆ”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหลินเฟิงก็พูดว่า “ไป๋ฮวย..นายคิดว่าเราควรทำยังไงต่อ?”
ไป๋ฮวยก็เหลือบมองไปทางเย่เชียนแล้วพูดกับหลินเฟิงว่า “ดูจากปฏิกิริยาของเย่เชียนแล้วฉันคิดว่าเขาเองก็น่าคาดเดาสถานการณ์ในตอนนี้ได้เหมือนกัน..ฉันคิดว่าเขารู้ว่าต้องทำยังไงเพราะงั้นเราก็แค่รอดูจนกว่าเย่เชียนจะให้สัญญาณพวกเรา..นอกจากถ้าพวกเราออกไปตอนนี้ล่ะก็พวกนั้นก็จะไหวตัวทัน..ดังนั้นเราจึงต้องรอพวกดันโซบายาชิปรากฏตัวออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง”
หลินเฟิงก็หันไปมองไป๋ฮวยและพยักหน้าเพราะแอบคิดว่าไป๋ฮวยนั้นรู้จักเย่เชียนดีที่สุดและเย่เชียนเองก็รู้จักไป๋ฮวยดีเช่นกันดังนั้นถ้าหากสองคนนี้ยังคงร่วมมือกันได้ตลอดไปผลลัพธ์สุดท้ายมันจะเป็นอย่างไร? หลินเฟิงนั้นก็คิดว่ามันคงจะไม่มีศัตรูใดๆในโลกใบนี้ที่พวกเขาไม่สามารถรับมือได้ ซึ่งเป็นเพียงแค่ว่าความคับข้องใจระหว่างไป๋ฮวยกับเย่เชียนนั้นไม่ง่ายนักที่จะกำจัดนัก



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน