เย่เชียนเดินไปที่เปียโนและนั่งลง เขาเคาะไมโครโฟนเบา ๆ อยู่สองสามที จากนั้นก็พูดอย่างลื่นไหลว่า “ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านครับ… ขอเชิญรับฟังบทเพลงที่ผมกำลังจะเล่นต่อจากนี้… ซึ่งผมขอมอบให้กับผู้หญิงที่ผมรักและผมขอให้เธองดงามเฉกเช่นนี้ไปตลอดสามภพเจ็ดชั่วอายุคน ผมขอให้ความรักของเราคงอยู่ตลอดกาล ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์…”
เย่เชียนไม่ได้เอ่ยชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นที่เขาพูดถึงเป็นใคร เขาเพียงแต่กวาดสายตาอย่างช้า ๆ ไปที่ฉินหยู จากนั้นก็จ้าวหยา แล้วก็ตามด้วยหูวเค่อ
หญิงสาวทั้งสามคนอดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในภวังค์อันแสนโรแมนติกจากการแสดงออกของเย่เชียน พวกเธอแต่ละคนนั้นรู้สึกได้ว่าดวงตาของเย่เชียนกำลังจ้องมองมาที่เธอ และหัวใจของพวกเธอก็เริ่มหวั่นไหวและใจก็เต้นแรงอยู่ในอกอย่างไม่เป็นจังหวะ
ฉินหยูมีความสุขมาก แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็รู้ว่าต่อให้เย่เชียนพูดได้อย่างลื่นไหลเพียงใด เอาเข้าจริงเธอก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นเป็นความจริงจากใจหรือเปล่า
ส่วนจ้าวหยา ลูกสาวสุดที่รักของประธานบริษัทเทียนหยากรุ๊ปอย่างจ้าวเทียนห่าวนั้น ไม่เพียงแต่เธอจะทั้งสวยและมีฐานะดี แต่เธอยังมีทั้งพรสวรรค์และความเยาว์วัย ดังนั้นเธอจึงเคยได้ยินคำพูดแบบนี้มาก่อนจากพวกผู้ชายเพียบพร้อมทั้งหลายที่เข้ามาจีบเธอ แต่เมื่อเธอได้ยินเย่เชียนที่สารภาพความรู้สึกของเขาต่อสาธารณชนในครั้งนี้ เธอกลับรู้สึกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง มันทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอนึกถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างตัวเธอเองกับคนขี้โกงจอมฉวยโอกาสคนนี้และคิดว่าเขาทำเพื่อความสนุกไม่ได้ออกมาจากใจจริง จ้าวหยาก็ถูกดึงกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริงทันที
ทว่าในขณะเดียวกัน หูวเค่อนั้นกำลังอ่อนไหวไปกับทุกถ้อยคำที่เย่เชียนพูดออกมา เธอทั้งเพียบพร้อมและงดงามปานนางฟ้า แต่กลับไร้ซึ่งคู่ครองที่เหมาะสมสำหรับเธอ หูวเค่อเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก และเธอเองก็ไม่เคยพบเจอใครที่เป็นเหมือนกับเย่เชียนมาก่อนในชีวิต เธอจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงมองมาที่เธอและเรียกเธอว่าเป็นคนที่เขารักทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันแรกที่เธอกับเขาได้พบกันเท่านั้น
อันที่จริงเธอเองก็แอบเสียดายอยู่เล็กน้อยที่เธอเพิ่งจะเคยพบเจอกับเขา เธอแอบคิดในใจว่า… ถ้าหากเย่เชียนไม่ได้มีใจให้เธอ เขาก็อาจจะพยายามเข้าหาเธอเพราะจ้าวหยาก็เป็นได้
ทางด้านเย่เชียนนั้นไม่รู้เลยว่าหญิงสาวทั้งสามกำลังคิดอะไรกันอยู่ ที่เขาพูดคำเหล่านั้นออกไปก่อนหน้านี้ก็เพียงเพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้แขกเพลิดเพลินไปกับงานเหมือนกับที่เขาเคยเห็นในละคร ในละครมักจะมีฉากที่ชวนเคลิบเคลิ้มเหล่านี้อยู่เป็นประจำ เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าผู้หญิงทั้งสามคนจะมีความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นมาภายในหัวใจของพวกเธอ
หลังจากเกริ่นนำจบแล้ว นิ้วของเย่เชียนก็เริ่มเคลื่อนผ่านลิ่มเปียโนไปอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นไม่นาน สถานที่แห่งนี้ก็เข้าสู่ความเงียบสงบไร้เสียงคนคุยกันจอแจ มีเพียงเสียงร้องเพลงอันไพเราะของเย่เชียนกับเสียงเปียโนเท่านั้นที่ดังออกมา
เพลงที่เย่เชียนร้องคือเพลง ‘Li Xiang Lan’ ของ Jacky Cheung ท่วงทำนองที่ออกมาจากปากของเขานั้นราวกับเสียงแห่งสวรรค์ เย่เชียนบรรเลงไปด้วยความน่าหลงใหลและเศร้าโศกในคราวเดียวกัน ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่โศกเศร้าและเผยให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เพลงที่เขาร้องได้นั้นมีเพียงไม่กี่เพลงและเพลงนี้ก็เป็นเพลงเดียวที่เขาสามารถบรรเลงมันด้วยเปียโนได้ เพราะเขาเคยได้รับภารกิจหนึ่งที่ต้องแฝงตัวเข้าร่วมงานเลี้ยงของนักธรุกิจชั้นแนวหน้าของโลกและต้องปลอมตัวเป็นนักเปียโนเพื่อเข้าไปในงาน ซึ่งก่อนที่เขาจะออกปฏิบัติการ เขาได้ให้จางเสว๋โหย่วที่เป็นเจ้าของเพลงมาสอนเขาเป็นการส่วนตัว
ฉินหยูและจ้าวหยาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า ทั้งสองคนไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเย่เชียนจะเล่นเปียโนได้ อีกทั้งเขายังเล่นได้ดีขนาดนี้อีกด้วย
หรืออันที่จริง… บางทีมันอาจเป็นเพราะหัวใจของพวกเธอเองที่กำลังเล่นตลก เพราะจริง ๆ แล้วเย่เชียนก็ไม่ได้เล่นดีถึงขั้นมืออาชีพ แต่เสียงของเย่เชียนนั้นไพเราะมากดั่งต้นฉบับ ดังนั้นมันจึงช่วยให้การเล่นเปียโนของเขาฟังดูดีไปด้วย วินาทีนั้นเองที่ทั้งฉินหยูและจ้าวหยาต่างก็มองไปที่เย่เชียนราวกับว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พวกเธอรู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าและความอ้างว้างของเขา และคิดว่าเขาคงเคยผ่านอดีตที่เจ็บปวดทรมานมากมาก่อน
ส่วนหูวเค่อ ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้รู้จักกับเย่เชียนจึงไม่ค่อยรู้สึกอะไรสักเท่าไหร่นัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมและหลงใหลในน้ำเสียงของเย่เชียนเช่นกัน เธอคิดในใจว่าผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์เหลือล้น แน่นอนว่าเสน่ห์นี้มันคงจะสามารถทำให้ฉินหยูตกหลุมรักเขาได้ไม่ยาก



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน