เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 86

“แหม… ผมคงไม่กล้าว่าอะไรหรอกครับ ผมแค่รู้สึกประหม่านิดหน่อยก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอกครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มที่เขินอายเล็กน้อย

บนสวรรค์ชั้นฟ้าที่ว่ามีทวยเทพ หลินโรโร่วเองก็มีลุงของเธอเช่นกัน ลุงซูไห่คนนี้เป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวเธอ นี่เป็นครั้งแรกสำหรับเย่เชียนในการต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ และมันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะค่อนข้างกระวนกระวายใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะเป็นถึงผู้นำของกลุ่มเขี้ยวหมาป่าก็ตาม

ซูไห่คิดกับตัวเองว่าชายหนุ่มผู้นี้ช่างเป็นคนตรงไปตรงมายิ่งนัก เขายิ้มให้เย่เชียนเล็กน้อยแล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้วตอนที่โรโร่วเริ่มอยากจะเป็นพยาบาลในเมืองเซี่ยงไฮ้ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่บ้านต่างก็ไม่เห็นด้วยนักหรอก แต่ถึงอย่างนั้นนิสัยของโรโร่วก็คล้ายคลึงกับฉันอยู่นิดหน่อยตรงที่ดื้อรั้นและไม่ยอมใคร พวกเราก็เลยยอมให้โรโร่วไปทำตามความฝันของเธอ ฉันคิดว่าเธอคงรู้ภูมิหลังครอบครัวของโรโร่วอยู่แล้วใช่ไหม ?”

เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยกับคำถามอันตรงไปตรงมาของลุงซูไห่ เขาเองไม่รู้ภูมิหลังครอบครัวของหลินโรโร่วเลย เขาจึงยิ้มกลับและพูดว่า “ผมรู้มาบ้างครับ… แต่ก็ไม่มากหรอก”

“อันที่จริงฉันกับป้าของโรโร่วไม่ได้อยากเข้ามายุ่งกับเรื่องของโรโร่ว เพราะไม่ว่าเธอจะคบกับใครหรือแต่งงานกับใครในมุมของฉันมันก็เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาวน่ะนะ แต่สำหรับตระกูลหลินในมณฑลเจ้อเจียงนั้น พวกเราถือได้ว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลอย่างมาก และพ่อแม่ของโรโร่วเองก็เข้มงวดมากด้วย แน่นอนว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการแต่งงานของโรโร่วเป็นอันดับต้น ๆ”

ซูไห่พูดค้างไว้ไม่ยอมต่อให้จบ เฉกเช่นเดียวกับข้าราชการระดับสูง ๆ และพวกขุนนางกับนายทหารยศสูงคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่พวกเขาเหล่านั้นมักจะชอบหยุดกลางคันและไม่ค่อยพูดให้จบประเด็น

เย่เชียนเข้าใจความหมายในสิ่งที่ซูไห่พูดเป็นอย่างดี เขารู้ว่าครอบครัวของหลินโรโร่วต้องการคนที่เหมาะสมทั้งในแง่ของสถานะทางครอบครัวและสิ่งอื่น ๆ ประกอบกัน

อย่างไรก็ตาม เย่เชียนเป็นคนที่มุ่งมั่นเสมอ ในสายตาของเขานั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฐานะครอบครัว รวมไปถึงทรัพย์สินต่าง ๆ และตำแหน่งทางสังคมสูง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ดังนั้นเมื่อซูไห่พูดจบ เย่เชียนจึงเพียงแค่เงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวผมจะเดินทางไปเยี่ยมท่านพ่อตาและท่านแม่ยายที่เคารพด้วยตัวผมเอง… เมื่อผมมีเวลาครับ”

คำพูดของเย่เชียนเหมือนกับว่าเขาตบเข้าไปที่ใบหน้าซูไห่อย่างไร้ความปรานี ซูไห่ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดหรือว่าเขานั้นโง่เกินกว่าที่จะทำความเข้าใจได้

ในที่สุดอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดก็ถูกเสิร์ฟมายังโต๊ะที่พวกเขานั่ง เย่เชียนลุกขึ้นรินไวน์ให้ซูไห่และเฉิงเฟิงเจิ้นพร้อมกับพูดว่า “คุณลุงคุณป้าครับ… ผมเป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่ผมจำความได้ ผมไม่เคยมีโอกาสได้เห็นหน้าพ่อกับแม่ผู้ให้กำเนิดผมเลย และผมเองก็ยังจำได้ไม่เคยลืมเลยว่าแต่ละวันมันแสนยากลำบากขนาดไหน… แต่ในที่สุดผมก็ได้รับการอุปถัมภ์เลี้ยงดูจากชายชราที่เลี้ยงชีพตัวเองด้วยการเก็บขยะไปขาย ผมนับถือเขาเหมือนดั่งเขานั้นเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของผมมาโดยตลอด เขาไม่มีเงินหรืออิทธิพลใด ๆ แต่เขาเป็นชายชราที่ใจดีที่สุดที่ผมเคยพบเจอมา ผมและพี่น้องทุกคนที่ถูกเขาเก็บมาเลี้ยงล้วนแล้วแต่เรียกเขาว่าพ่อได้อย่างเต็มปาก…

พ่อของผมมีลูกบุญธรรมทั้งหมดสี่คนครับ และสองในสี่คนนั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของเมืองเซี่ยงไฮ้นี้ด้วย… พี่ใหญ่เป็นรองเสนาธิการอยู่ในเขตทหาร น้องสามเป็นอธิการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ส่วนน้องเล็กนั้นเธอยังเรียนอยู่ครับ คนที่ไม่เป็นที่รู้จักใด ๆ เลยก็คือผมเองนี่แหละ ผมทำงานอย่างหนักหน่วงและไม่รู้เหนือรู้ใต้อะไร ผมไปอยู่ในต่างแดนมาเป็นเวลาแปดปีในแถบตะวันออกกลาง และคุณลุงคุณป้าก็น่าจะทราบดีว่าสถานที่แถบนั้นอยู่ในช่วงสงครามที่มีความโกลาหลอย่างดุเดือดไปทั่วทุกสารทิศ จนผมคุ้นเคยกับชีวิตและความตาย

ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีความสำเร็จอะไรใด ๆ เลย แต่ผมขอสาบานว่าผมจะดูแลโรโร่วให้ดีที่สุดเท่าที่คนอย่างผมจะสามารถทำได้ครับ… ผมคงต้องขอโทษคุณลุงคุณป้าเอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ เพราะผมอาจจะไม่มีความเข้าใจมากนักเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีอิทธิพลมากอย่างตระกูลหลิน แต่ถึงอย่างนั้นความรักในครั้งนี้มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโรโร่วกับผม มันจึงไม่ควรมีใครมาขวางกั้นหรือกีดกันเราออกจากกัน… แล้วคุณลุงกับคุณป้าล่ะครับ มีความคิดเห็นยังไงกันบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ?”

คำพูดของเย่เชียนนั้นไม่ได้หยิ่งผยองหรือเห็นแก่ตัวอะไรเลย น้ำเสียงและท่าทางการพูดของเขามีความหมายอย่างชัดเจนมาก ว่าแม้เขาทั้งสองจะเป็นลุงและป้าของหลินโรโร่ว ก็ใช่ว่าจะสามารถเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอได้

ซูไห่และเฉิงเฟิงเจิ้นต่างตกตะลึงกันอย่างสุดขีด แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจที่ออกมาจากจากคำพูดของเย่เชียน เขาจะต้องเป็นคนที่อดทนอดกลั้นมาก ถ้าจะต้องไปอาศัยอยู่ในแถบตะวันออกกลางและทำงานอย่างหนักมาตั้งแปดปีในสถานที่แบบนั้น แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจก็คือความจริงที่เย่เชียนพูดเอาไว้ว่า ‘ไม่ควรมีใครมาขวางกั้นหรือกีดกันเราออกจากกัน’ นี่เป็นทัศนคติคนหนุ่มสาวมีต่อผู้อาวุโสอย่างนั้นจริง ๆ งั้นหรือ ?

สำหรับซูไห่และเฉิงเฟิงเจิ้นนั้น พวกเขาไม่ได้โปรดปรานแต่ก็ไม่ได้เกลียดเย่เชียน เพราะเย่เชียนไม่ใช่คนโอ้อวดหยิ่งผยองหรือวางท่าใด ๆ เหมือนที่พวกคนหนุ่มสาวในสมัยนี้มักจะทำกัน และเมื่อพวกเขาทั้งสองมองดูเย่เชียนอย่างใกล้ชิดแล้ว พวกเขาก็คิดว่าเย่เชียนต้องมีความสามารถและมีประสบการณ์บางอย่างที่เขาไม่เคยเผยให้คนอื่นรู้อีกเป็นแน่

ตอนที่ 86 คุณลุง 1

ตอนที่ 86 คุณลุง 2

ตอนที่ 86 คุณลุง 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน