ผมใช้เวลาทั้งหมดสองปีในการนำกลุ่มเขี้ยวหมาป่าขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของเหล่ากองกำลังทหารรับจ้างจากการล้มล้าง เสือดาวทมิฬ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นดั่งราชาของเหล่าทหารรับจ้าง จนพวกเราได้กลายเป็นราชาแห่งกองกำลังทหารรับจ้างที่แท้จริง…
คุณรู้มั้ยว่าพวกเขาเรียกผมว่าอะไร ? พวกเขาเรียกว่า ราชาหมาป่าเย่เชียน ฮ่า ๆ ๆ เยี่ยมไปเลยใช่มั้ย ? แต่บางครั้งผมก็รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยล้ามาก ซึ่งจริง ๆ แล้วมันน่าจะเป็นความเหนื่อยล้าทางจิตใจเสียมากกว่า ผมรู้ว่าผมไม่สามารถหยุดได้ เพราะถ้าหากผมหยุดเมื่อไหร่ก็จะมีคนมาแทนที่ผมทันที ถ้าหากมันเป็นแบบนั้น สักวันหนึ่งทั้งผมและเขี้ยวหมาป่าก็อาจจะหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล…
โรโร่ว ในเมื่อคุณเป็นผู้หญิงของผม… ผมจึงคิดว่าผมควรบอกให้คุณรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของผม สำหรับคนสองคนที่รักกันมาก ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญต่อกันใช่มั้ย ? ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดีด้วยการฆ่าคนเลวเลย แต่ผมเชื่อว่าผมจะเป็นสามีที่ดีได้ และผมจะไม่ยอมปล่อยให้คนรักของผมต้องทนทุกข์ทรมานหรือเสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าผมจะต้องเผชิญหน้ากับใครก็ตามแต่ ผมก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรคุณ”
เย่เชียนพูดอย่างรวบรัด แต่หลินโรโร่วก็สามารถจินตนาการได้ว่าชีวิตของเย่เชียนก่อนหน้านี้นั้นเป็นอย่างไร
มันไม่ง่ายเลย ความจริงที่ถูกเปิดเผยนี้อาจจะทำให้ลำบากใจไม่มากก็น้อย ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกนานมาแล้วว่าเย่เชียนนั้นเป็นคนที่มีภาระมากมายให้ต้องจัดการ แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเช่นนี้
ทว่าถึงอย่างนั้น เรื่องราวเหล่านี้มันก็ไม่สำคัญสำหรับเธอ เพราะไม่ว่าเย่เชียนจะเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดา ๆ หรือจะเป็นทหารรับจ้างในการฆ่าคนก็ตาม ในสายตาของเธอ เย่เชียนเป็นคนเข้มแข็งที่ไม่มีวันพ่ายต่อศัตรู และเขาจะปกป้องดูแลครอบครัวของเขาทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
“เป็นยังไงบ้าง ? เรื่องราวของผมมันน่าตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะ ? บางครั้งผมก็คิดนะว่าถ้าผมเขียนเรื่องนี้ลงในหนังสือและตีพิมพ์ มันคงจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ผมคงไม่มีปัญญาไปทำแบบนั้นหรอก ฮ่า ๆ ๆ”
เย่เชียนไม่ต้องการให้บรรยากาศมันตึงเครียดและหดหู่จนเกินไป เขาจึงพยายามทำให้บรรยากาศดูน่าอภิรมย์ขึ้น
หลินโรโร่วมองเย่เชียนด้วยสายตาที่อ่อนโยนและซุกตัวเข้าไปซบอกเขา เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมากจริง ๆ เมื่ออยู่กับเขา
“คุณช่วยนัดให้ผมไปพบพ่อกับแม่ของคุณทีสิ… เพราะผมคงไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามอบว่าที่ภรรยาของผมให้คนอื่นได้” เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยแต่ทว่าสีหน้าของเขาดูจริงจังมาก
“ลุงและป้าจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับวันนี้อย่างแน่นอน เพราะงั้นถึงแม้ว่าคุณจะไม่พูด พวกเขาก็จะมาหาคุณเองแหละ เย่เชียน… ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นพ่อแม่ของฉัน ดังนั้นคุณ…”
หลินโรโร่วยังพูดไม่จบ เย่เชียนก็พูดขึ้นมาอย่างร้อนรน “คุณนี่ช่างโง่จริง ๆ คุณคิดอะไรของคุณอยู่เนี่ย ?” เย่เชียนสะกิดจมูกเธอเบา ๆ หนึ่งครั้งและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอก พวกเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และผมก็มีวิธีในแบบของผม”
“ขอบคุณนะ…” หลินโรโร่วพูดอย่างผ่อนคลาย
เย่เชียนยิ้ม “ค่ำคืนที่แสนมีค่านับพันนี้… ช่างเป็นค่ำคืนที่ยาวนานจริง ๆ เพราะงั้นเราคงต้องหาอะไรทำกันแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นมันจะน่าเบื่อไปหน่อย”
หลินโรโร่วหน้าแดงก่ำและคลอเคลียอยู่ที่อ้อมกอดของเย่เชียน เธอหวังว่าเธอจะอยู่อย่างนี้ไปตลอด
“ไปกันเถอะที่รัก” ไม่เพียงพูดเปล่า เย่เชียนอุ้มหลินโรโร่วไปที่ห้องน้ำ จากนั้นก็พูดต่อไปว่า “เราไปอาบน้ำกันเถอะ”
“อ๊ายยยยย…!” เมื่อถูกเย่เชียนอุ้ม หลินโรโร่วก็อดไม่ได้ที่จะตกใจจนร้องลั่น
ทั้งคู่ต่างก็เขินอายกันมาก ทว่าเย่เชียนเก็บอาการ ส่วนหลินโรโร่วทุบหน้าอกของเย่เชียนเบา ๆ และพูดว่า “ฉันเกลียดคุณที่สุดเลย!”
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แม้ว่าเขาเพิ่งจะปฏิเสธที่เธอจะมอบร่างกายให้กับเขาเมื่อครู่นี้ แต่เขาก็ยังแกล้งเธอ อันที่จริงเขาก็แค่อยากจะอาบน้ำกับเธอ เท่านั้นมันก็เพียงพอสำหรับคืนนี้แล้ว
เมื่อทั้งสองร่างกายเปลือยเปล่า ใบหน้าของหลินโรโร่วก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำคล้ายกับผลแอปเปิลที่สุกเต็มที่
เย่เชียนไม่ได้ล่วงเกินอะไรเธอเลย เขาเพียงแค่อุ้มเธอลงไปในอ่างอาบน้ำและถูร่างกายให้เธออย่างอ่อนโยน ผิวของหลินโรโร่วนั้นขาวนุ่มละมุนมาก อาจพูดได้ว่ามันเหมือนกับครีมทาผิวที่หากสัมผัสอย่างแรงมันก็อาจจะสลายหายไปได้
“นี่คือรอยสักเหรอ ?” หลินโรโร่วลูบไล้ที่หน้าอกของเย่เชียนและถามเบา ๆ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน