ตอนที่ 939 พูดคุยแบบจริงจัง (2)
เย่เชียนเห็นว่าใบหน้าของเย่เจียอู๋ดูไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะพูดอย่างชัดเจนว่าจะไม่แยกแยะระหว่างตระกูลและตระกูลรองอีกต่อไปก็ตามถึงยังไงเย่เจียอู๋ก็ไม่พอใจเสมอแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่เย่เชียนต้องการเพราะท้ายที่สุดตระกูลเย่ก็เป็นแบบนี้มานับพันปีแล้วและเย่เจียอู๋ก็รู้ว่าตระกูลรองจะต้องมีความขุ่นเคืองต่อตระกูลหลักซึ่งจะทำให้ครอบครัวมีปัญหาและไม่เป็นหนึ่งเดียว
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในหนึ่งหรือสองวันและต้องมีกระบวนการอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ได้เสนอแนะอย่างกะทันหันซึ่งทำให้เย่เจียอู๋ไม่สามารถยอมรับได้ทันทีแต่เย่เจียอู๋ก็ไม่ได้พูดอะไรแต่กำลังรอให้เย่เชียนอธิบายเพิ่มเติมเพราะเขารู้ว่าเย่เชียนยังมีเรื่องอื่นที่จะพูดอีก
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็เขี่ยก้นบุหรี่ในมือแล้วพูดว่า “ผมรู้ว่าปู่กังวลเรื่องอะไรแต่ลองคิดดูจากอีกมุมมองแล้วถ้าหากเรามอบอำนาจกับตระกูลรองล่ะก็พวกเขาจะรู้สึกว่าพวกเขาก็เป็นคนสำคัญในตระกูลและพวกเขาจะมีพลังและความทะเยอทะยานมากขึ้น..ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่กับหานหลินมานานแต่ผมรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์..ถ้าเราสามารถช่วยให้เขาบรรลุอุดมคติของเขาได้เขาก็จะตั้งใจพัฒนาอย่างแน่นอน..นอกจากนี้นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีไม่ใช่เหรอ?..ถ้าเราประกาศกับทุกคนว่าจากนี้ไปตระกูลเย่จะเป็นหนึ่งเดียวและไม่มีการแบ่งแยกตระกูลหลักกับตระกูลรองอีกต่อไปและทุกคนจะเท่าเทียมกัน..ตราบใดที่ใครมีความสามารถและทุ่มเทให้กับตระกูลล่ะก็ตระกูลก็จะมอบสิ่งดีๆและสนับสนุนคนๆนั้นอย่างเต็มที่”
เย่เจียอู๋ตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดเพราะเรื่องนี้เป็นทางเลือกที่ยากมากสำหรับเขา หลังจากเวลาผ่านไปนานเย่เจียอู๋ก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เย่เชียนแล้วถามว่า “แล้วเอ็งจะรับประกันได้ยังไงว่าพวกตระกูลรองจะไม่แข็งข้อและซื่อสัตย์ต่อตระกูล?”
เย่เชียนยักไหล่แล้วพูดว่า “ชีวิตคือการพนันและไม่มีใครเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ..ไม่มีคำพูดไหนที่จะยืนยันความจริงได้..เรารู้แค่ใบหน้าแต่ไม่รู้ธาตุแท้..เราแค่ต้องทำทุกอย่างที่เราต้องทำ..เราแค่คอยสนับสนุนทุกคนในตระกูลให้พวกเขาสามารถเห็นอนาคตที่สดใสในอนาคต..ผมคิดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้จะไม่มีใครโง่พอที่จะทรยศตระกูลหรอกใช่มั้ย?..นอกจากนี้ผลลัพธ์ที่จะได้ก็คือลูกหลานของตระกูลเย่ทุกคนจะทำทุกอย่างเพิ่มพัฒนาตัวเองและนั่นจะเป็นแรงกดดันที่มองไม่เห็นและผลักดันให้พวกเขาก้าวหน้าขึ้น..ตราบใดที่แรงกดดันนั้นแปรเปลี่ยนเป็นพลังได้สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกหลานของตระกูลเย่อย่างมาก”
“ฉันยังกังวลอยู่นิดหน่อย..ขอเวลาคิดดูก่อน” เย่เจียอู๋พูด
“ว่ากันว่าปู่เป็นคนแรกในตระกูลเย่ที่บุกเบิกและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้เข้ากับยุคสมัยใหม่และนำตระกูลเย่ไปสู่ความทันสมัยแล้วทำไมปู่ถึงมองเรื่องนี้อย่างมีเหตุผลไม่ได้ล่ะ?..ในสังคมปัจจุบันมันแตกต่างจากอดีตและเป็นสังคมที่พัฒนาไปไว..ส่วนความสัมพันธ์เก่าๆในโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณมันก็เปลี่ยนไปแล้วหากตระกูลเย่ต้องการยืนหยัดตลอดไปเราก็ต้องมีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและทรัพยากรทางการเงินจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อสนับสนุนตระกูล..แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสมาชิกที่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งได้..หากแม้แต่สมาชิกในตระกูลของเราไม่เชื่อใจกันล่ะก็อนาคตของตระกูลเย่ก็คงจะมืดมัวอย่างมาก” เย่เชียนพูดอย่างจริงจัง
เนื่องจากเย่เชียนสัญญากับเย่หานหลินเอาไว้ว่าเขาจะขจัดความแตกต่างระหว่างตระกูลหลักและตระกูลรองในตระกูลเย่และจะทำให้เกิดความเท่าเทียมและสนับสนุนทุกคนตราบใดที่ทุ่มเทให้กับตระกูล นี่ไม่เพียงแต่เพื่อคำมั่นสัญญาแต่ยังทำไปเพื่อการเติบโตของตระกูลเย่ด้วย ตราบใดที่นิสัยที่ระบบศักดินาเก่าถูกทำลายไปตระกูลเย่ก็จะสามารถก้าวไปสู่ยุคใหม่ที่รุ่งโรจน์ได้อย่างแท้จริง ด้วยวิธีนี้ตระกูลเย่จะแข็งแกร่งขึ้นและไร้เทียมทานอย่างมาก
เย่เชียนนั้นไม่เคยคิดที่จะเป็นผู้นำของตระกูลเย่เพราะเขาไม่สนใจตำแหน่งนี้ แต่เหตุผลที่เขาทำแบบนี้เขาก็แค่หวังว่าตระกูลของเขาจะสามารถอยู่รอดได้ในสังคมที่โหดร้ายในยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองไม่มีเวลาดูแลตระกูลเย่เลยดังนั้นถ้าหากส่งมอบตระกูลให้กับเขาล่ะก็ตระกูลเย่จะไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่จนเย่เชียนอยากให้เขามีสามหัวและหกแขนจริงๆเพื่อที่เขาจะได้ทำงานของเขาได้ทุกเรื่อง พูดง่ายๆว่าเย่เชียนยังคงมีกลุ่มพี่น้องที่ต้องดูแลรับผิดชอบอีกมากมายไม่งั้นเขาจะไม่สามารถยืนในจุดที่เขายืนอยู่ทุกวันนี้ได้เลย
เย่เจียอู๋สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “เฮ้อ..ดูเหมือนว่าปู่จะแก่แล้วจริงๆ..เสี่ยวเชียนเรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเอ็งที่จะตัดสินใจ..ฉันยินดีที่จะเดิมพันกับเอ็ง..ฉันจะบอกให้เจิ้งเซียงปล่อยวางและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการปฏิรูปของเอ็ง”
“คุณปู่..ขอผมพูดหน่อยสิ” เย่เชียนพูด “ถ้าปู่ทำแบบนั้นมันจะทำให้ลุงเจิ้งเซียงรู้สึกว่าปู่บังคับเขาและนั่นจะเป็นการต่อต้าน..การที่ผมปรากฏตัวมาอย่างกะทันหันแค่นั้นก็ทำให้ลุงเจิ้งเซียงไม่พอใจแล้ว หัวใจของลุงก็ถูกซ่อนไว้อยู่แล้วเพราะงั้นถ้าทำแบบนั้นลงไปมันจะไปเพิ่มความเกลียดชังในใจของเขามากกว่าเดิมและคิดว่าผมมาเพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลเย่..ซึ่งนั่นจะทำให้เขาเกลียดผมมากขึ้น..เพราะงั้นผมจะบอกปู่ว่าผมไม่ต้องการให้ความขัดแย้งในตระกูลเพราะผม”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน