ตกเย็น เย่เชียนพบว่าเขายังพอมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อย จึงเจียดเวลาไปทานอาหารเย็นกับหลินโรโร่ว ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้มีความสุขมากที่เขาพาเธอไปทานข้าวเย็นด้วยกัน เธอพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลแบบแทบไม่หยุดเลย
เย่เชียนไม่ต้องการขัดจังหวะเธอให้เสียบรรยากาศ เขาจึงนั่งฟังเรื่องราวของเธออย่างตั้งใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เวลาที่เขาอยู่กับเธอ เขามักจะรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากอยู่เสมอ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยากอยู่ข้าง ๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่ห่าง
หลังอาหารค่ำ เย่เชียนและหลินโรโร่วก็ไปเดินเล่นรอบสวนสาธารณะใกล้ ๆ
“โรโร่ว… ผมจะไม่อยู่ที่นี่สักพักนะ” เย่เชียนพูดหลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง
“หือ… คุณจะไปไหนเหรอ ?” หลินโรโร่วถามด้วยความสงสัย
“เมียนมาร์น่ะ… บริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจที่นั่น ผมจึงต้องไปจัดการเป็นการส่วนตัว” เย่เฉียนพยายามอย่างเต็มที่ที่จะอธิบายให้เธอเข้าใจง่าย
“แล้วคุณจะไปนานแค่ไหนล่ะ ?” หลินโรโร่วถาม
“ผมเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันจนกว่าจะไปถึงที่นั่นนู่นแหละ… แต่คงใช้เวลาไม่นานนักหรอก ไม่เกินเดือนนึงผมก็น่าจะกลับมาแล้วล่ะ” เย่เชียนตอบ
“อื้อ แต่คุณอย่าลืมโทรหาฉันตอนที่คุณอยู่ที่นั่นนะ ห้ามไปชายตามองสาวที่ไหนด้วย” หลินโรโร่วพูดอย่างซุกซน
เย่เชียนเขี่ยจมูกของเธอเบา ๆ และพูดว่า “คนโง่… สามีของคุณไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาหาพวกเขาและหยุดอยู่ข้างพวกเขาทั้งสอง ภายในรถคันนั้นมีแจ็ค หลี่เหว่ยยี่ เจมส์ และวิลเลียมนั่งอยู่ข้างในรถ
หลี่เหว่ยยี่หัวเราะเชิงแซว เขาพยักหน้าให้หลินโรโร่วแล้วพูดว่า “สวัสดีพี่สะใภ้!”
หลินโรโร่วหน้าแดงทันที และเธอก็หันไปพูดกับเย่เชียน “คุณไปเถอะ… ฉันกลับบ้านเองได้ ยังไงก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะ”
เย่เชียนพยักหน้า “คุณเองก็กลับบ้านระวัง ๆ ด้วยล่ะ”
หลังจากพูดเสร็จ เย่เชียนก็เข้าไปนั่งในรถ จากนั้นแจ็คก็เหยียบคันเร่งออกไปทันที
หลินโรโร่วคิดในใจขณะที่เธอเฝ้าดูรถที่หายวับไปในยามค่ำคืน ‘รักษาตัวดี ๆ นะเย่เชียนที่รัก… ฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่’
อันที่จริงเธอรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเย่เชียน ยิ่งเธอเองก็รู้เกี่ยวกับกลุ่มเขี้ยวหมาป่ามาบ้างจากที่เขาเล่าให้ฟัง เธอยิ่งรู้สึกได้ว่านี่คงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดเลย เย่เชียนคงเป็นห่วงเธอ เขาทำให้มันฟังดูเหมือนง่ายแต่เธอเข้าใจดีว่าเขาคงไม่ต้องการให้เธอเป็นกังวล เธอจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เย่เชียนต้องกังวลเกี่ยวกับเธอเช่นกัน
……
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เชียน หลี่เหว่ยยี่ เจมส์ และวิลเลี่ยมก็เดินทางมาถึงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมาร์ จากนั้นพวกเขาก็นั่งรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือของเมืองล่าเสี้ยวโดยไม่หยุดหรือแวะพักที่ไหนเลย
หลังจากที่พวกเขาหาโรงแรมได้แล้ว เย่เชียนก็เรียกทุกคนให้เข้าไปในห้องของเขา
เมืองล่าเสี้ยวนั้นเป็นตำแหน่งสุดท้ายที่พบเทียนเฉินตามพิกัดจากดาวเทียมส่วนตัว และนอกเหนือไปจากนั้นก็ไม่มีข่าวหรือข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ เกี่ยวกับเทียนเฉินเลย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องค่อย ๆ เริ่มต้นหาเบาะแสจากที่นี่ แม้ว่ามันจะเหมือนกับการหาเข็มในโพรงหญ้าก็ตาม แต่เย่เชียนก็จะไม่มีวันทอดทิ้งพี่น้องของเขี้ยวหมาป่าอย่างแน่นอน
เมืองล่าเสี้ยวตั้งอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ 230 กิโลเมตร มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 40,000 คน ในจำนวนนั้นมีผู้อพยพเชื้อสายจีนจำนวนมากรวมอยู่ด้วย ประเทศจีนและประเทศเมียนมาร์นั้นมีความสัมพันธ์กันทางธุรกิจอย่างมาก ทั้งการผลิตชาและการทำเหมืองแร่ต่าง ๆ รวมไปถึงแหล่งหินหยก หินทับทิม อัญมณี และอื่น ๆ อีกมากมาย พวกเขามีรางรถไฟที่เชื่อมระหว่างเมืองมัณฑะเลย์ที่อยู่ทางตอนใต้กับเมืองตงฉีที่อยู่ทางตอนเหนือ นอกจากนี้มันยังเชื่อมต่อกับมณฑลยูนนานและอยู่ห่างจากเมืองหว่านติงประมาณ 130 กิโลเมตรอีกด้วย



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน